สร้างบุษบกประดิษฐานพระโมคคัลลานะรับมอบพระกรุลำพูนอายุ๕๐๐-๗๐๐ ปี

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย :::เพชร:::, 13 มีนาคม 2008.

  1. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    พระร่วงหลังรางปืน ๔ องค์นี้เป็นยังไงกันบ้างครับ มือผีไม๊พี่...;5
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1011136.JPG
      P1011136.JPG
      ขนาดไฟล์:
      184.8 KB
      เปิดดู:
      31
    • P1011142.JPG
      P1011142.JPG
      ขนาดไฟล์:
      178.5 KB
      เปิดดู:
      31
    • P1011148.JPG
      P1011148.JPG
      ขนาดไฟล์:
      175.3 KB
      เปิดดู:
      44
    • P1011154.JPG
      P1011154.JPG
      ขนาดไฟล์:
      193.2 KB
      เปิดดู:
      27
    • P1011139.JPG
      P1011139.JPG
      ขนาดไฟล์:
      213 KB
      เปิดดู:
      31
    • P1011145.JPG
      P1011145.JPG
      ขนาดไฟล์:
      209.3 KB
      เปิดดู:
      29
    • P1011151.JPG
      P1011151.JPG
      ขนาดไฟล์:
      204.6 KB
      เปิดดู:
      23
    • P1011157.JPG
      P1011157.JPG
      ขนาดไฟล์:
      206.3 KB
      เปิดดู:
      28
    • P1011141.JPG
      P1011141.JPG
      ขนาดไฟล์:
      259.4 KB
      เปิดดู:
      23
    • P1011147.JPG
      P1011147.JPG
      ขนาดไฟล์:
      271.6 KB
      เปิดดู:
      22
    • P1011153.JPG
      P1011153.JPG
      ขนาดไฟล์:
      270.1 KB
      เปิดดู:
      24
    • P1011159.JPG
      P1011159.JPG
      ขนาดไฟล์:
      286.7 KB
      เปิดดู:
      17
  2. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เห็นคุณน้องนู๋นำพระลีลามาให้ชมกัน วันพรุ่งนี้ผมจะนำพระลีลากล้วยตาก เนื้อดิน กรุเตาทุเรียง พระลีลาซุ้มหงอนไก่ มาให้ศึกษาเนื้อหากัน เป็นพระเนื้อดินที่มีน้ำหนักเบามาก แสดงให้เห็นถึงความแห้ง เก่า อายุร่วม ๑,๓๐๐ ปีขึ้นไป
     
  3. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    เรียน ท่านเพชร
    เป็นบุญตา ครับ งดงามเกินคำบรรยาย ครับ
    โมทนาบุญกับทุกท่าน ครับ
     
  4. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    โมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ
    บุญอันใดที่ข้าพเจ้าได้ทำไว้ดีแล้ว และจะได้ทำอีกต่อๆไป
    ขอถวายแด่องค์พระร่วงเจ้า และพรหมเทพเทวาสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลายประจำองค์พระนะครับ
     
  5. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    แค่ได้ชมองค์พระ ก็เหมือนได้สัมผัสองค์พระร่วง ช่างเป็นบุญของกระผมจริงๆครับ3

    อนุโมทนา สาธุ สาธุ ครับ
     
  6. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 10 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

    </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>ตั้งจิต, aries2947+, chantasakuldecha, ศิษย์ต่างแดน, nongnooo </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ไม่ทำการทำงานกันหรือครับ ส่วนผมลาออกแล้ว มานั่งรอจองพระร่วงน่ะ:z16
     
  7. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    พี่ตั้งจิตครับ เอ้เราเพิ่งพูดเรื่องวจีกรรมไปนะครับ
    ระวังหน่อยนะครับ เป็นห่วงนะครับ(kiss)ไม่มีเจตนาอื่นใดครับ
     
  8. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    อิอิ น้อมรับด้วยความขอบคุณครับ
    เรื่องนี้เพิ่งจะปรารภกับตนเองไปเมื่อคืนครับ คือพี่นั้นโดยนิสัยถาวร(ทางธรรมเรียกวาสนาหรือไม่ ไม่แน่ใจ) เป็นคนพูดเล่นทั้งวัน
    โพสต์ในกระทู้ก็พูดเล่น/ไร้สาระ แต่บันเทิง(ใจตัวเองซัก99.99%)
    เมื่อคืนก็คิดว่า เอ๊ะเช่นนี้ยัง อยู่ในข่าย กรรมบถ 10 ไม่สมบูรณืหรือเปล่า( ไม่พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล) น่าจะเพลาๆนะ เช้ามาก็ว่าจะอ่านๆไม่พูดไรแล้ว อิอิ หลุดไปอีกแล้วตั้งหลายโพสต์
    ยังนึกเลยนึกมานานแล้วนะมีโอกาสจะได้ถามครูบาอาจารย์ว่าเลิกไป... หรือไม่เป็นไรเพราะใจเราแท้ไม่มุสา(โกหก) เคยได้อ่านว่าแม้พระอรหันต์ก็ยังเลิกนิสัย(วาสนาเก่าได้ยาก) เช่นพระอาจารย์มั่น จิตท่านไวมาก เข้าสมาธิแล้วจิตชอบกระโดดไปโน่นไปนี่ หลวงปู่แหวนและพระอีกหลายท่านที่ปฏิบัติงามก็ยังสูบยา(บุหรี่) เพราะ....เป็นสิ่งที่หลุดยาก อันนี้ ที่ยกมาไม่รู้ว่าจะเข้ากันมั้ย หรือถูกต้องหรือเปล่านะ เพียงเล่าความคิดให้ฟัง
    ถือโอกาสปุจฉา คุณเพชรรอบธรรมและลึกซึ้งกว่าผมหลายพันลี้ ช่วยวิสัชนาหน่อยครับ
    โมทนาบุญด้วยครับ
     
  9. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    รออ่านด้วยคนครับน่าสนใจนะครับพี่ตั้งจิตครับ
    น้องเอdeeja
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สายกลางครับ

    โดนกันมาแล้ว ไม่ใช่หรือครับ คณะเราก็เหมือนลูกปูที่จับใส่กระด้ง จับตัวนี้ลงกระด้งได้ อีกตัวปีนหนีออกจากกระด้ง อีกตัวกำลังปีนกระด้ง

    ไม่รู้ว่าจำกันได้หรือเปล่า

    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ทางเดินแต่ละท่านเลือกเองนะครับ

    ท่านใดจะไปสวรรค์
    ท่านใดจะไปพระนิพพาน
    ท่านใดจะไปลงห้วยลงเหวลงนรก

    เลือกทางเดินของตนเองให้ดีๆนะครับ
    อย่าหลง อย่างมงายกับกระแสที่คนบางพวก บางกลุ่มสร้างขึ้น

    ผมและคณะ เลือกทางเดินของตนเองแล้ว ไม่ไปลงห้วยลงเหว ไม่ไปเยี่ยมในนรกด้วยเพราะไม่ยินดีและยินยอมที่รู้จักกับคนเหล่านั้น

    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  12. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ลองนำความรู้ที่คุณหนุ่ม post ไว้เรื่องอกุศลกรรมบถ ๑๐ ในหัวข้อเรื่อง"วจีกรรม" ในหน้าที่ ๘๙ ของกระทู้นี้ครับ

    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ก็บุคคลผู้ประพฤติไม่เรียบร้อย คือ ไม่ประพฤติธรรมด้วยวาจา ๔ อย่างเป็นไฉน? ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้กล่าวคำเท็จ ... เป็นผู้กล่าวเท็จทั้งรู้อยู่ เป็นผู้พูดส่อเสียด คือ ได้ฟังแต่ข้างนี้แล้วนำไปบอกข้างโน้น ... และกล่าววาจาที่เป็นเครื่องทำให้แตกกันเป็นพวก ด้วยประการฉะนี้ เป็นผู้มีวาจาหยาบ คือกล่าววาจาหยาบที่เป็นโทษ ... เป็นผู้กล่าวไร้ประโยชน์ คือ พูดในเวลาที่ไม่ควรพูด
    พูดเรื่องที่ไม่เป็นจริง พูดไม่เป็นประโยชน์ พูดไม่เป็นธรรม พูดไม่เป็นวินัย กล่าววาจาไม่มีหลักฐาน ไม่มีที่อ้าง ไม่มีที่สุด ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ โดยกาลไม่สมควร.
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย บุคคลผู้ประพฤติไม่เรียบร้อยคือ ไม่ประพฤติธรรมด้วยวาจา ๔ อย่าง เป็นอย่างนี้แล.


    แยกทีละประเด็นคือ
    ๑)บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้กล่าวคำเท็จ ... เป็นผู้กล่าวเท็จทั้งรู้อยู่

    ๒)เป็นผู้พูดส่อเสียด คือ ได้ฟังแต่ข้างนี้แล้วนำไปบอกข้างโน้น ... และกล่าววาจาที่เป็นเครื่องทำให้แตกกันเป็นพวก ด้วยประการฉะนี้

    ๓)เป็นผู้มีวาจาหยาบ คือกล่าววาจาหยาบที่เป็นโทษ ...

    ๔)เป็นผู้กล่าวไร้ประโยชน์ คือ พูดในเวลาที่ไม่ควรพูด พูดเรื่องที่ไม่เป็นจริง พูดไม่เป็นประโยชน์ พูดไม่เป็นธรรม พูดไม่เป็นวินัย กล่าววาจาไม่มีหลักฐาน ไม่มีที่อ้าง ไม่มีที่สุด ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ โดยกาลไม่สมควร

    ข้อแรกนี้ตรงกับศีล ๕ ของเรา หากเราละเมิดข้อนี้ เราจะผิดทั้งศีล ๕ และกรรมบถ ๑๐ ข้อวจีกรรมข้อนี้ คือผิด ๑ กรรม ๒ วาระ แบบนี้ไม่คุ้มครับ

    อีก ๓ ข้อที่เหลือ แม้ไม่ผิดศีล ๕ แต่หากผิดวจีกรรมอีก ๓ ข้อใน กรรมบถ ๑๐ และหากบวกด้วยความมีอัตตาในตนเอง ด้วยจิตที่แข็งกระด้าง ก็จะนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้ง ไม่ยอมกัน ไม่ได้คุยด้วยเหตุผล เกิดความแค้น อาฆาต แบบนี้ พาลจะให้เกิดการละเมิดมโนกรรมอีก ๓ ข้อตามมา ก็ถือว่าเข้าข่ายความเสี่ยงครับ

    พระพุทธเจ้าพระองค์ท่านกำหนดวจีกรรมถึง ๔ ข้อ ซึ่งมากกว่าทางกายกาย และนโนกรรม ซึ่งมีเพียง ๓ ข้อ แสดงว่าอวัยวะที่เรียกว่า "ปาก"ซึ่งมี ๑ อันของเรานั้น มีโอกาสในการกระทำความผิดได้มากกว่าอวัยวะที่เราเรียกว่า"มือ"ซึ่งมี ๒ ข้างของเราที่จะละเมิดทางกาย เช่นไปทำร้ายเค้า ไปขโมยของเค้า เป็นต้น ใจ และความคิดของเรา ก็ยังมีโอกาสทำผิดได้น้อยกว่าวจีเลย..เช่นนี้เป็นต้น

    ก็ต้องพิจารณาแบบไม่เข้าตนเองครับ เพราะเราจะมุ่งเอาดีทางด้านกรรมบถ ๑๐ ไงครับ หากใจเรารู้ว่ามันเสี่ยงต่อการผิดวจีกรรมได้โดยง่าย เราก็จะระมัดระวังคำพูดของตนเอง นั่นคือมีสติกำกับ แต่หากเรากระทำไปแล้ว และเราไม่ยอมรับ เราย่อมจะมีวิธีการพูดให้เราดูดีมีเหตุผลได้ครับ
     
  13. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    สุดยอดเลยครับพี่เพชรครับ(good)(good)(good)(good)deeja;30
     
  14. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    ขอบคุณคุณหนุ่ม คุณเพชร และน้องเอครับ
    ผมดีใจที่ได้กัลยาณมิตร มิตรดีต้องคอยเตือนครับ
    เป็นอันว่าหากมีสติคอยกำกับ พิจารณาอยู่เนืองๆ เหมือนเหลาไม้ให้กลมปลายแหลม เหลาไปส่องไป ก็ได้ปัญญา(เกลาเกลี้ยง) แหลมคม และมีมีดดีคือเพื่อนดี ก็จะได้ปัญญาเร็วขึ้น แต่หากจะให้ดี อาจใช้กระดาษทรายช่วย(คือคุณหนุ่ม คุณเพชรมอบพระให้บ้าง เพื่อเป็นพลังช่วย และเพิ่มกำลังใจ) (smile)ในที่สุด มันก็จะสมบูรณ์

    โมทนาสาธุครับ
     
  15. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    จบได้สวยมากครับพี่ตั้งจิตครับ(deejai);k03
     
  16. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    พระที่เก่ามากก็มีแล้ว และพระที่ดีมากก็มีแล้ว จะเอาอะไรอีกหรือ ?...พยายามเค้นแล้วก็คิดว่าน่าจะไม่มีอะไรที่เหมาะกับคุณตั้งจิตอีกแล้วนา ครบแล้ว เต็มแล้ว หากจะเอาอีก ต้องเอาของเก่า ของเดิม ของดีมากออกมาฝากผมก่อน ของใหม่ ของดี จึงจะเข้าไปแทนที่นะ...:p
     
  17. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    เพราะว่าผมเป็น แฟนพันธ์แท้ครับ (||)
     
  18. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    55 ไม่มีไรครับ ติดนิสัยเดิมครับเลยหยอดไปหน่อย ความจริงความอยากได้เป็นระยะ ก้เป็นธรรมดาที่ยังไม่หมดเชื้อ แต่ความอยากได้ในสมบัติของผู้อื่น นั้นไม่ดีแน่ ยกเว้นท่านยินดีจะมอบให้
    สำนวนนี้ จะเอาอะไรอีกหรือ ?...ผมคุ้นๆนะ มักพบในวาจาของผู้เปี่ยมด้วยเมตตา
    ของที่ผมได้มาล้วนเป็นของดีมาก แต่หากของเก่าของเดิมใดผมที่เป็นของฝากคุณเพชรได้ขอให้บอกครับ ด้วยความยินดี(kiss)
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthrea...22445&page=914

    http://202.44.204.76/cgi-bin/stshow....word1=กุศลกรรม

    [​IMG] พระสุตตันตปิฎก ออนไลน์ [​IMG]
    Larntum Suttanta-Pitaka Online
    http://202.44.204.76/cgi-bin/stshow....word1=กุศลกรรม

    พระไตรปิฎกเล่มที่ 12 พระสุตตันตปิฎก เล่ม 4
    มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ จูฬยมกวรรค เวรัญชกสูตร



    <CENTER>๒. เวรัญชกสูตร</CENTER><CENTER>ว่าด้วยเหตุปัจจัยให้เข้าถึงสุคติ</CENTER>[๔๘๘] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้:-
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น พวกพราหมณ์และคฤหบดี ชาวเมืองเวรัญชา พักอยู่ในเมืองสาวัตถีด้วยกิจบางอย่าง ได้สดับข่าวว่า พระสมณโคดมผู้เจริญ เป็นศากยสกุลทรงผนวชแล้ว ประทับอยู่ที่พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถีกิตติศัพท์อันงามของท่านพระโคดมพระองค์นั้นขจรไปแล้วอย่างนี้ว่า
    แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ
    ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลกเป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบาน เป็นผู้จำแนกพระธรรม พระองค์ทรงทำโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ให้แจ้งชัดด้วยปัญญาอันยิ่งของพระองค์เองแล้ว ทรงสั่งสอนหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์เทวดา และมนุษย์ให้รู้ตาม ทรงแสดงธรรมงาม
    ในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ทรงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิงก็การเห็นพระอรหันต์ทั้งหลายเห็นบาปนั้น ย่อมเป็นการดี

    ดังนี้.
    ครั้งนั้น พวกพราหมณ์และคฤหบดีชาวเมืองเวรัญชา จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว บางพวกถวายอภิวาท พระผู้มีพระภาค บางพวกทูลปราศรัยกับพระผู้มีพระภาคพอให้ระลึกถึง บางพวกประนมอัญชลี ต่อพระผู้มีพระภาค บางพวกประกาศชื่อและโคตรในสำนักพระผู้มีพระภาค บางพวกก็นิ่งอยู่ แล้วต่างก็นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้สัตว์บางพวกในโลกนี้ เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต และนรก เบื้องหน้าแต่ตาย เพราะกายแตก ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ อะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้สัตว์บางพวกในโลกนี้ เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก?
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย สัตว์บางพวกในโลกนี้ เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต และนรก เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เพราะเหตุ คือ ความประพฤติไม่เรียบร้อย คือ ไม่ประพฤติธรรม ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย สัตว์บางพวกในโลกนี้เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก ย่อมเข้าถึงสุคติ โลกสวรรค์ เพราะเหตุประพฤติเรียบร้อย คือประพฤติธรรม

    พราหมณ์และคฤหบดีเหล่านั้นทูลว่า พวกข้าพระองค์ ย่อมไม่รู้เนื้อความโดยพิสดารแห่งธรรมที่พระโคดมผู้เจริญตรัสโดยย่อ มิได้ทรงจำแนกความให้พิสดาร ขอท่านพระโคดมโปรดแสดงธรรมแก่พวกข้าพระองค์ โดยให้พวกข้าพระองค์ พึงรู้เนื้อความอย่างพิสดารแห่งธรรมที่ท่านพระโคดมตรัสโดยย่อ มิได้ทรงจำแนกความให้พิสดารเถิด.

    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ถ้าเช่นนั้น พวกท่านจงฟังจงทำในใจให้ดี เราจักกล่าว.
    พวกพราหมณ์และคฤหบดีชาวเมืองเวรัญชา ทูลรับพระดำรัสพระผู้มีพระภาคแล้ว.



    <CENTER>กุศลกรรมบถ ๑๐</CENTER>[๔๘๙] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย บุคคลเป็นผู้ประพฤติไม่เรียบร้อย คือ ไม่ประพฤติธรรมด้วยกายมี ๓ อย่าง ด้วยวาจามี ๔ อย่าง ด้วยใจมี ๓ อย่างดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ก็บุคคลเป็นผู้ประพฤติไม่เรียบร้อย คือ ไม่ประพฤติด้วยกาย๓ อย่างเป็นไฉน? ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ก็บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ฆ่าสัตว์คือเป็นผู้มีใจหยาบ มีมือเปื้อนเลือด พอใจในการประหารและการฆ่า ไม่มีความละอาย ไม่ถึงความเอ็นดูในสัตว์ทั้งปวง.เป็นผู้ถือเอาทรัพย์ที่เขามิได้ให้ คือ ลักทรัพย์อันเป็นอุปกรณ์เครื่องปลื้มใจของบุคคลอื่น ที่อยู่ในบ้าน หรือที่อยู่ในป่า ที่เจ้าของมิได้ให้ ซึ่งนับว่าเป็นขโมย
    เป็นผู้ประพฤติผิดในกามทั้งหลาย คือ ถึงความสมสู่ในพวกหญิงที่มารดารักษา ...
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย บุคคลผู้ประพฤติไม่เรียบร้อย คือ ไม่ประพฤติธรรมด้วยกาย ๓ อย่าง เป็นอย่างนี้แล.
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ก็บุคคลผู้ประพฤติไม่เรียบร้อย คือ ไม่ประพฤติธรรมด้วยวาจา ๔ อย่างเป็นไฉน? ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้กล่าวคำเท็จ ... เป็นผู้กล่าวเท็จทั้งรู้อยู่ เป็นผู้พูดส่อเสียด คือ ได้ฟังแต่ข้างนี้แล้วนำไปบอกข้างโน้น ... และกล่าววาจาที่เป็นเครื่องทำให้แตกกันเป็นพวก ด้วยประการฉะนี้ เป็นผู้มีวาจาหยาบ คือกล่าววาจาหยาบที่เป็นโทษ ... เป็นผู้กล่าวไร้ประโยชน์ คือ พูดในเวลาที่ไม่ควรพูด
    พูดเรื่องที่ไม่เป็นจริง พูดไม่เป็นประโยชน์ พูดไม่เป็นธรรม พูดไม่เป็นวินัย กล่าววาจาไม่มีหลักฐาน ไม่มีที่อ้าง ไม่มีที่สุด ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ โดยกาลไม่สมควร.
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย บุคคลผู้ประพฤติไม่เรียบร้อยคือ ไม่ประพฤติธรรมด้วยวาจา ๔ อย่าง เป็นอย่างนี้แล.
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ก็บุคคลประพฤติไม่เรียบร้อย คือ ไม่ประพฤติธรรมด้วยใจ ๓ อย่างเป็นไฉน? ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้มีความโลภมาก คือเพ่งต่อทรัพย์อันเป็นอุปกรณ์เครื่องปลื้มใจของบุคคลอื่นว่า ขอของผู้อื่นพึงเป็นของเรา ดังนี้.
    เป็นผู้มีจิตพยาบาท คือ ความดำริในใจคิดประทุษร้ายว่า ขอสัตว์เหล่านี้จงถูกฆ่าบ้างจงถูกทำลายบ้าง จงขาดสูญบ้าง อย่าได้มีแล้วบ้าง ดังนี้.
    เป็นผู้มีความเห็นผิด คือ มีความเห็นวิปริตว่า ผลงานแห่งทานที่ให้แล้วไม่มี ผลแห่งการบูชาไม่มี ผลแห่งการเซ่นสรวงไม่มี ... สั่งสอนผู้อื่นให้รู้ ไม่มีในโลก ดังนี้.
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย บุคคลผู้ประพฤติไม่เรียบร้อย คือไม่ประพฤติธรรมด้วยใจ ๓ อย่าง เป็นอย่างนี้แล.
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย สัตว์บางพวกในโลกนี้ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก ย่อมเข้าถึงอบายทุคติ วินิบาต และนรกอย่างที่กล่าวนั้น เพราะเหตุแห่งความประพฤติไม่เรียบร้อย คือ ไม่ประพฤติธรรม อย่างนี้แล.

    <CENTER>กุศลกรรมบถ ๑๐</CENTER>[๔๙๐] ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ก็บุคคลผู้ประพฤติเรียบร้อย คือ ผู้ประพฤติธรรมด้วยกายมี ๓ อย่าง ด้วยวาจามี ๔ อย่าง ด้วยใจมี ๓ อย่าง ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ก็บุคคลประพฤติธรรมด้วยกาย ๓ อย่างเป็นไฉน? ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลายบุคคลบางคนในโลกนี้ ละการฆ่าสัตว์ เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ วางทัณฑะ วางศาตรา มีความละอาย มีความเอ็นดู มีความกรุณาหวังประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์ทั้งปวงอยู่.ละการถือเอาทรัพย์ที่เขามิได้ให้ เว้นขาดจากการลักทรัพย์ ไม่ลักทรัพย์อันเป็นอุปกรณ์เครื่องปลื้มใจของผู้อื่น ที่อยู่ในบ้าน หรือที่อยู่ในป่า ที่เจ้าของมิได้ให้ซึ่งนับว่าเป็นขโมย.
    ละความประพฤติผิดในกายทั้งหลาย เว้นขาดจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย คือไม่ถึงความสมสู่ในพวกหญิง ที่มารดารักษา ...
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย บุคคลผู้ประพฤติเรียบร้อย คือผู้ประพฤติธรรมด้วยกาย ๓ อย่าง เป็นอย่างนี้แล.
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ก็บุคคลผู้ประพฤติเรียบร้อย คือประพฤติธรรมด้วยวาจา ๔ อย่าง เป็นไฉน? ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ละการพูดเท็จ เว้นขาดจากการพูดเท็จ ไปในที่ประชุม ... และไม่กล่าวเท็จทั้งรู้อยู่ ...ละวาจาอันส่อเสียด เว้นขาดจากวาจาอันส่อเสียดกล่าววาจาที่เป็นเครื่องทำความพร้อมเพรียงกัน.
    ละวาจาหยาบ เว้นขาดจากวาจาหยาบ ... กล่าววาจาที่ไม่มีโทษ ...
    ละการพูดไร้ประโยชน์ เว้นขาดจากการพูดไร้ประโยชน์ ... มีหลักฐานมีที่อ้าง มีที่สุดประกอบด้วยประโยชน์ โดยกาลอันควร.
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ก็บุคคลผู้ประพฤติเรียบร้อย คือประพฤติธรรมด้วยวาจา ๔ อย่าง เป็นอย่างนี้แล.
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ก็บุคคลผู้ประพฤติเรียบร้อย คือประพฤติธรรมด้วยใจ ๓ อย่าง เป็นไฉน? ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ไม่มีความโลภ ไม่เพ่งเล็งต่อทรัพย์อันเป็นอุปกรณ์เครื่องปลื้มใจของผู้อื่นว่า ขอของผู้อื่นพึงเป็นของเราดังนี้.
    เป็นผู้มีจิตไม่พยาบาท ไม่มีความดำริในใจคิดประทุษร้ายว่า ขอสัตว์เหล่านี้ จงเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียนกัน ไม่มีทุกข์ มีแต่สุข รักษาตนเถิด ดังนี้.
    เป็นผู้มีความเห็นชอบ มีความเห็นไม่วิปริตว่า ผลแห่งทานที่ให้แล้วมีอยู่ผลแห่งการบูชามีอยู่ ... สมณะและพราหมณ์ทั้งหลาย ผู้ดำเนินชอบ ปฏิบัติชอบ ผู้ทำโลกนี้และโลกหน้า ให้แจ้งชัดด้วยปัญญาอันรู้ยิ่งเองแล้ว สอนให้ผู้อื่นรู้ได้มีอยู่ในโลก ดังนี้.
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย บุคคลผู้ประพฤติเรียบร้อย คือประพฤติธรรมด้วยใจ๓ อย่าง เป็นอย่างนี้แล.
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย สัตว์บางพวกในโลกนี้ ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เพราะเหตุแห่งความประพฤติเรียบร้อย คือ ประพฤติธรรมอย่างนี้แล.


    <CENTER>ว่าด้วยผลแห่งความประพฤติเรียบร้อย</CENTER>[๔๙๑] ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ถ้าบุคคลผู้ประพฤติเรียบร้อย คือ ประพฤติธรรมพึงหวังว่า เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เราพึงเข้าถึงความเป็นพวกกษัตริย์มหาศาลข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้ คือ บุคคลนั้นพึงเข้าถึงความเป็นพวกกษัตริย์มหาศาล นั่นเป็นเพราะเหตุอะไร เป็นเพราะบุคคลนั้นเป็นผู้ประพฤติเรียบร้อย คือ เป็นผู้ประพฤติธรรม อย่างนั้นแหละ.
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ถ้าบุคคลผู้ประพฤติเรียบร้อย คือ ประพฤติธรรมพึงหวังว่า เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เราพึงเข้าถึงความเป็นพวกพราหมณ์มหาศาล ... ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ถ้าบุคคลผู้ประพฤติเรียบร้อย คือ ประพฤติธรรมพึงหวังว่า เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เราพึงเข้าถึงความเป็นพวกคฤหบดีมหาศาล ข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้ คือบุคคลนั้นเบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก พึงเข้าถึงความเป็นพวกคฤหบดีมหาศาลนั่นเป็นเพราะเหตุอะไร เป็นเพราะบุคคลนั้นเป็นผู้ประพฤติเรียบร้อย คือ เป็นผู้ประพฤติธรรมอย่างนั้นแหละ.
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ถ้าบุคคลผู้ประพฤติเรียบร้อย คือ ประพฤติธรรมพึงหวังว่า เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เราพึงเข้าถึงความเป็นพวกเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกาข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้ คือ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก บุคคลนั้นพึงเข้าถึงความเป็นพวกเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา นั่นเป็นเพราะเหตุอะไร เพราะบุคคลนั้นเป็นผู้ประพฤติเรียบร้อย คือเป็นผู้ประพฤติธรรม อย่างนั้นแหละ.
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ถ้าบุคคลผู้ประพฤติเรียบร้อย คือ ประพฤติธรรมพึงหวังว่า เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เราพึงเข้าถึงความเป็นพวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ ... ความเป็นพวกเทวดาชั้นยามา ... ความเป็นพวกเทวดาชั้นดุสิต ... ความเป็นพวกเทวดาชั้นนิมมานรดี ...ความพวกเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ...

    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ถ้าบุคคลผู้ประพฤติเรียบร้อย คือประพฤติธรรมพึงหวังว่า เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เราพึงเข้าถึงความเป็นพวกเทวดาผู้เนื่องในหมู่พรหมข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้ คือ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก บุคคลนั้นพึงเข้าถึงความเป็นพวกเทวดาผู้เนื่องในหมู่พรหม นั่นเป็นเพราะเหตุอะไร เพราะบุคคลนั้นเป็นผู้ประพฤติเรียบร้อย คือเป็นผู้ประพฤติธรรม อย่างนั้นแหละ.
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ถ้าบุคคลผู้ประพฤติเรียบร้อย คือ ประพฤติธรรมพึงหวังว่า เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เราพึงเข้าถึงความเป็นพวกเทวดาชั้นอาภา ข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้ คือ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก บุคคลนั้นพึงเข้าถึงความเป็นพวกเทวดาชั้นอาภา นั่นเป็นเพราะเหตุอะไร เพราะบุคคลนั้นเป็นผู้ประพฤติเรียบร้อย คือ เป็นผู้ประพฤติธรรมอย่างนั้นแหละ.
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ถ้าบุคคลผู้ประพฤติเรียบร้อย คือ ประพฤติธรรมพึงหวังว่า เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เราพึงเข้าถึงความเป็นพวกเทวดาชั้นปริตตาภา ...ความเป็นพวกเทวดาชั้นอัปปมาณาภา ... ความเป็นพวกเทวดาชั้นอาภัสสระ ... ความเป็นเทวดาชั้นปริตตสุภา ... ความเป็นพวกเทวดาชั้นอัปปมาณสุภา ... ความเป็นพวกเทวดาชั้นสุภกิณหกะ ... ความ
    เป็นพวกเทวดาชั้นเวหัปผละ ... ความเป็นพวกเทวดาชั้นอวิหา ... ความเป็นพวกเทวดาชั้นอตัปปา ...ความเป็นพวกเทวดาชั้นสุทัสสา ... ความเป็นพวกเทวดาชั้นสุทัสสี ... ความเป็นพวกเทวดาชั้นอกนิฏฐะ ... ความเป็นพวกเทวดาผู้เข้าถึงอากาสานัญจายตนภพ ... ความเป็นพวกเทวดาผู้เข้าถึงวิญญาณัญจายตนภพ ... ความเป็นพวกเทวดาผู้เข้าถึงอากิญจัญญายตนภพ ...
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ถ้าบุคคลผู้ประพฤติเรียบร้อย คือประพฤติธรรมพึงหวังว่า เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เราพึงเข้าถึงความเป็นพวกเทวดาผู้เข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนภพ ข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้ คือ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก บุคคลนั้นพึงเข้าถึงความเป็นพวกเทวดาผู้เข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนภพ นั่นเป็นเพราะเหตุอะไร เพราะบุคคลนั้นเป็นผู้ประพฤติเรียบร้อย คือ เป็นผู้ประพฤติธรรม อย่างนั้นแหละ.
    ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ถ้าบุคคลผู้ประพฤติเรียบร้อย คือ ประพฤติธรรมพึงหวังว่า ขอเราพึงทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุตติ อันไม่มีอาสวะ เพราะสิ้นอาสวะเพราะรู้ยิ่งเองแล้ว เข้าถึงอยู่ในชาตินี้เถิด ข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้ คือ บุคคลนั้นพึงทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันไม่มีอาสวะ เพราะสิ้นอาสวะ เพราะรู้ยิ่งเองแล้ว เข้าถึงอยู่ในชาตินี้ นั่นเป็นเพราะเหตุอะไร เพราะบุคคลนั้นเป็นผู้ประพฤติเรียบร้อย คือ เป็นผู้ประพฤติธรรมอย่างนั้นแหละ.


    <CENTER>ความเป็นผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต</CENTER>[๔๙๒] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว พวกพราหมณ์และคฤหบดีชาวเมืองเวรัญชา ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนักข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนักพระองค์ทรงประกาศพระธรรมโดยอเนกปริยาย เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิดบอกทางแก่ผู้หลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืดด้วยตั้งใจว่าคนมีจักษุจักเห็นรูปได้ ดังนี้ พวกข้าพระองค์นี้ ขอถึงพระโคดมผู้เจริญกับพระธรรมและพระภิกษุสงฆ์ว่า เป็นสรณะ ขอพระโคดมผู้เจริญ ขอทรงจำพวกข้าพระองค์ว่าเป็นอุบาสก ผู้ถึงพระรัตนตรัย เป็นสรณะตลอดชีวิต จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉะนี้แล.


    <CENTER>จบ เวรัญชกสูตร ที่ ๒</CENTER><CENTER>---------------</CENTER>หมายเหตุ พระสุตตันตปิฎก ออนไลน์ นี้อ้างอิงข้อมูลจาก พระไตรปิฎก ฉบับสยามรัฐ
    การแสดงผลหรือลำดับพระสูตร หากพบข้อผิดพลาดกรุณาแจ้งได้ที่ phaisarn_pt@yahoo.com
    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  20. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    <!-- / message --><!-- attachments -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    </FIELDSET>
    คืนนี้เป็นองค์ที่ ๔ ครับ

    [​IMG] [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...