สร้างบุษบกประดิษฐานพระโมคคัลลานะรับมอบพระกรุลำพูนอายุ๕๐๐-๗๐๐ ปี

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย :::เพชร:::, 13 มีนาคม 2008.

  1. พุทธันดร

    พุทธันดร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    565
    ค่าพลัง:
    +3,969
    ยินดีร่วมทำสมาธิและกรรมฐานถวายในหลวงด้วยค่ะ
    กรุณาปรับนาฬิกาให้ตรงกันด้วยนะคะ
    โทรไปตั้งเวลาได้ที่ เบอร์ 181
    จะได้มีพลังรวมจากทุกคนและไม่คลาดเคลื่อนกันค่ะ
    อนุโมทนาในจิตอันเป็นกุศลของทุกท่านด้วยนะคะ
     
  2. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    เรียน ท่าน เพชร ครับ
    โอนแล้วทางATM วันที่ 1/7/2551 เวลา 11:24 น.
    จำนวน 4,000.00 บาท ครับ

    ผมขอร่วมทำสมาธิและกรรมฐาน เพื่อถวายเป็น
    พระราชกุศล เวลา 9.00-9.05pm ครับ

    โมทนาบุญกับทุกท่าน ครับ
     
  3. ศิษย์โลกอุดร

    ศิษย์โลกอุดร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    902
    ค่าพลัง:
    +2,541
    ข่าวด่วน..* การเปิด "เว็บวัดท่าซุง" เป็นปฐมฤกษ์ วันที่ 1 ก.ค. 51 เวลา 09.00 น.
     
  4. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    พี่ท่านใดน๊า....ฝากคนแก่ๆมาจอง(ping-love
     
  5. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
  6. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    สุดยอดเลยครับ ละเอียดรอบคอบมากครับ
    โมทนาบุญพระกรรมฐานและทุกๆบุญกับพี่แด๋นและทุกๆท่านด้วยครับ
    น้องเอ(||)
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    ว่าจะจองให้กับพี่ท่านนึง ก็จองไม่ทัน ผมลบการจองไปแล้ว(ช้าไป 2 นาที) มัวแต่คุยโทรศัพท์ก็เลยจองไม่ทัน
    ยินดีกับคุณnewcomer ด้วยครับ
    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เหอๆๆ ถ้าไม่คุยโทรศัพท์ จองทันแน่นอนอยู่แล้ว
    ยังเคยไปประมูลกับคุณเพชรเลย เวลาและจังหวะเป๊ะๆ ไม่พลาด ;)

    .
     
  8. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    ยินดีด้วยครับ
     
  9. newcomer

    newcomer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,317
    ค่าพลัง:
    +3,934
    เรียน ท่านเพชร ครับ
    วันนี้ผมร่วมทำสมาธิและกรรมฐาน เพื่อถวายเป็น
    พระราชกุศล เวลา 9.00-9.05pm ครับ
    ( ผมรู้สึกรับกระแสของผู้ที่ร่วมกันทำสมาธิและกรรมฐาน ได้ประมาณ 4 ท่านครับ )
    โมทนาบุญกับทุกท่าน ครับ
     
  10. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    <TABLE class=tborder id=post1320731 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] วันนี้, 11:30 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1675 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พุทธันดร<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1320731", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 11:34 AM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    ข้อความ: 434
    Groans: 0
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 5,076
    ได้รับอนุโมทนา 5,071 ครั้ง ใน 438 โพส
    พลังการให้คะแนน: 462 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1320731 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ยินดีร่วมทำสมาธิและกรรมฐานถวายในหลวงด้วยค่ะ
    กรุณาปรับนาฬิกาให้ตรงกันด้วยนะคะ
    โทรไปตั้งเวลาได้ที่ เบอร์ 181
    จะได้มีพลังรวมจากทุกคนและไม่คลาดเคลื่อนกันค่ะ
    อนุโมทนาในจิตอันเป็นกุศลของทุกท่านด้วยนะคะ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ขอโมทนาบุญกรรมฐาน บุญละเอียด บุญที่ไม่ต้องเสียสตางค์ หากได้รับพระเปิดโลกแล้ว จะช่วยหนุนอีกแรง เป็นกำลังพุทธานุสติ
     
  11. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    รับทราบครับ..(good)
     
  12. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    ผมก้อต้องตั้งสติก่อน 5นาทีเพื่อทำสมาธิ และก้อต้องขับรถไปด้วย และคุยไปด้วย ไม่รู้ว่าจะครบสมบูรณ์ ไหมขอรับ
     
  13. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    บุญโดยเสด็จพระราชกุศลคืออะไร?

    โดยเสด็จพระราชกุศล
    ท่านสาธุชนพุธบริษัททั้งหลาย ที่เป็นศิษย์หรือไม่ใช่ลูกศิษย์ก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันนี้ป่วยมาก มีอาการเพลียเป็นพิเศษ นั่งที่ไหนก็อยากจะหลับ พอดีเป็นวันพระแรม ๘ ค่ำเดือน ๘ จะลงศาลาก็คงไม่ไหว เทศน์ก็เทศน์ไม่ไหว จะเดินก็เดินไม่ไหว ความตายมันคลานเข้ามาเต็มที ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง ที่พระพุทธเจ้าเทศน์กับเปสการีท่องไว้ทุกวัน จำไว้ทุกวัน มีความรู้สึกกว่า ไม่ช้าชีวิตนี้มันก็ต้องตายถ้าความตายมันเข้ามาถึง บรรดาท่านทั้งหลาย สิ่งที่ต้องการนั้นคือพระนิพพาน ใครเข้าหาว่า บ้าๆ บวมๆ ก็ตามใจ บางท่านบอกว่า พระนิพพานสูญ ตามตำราต่างๆ ก็บอกว่ามีสภาพสูญ แต่ทว่าเมื่อปี ๒๕๐๐ ปีนั้นป่วยมาก ต้องเข้าโรงพยาบาลวันแรก มีการอืดเสียดหนัก ตอนหัวค่ำ วันที่สอง ก็มีอาการอืดเสียดหนักตอนหัวค่ำ พอวันที่สาม จึงสั่งจ่าพยาบาล ให้ไขเตียงให้นั่งได้ เตรียมตัวว่าวันนี้ ถ้าจะขอตาย ก็ตายด้วยสมาธิ และวิปัสสนาญาณเวลา๑ทุ่ม ก็เริ่มทำสมาธิ คิดว่าประมาณ ๒ ทุ่ม ทุกวัน ๒วันมาแล้ว แต่ว่าวัน นี้แปลก คำว่า วันนี้หมายถึง วันนั้นนะ วันนั้นแปลก แทนที่จะมีอาการอืดเสียดกลับมีใจปลอดโปร่งสบายมาก มีอารมณ์เป็นสุข มีอารมณ์แช่ม ชื่นปลอดโปร่งปลดปล่อยทุกอย่าง การป่วยคราวนั้น บรรดาท่านพุทธบริษัท เป็นการป่วยที่แปลกที่สุดพอร่างกายเข้าถึงโรงพยาบาลอารมณ์ก็วางทุกอย่าง ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก ไม่มีอะไรต้องการทรัพย์สินต่างๆ ทั้งหมดไม่นึกถึง ญาติพี่น้อง ผู้ที่สมาคมไม่นึกถึง ไม่นึกถึงอะไรทั้งหมด จิตมีอารมณ์เฉยสบาย คิดอยู่อย่างเดียวว่า แม้ร่างกายสักครู่เดี่ยวมันอาจจะตาย ถ้ามันตายเวลานี้ก็เป็นเรื่องมัน ไม่เสียดายร่างกาย อารมณ์เป็นสุขใครไปใครมา ก็คุยปรกติ บางคนคิดว่าไม่ได้ป่วย แต่ความจริงเดินไม่ค่อยไหว แต่ว่าเวลานั้น ปรากฏว่า เวลา ๒ทุ่ม ตรง เป็นเวลาที่อาการอืดเสืยดมันจะมา กลับกลายเป็นท้าวสหัมบดีพรหมท่านมา<O:p</O:p

    ท่านมาในลักษณะร่างกายของท่านเต็มอัตราแต่งต้วสวยมากทรวดทรงสวย แสงสว่างมาก ทั่วจักรวาล ท่านมาถึง ท่านก็ยืนบอกว่าคุณพระพุทธ ทรงว่าพุทธเจ้าสั่งให้ไปเข้าเฝ้า ก็ถามว่า พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหน ท่านก็บอกว่าพระพุทธเจ้า อยู่ที่นิพพาน ท่านให้คุณไปพบท่าน ก็บอกท่านว่า นิพพานอยู่ไหน อาตมาก็ไม่ทราบถ้างั้นท่านพาไปก็แล้วกัน อาตมาจะตามไป ท่านก็ออกหน้าไป แทนที่ท่านจะพาสวรรค์ ไปพรหมโลกก่อน ท่านพาไปดูนรก ตั้งแต่โลกันต์ ตั้งแต่โลกันต์มหานรก แล้วก็อเวจี แล้วก็เรื่อยมาถึง ขุมที่ ๑ เรื่อยขึ้นมาตามลำดับถึงแดนเปรต อสุรกาย แดนเดียวสัตว์เดรัสฉานคนจนกระทั่งมาถึงแดนมนุษย์ ถึงแดนเทวดา ถึงแดนพรหม พอถึง พรหมชั้นที่ ๑๖ ก็ปรากฏว่า ถึงวิมานของท่าน ท่านก็บอกว่าหน้าที่ของผมที่จะพามา มีแค่นี้ เป็นแดนนิพพานก็เป็นหน้าที่ของท่านแต่เพียงแต่ผู้เดียว<O:p</O:p

    ตอนนั้น บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย เป็นเรื่องแปลกขณะที่ท่านพาไปตั้งแต่ โลกันต์นรกขึ้นไปกำลังมันดีมาก เรียวแรงเดิมรู้เหนื่อยเดินชมด้วยความเพลิดเพลิน พอมองเห็นนรก ก็นึกในใจว่า แต่ละขุมเราไม่มา พอมาถึงแดนมนุษย์ ก็คิดว่าแดนมนุษย์นี่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากมากมาย มีความวุ่นวายมาก เราไม่มาไปถึงแดนสวรรค์ ไปถึงแดนพรหม ก็นึกว่าท่านทั้งหลาย มีความสุขของท่านแต่ไม่ช้าก็จุติ เราไม่มา แต่ไอ้คิดว่าไม่มา แต่ไอ้คิดว่าไม่มานี่ ก็ไม่รู้ ว่าจะไปทางไหน<O:p</O:p
    ต่อไปท่านก็บอกว่า นี่ทางไปนิพพาน ท่านชี้ให้ดูเป็นทางที่ราบเรียบเหมือนแก้วผสมทอง แพรวพราวเป็นระยับ ก็ถามว่าทำไมท่านไม่พาไป ท่านบอกไม่ใช่หน้าที่ของผม เป็นหน้าของท่านที่ต้องไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเอง ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าอยู่ไหน นิพพาน เขายอกว่าเป็นสูญ แต่ท่านสหัมบดีพรหมกลับบอกว่า เป็นแดนนิพาน ก็แปลกใจ ก็ตั้งใจเดินไปพอพ้นเขตพรหมชั้นที่ ๑๖ บรรดาพุทธบริษัท ร่างกายมันอ่อนเพลีย มาก เหมือนคนรื้อไข้ เดินโผผวนซวนเซใกล้จะล้ม แต่ก็พยายามไปเพราะถือว่าเป็นคำสั่ง เรื่องนี้ถือมาตั้งแต่เด็ก<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เมื่อเดินไปสักครู่หนึ่ง ก็พบบริเวณวัดวัดหนึ่ง มีกำแพงเหมือนแก้วผสมทอง สวยงามมีวิมานอยู่หน้าประตูใหญ่สี่วิมาน ที่สี่วิมาน มีพระอรหันต์ ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่านิพพานมีอยู่คิดว่าเป็นพรหมไหว้ ก็รับไหว้ท่าน ถามท่านว่า ที่นี่ วัดอะไรท่านก็เลยบอกว่าเป็นเรื่องของท่านจะพึงรู้เอง ก็เดินหลีกท่านไปเข้าไปภายใน ไปเดินรอบๆ บริเวณร่างกายมันจะล้ม เห็นสวยสดงดงาม ดูพื้นก็พื้นเป็นผสมทองแก้ว กำแพงก็เหมือนทองผสมแก้วมีกุฏิ สามหลัง หลังหนึ่งใหญ่ยาวมาก คล้ายกับวิหาร ๑๐๐ เมตร อีก ๒ หลัง ด้านหน้า เหมือนมณฑปหลวงพ่อปาน กับพระปัจเจกพระพุทธเจ้าแต่ก็ตั้งชิดกันไม่ห่างกันแบบนั้นแบบนั้นเป็นบริเวณกว้างอีกด้านหนึ่งก็มีหอระฆัง หอระฆังก็แก้วผสมทอง เหมือนกันหมด ระยิบระยับ สวยสดงดงาม บอกไม่ถูก มันเพลิดเพลินเจริญใจมาก เดินไปปรากฏว่า ในบริเวณนั้นไม่มีใครอยู่เลย คนสักคนหนึ่งก็ไม่มี พอเดินไปถึงหอระฆัง คิดว่าไปไม่ไหวล่มกายลงนอนลงนอนบนพื้นของระฆัง คิดว่าไปไม่ไหวแล้ว นอนตรงเนี้ยแหละ<O:p</O:p

    ร่างกายที่ข้างล่างมันจะเป็นจะตายก็เรื่องมันเป็นอันว่าพอนอนหันหน้า ไปทางด้านทิศตะวันออก ก็พอดีเห็นพระองค์หนึ่งเดินมา ท่านแต่งกายเหมือนพระธรรมดา แต่ว่ามีฉัพพรรณรังสีรัศมี ๖ ประการ สว่างมาก สวยงดงามมาก เหมือนกับพระจันทร์ทรงกลด ภาพนี้เคยเห็นเป็นปกติ ก็ทราบว่า นั้นคือพระพุทธเจ้า ก็ทราบว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมา ก็เห็นท่านมาทางกำแพง ไม่เข้าทางประตู ก็คิดว่าท่านจะต้องกระโดดกำแพง แต่ความจริงเมื่อถึงแล้วท่านไม่กระโดดกำแพงมันขาดออก แล้วหดเข้าเป็นช่องให้ท่านเดินเข้ามา พอท่านผ่านกำแพงติดตามเดิม พอมาถึงท่านก็นั่งใกล้ๆ พอท่านลุกจากที่ทีนอน มานั่งข้างล่างกราบท่าน ท่านถามว่าอยากจะมานิพพานไหม ก็ตอบว่า นิพพานมีสภาพสูญ ท่านถามว่าที่นี่เขาเรียกว่าอะไร ? ตอบว่าไม่ทราบ ท่านถามถึงเทวดาทุกชั้น พรหมทุกชั้น รู้จักไหม ก็ตอบว่า ผ่านมาหมดแล้ว เมื่อเลยพรหมชั้นที่ ๑๖ เขาเรียกว่าอะไร ก็ตอบว่า ตำราไม่มี ท่านก็เลยบอกว่า ที่นี้เรียกว่า นิพพาน<O:p</O:p

    เรื่องนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้าต้องการละเอียด รู้รายละเอียด ก็ขอให้ดู หนังสือประวัติหลวงพ่อปานก็แล้วกันนะ ที่นี่มีเวลาน้อย นี่หมดเวลา ไปตั้ง ๑๐ นาทีกว่าแล้ว<O:p</O:p

    ก็ขอย้อนหลัง ว่านิพพานพบมาตั้งแต่สมัยนั้น และตั้งแต่วันนั้น มาจนถึงวันนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัท จิตใจไม่เคยพลาดพระนิพพาน ไปนิพพานทุกวัน ถ้าถามว่าไปวันละกี่ชั่วโมงก็บอกว่าไปทุกวัน วันละหลายครั้ง ตามวาระพึงมี ทีนี้ก็มานั่งคุยกันก่อน ที่มาพูดก็เพราะว่าพูดถึงเรื่องนิพพาน<O:p</O:p

    เมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๓๕ วันนั้นก็นอนนึกถึง สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ว่าท่านมีอายุ ๖๐ ปี ใครๆ เขาก็ทำบุญกันก็เลยอยากจะบอกบุญ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท ว่านับตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ให้ทุกคนตั้งใจบำเพ็ญกุศล ร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระบรมราชินีนาถทั้งนี้เพราะท่านทำประโยชน์แก่ประเทศชาติ แก่คนทั่วไป ทั้งคนและสัตว์ แก่คนทั่วไป ทั้งคนและสัตว์ ให้มีความสุขปล่อยปลาให้เป็นอิสระ สร้างสถานที่ รวมทุกอย่างที่ท่านทราบอยู่แล้ว ว่าทั้งสองพระองค์นี่ ทำบุญกว้างขวางมาก ยากที่คนอื่นจะพึงทำได้ อย่างพวกเรา อย่างเก่งก็ซื้อปลามาปล่อยในบ่อบ้าง ในสระบ้างถ้าจะปล่อยในแม่น้ำก็กลัวคนจะมากิน นี่ท่านทำทุกอย่าง ก็คิดว่าอยากจะให้ทุกคนทำตามท่านบ้าง แต่มาสะดุดใจอยู่นิดหนึ่งว่า อยากจะให้ทุกคนทำตามท่าน แต่มันก็มาสะดุดใจอยู่นิดหนึ่งว่าการปล่อยปลาให้ลงแม่น้ำ ถ้าบังเอิญ คนเข้าจับปลาเรามากิน เราจะบาปไหม เพราะว่าเราปล่อยลงไปเขาก็จับกิน<O:p</O:p

    ต่อมาก็ตั้งใจคิดว่า เราตอบเองไม่ได้ ต้องอาศัยพระ พระตอบ เป็นของแน่นอนมาก จึงรวบรวมกำลังใจ ไปที่เทวสภา พอไปถึงก็ขอบคุณบรรดาเทวดาและพรหมทั้งหลายที่ท่านช่วยเหลืองานทุกอย่าง งานทุกประเภทท่านช่วยเหลืองานทุกอย่าง งานทุกประเภทท่านช่วย ก็ไปไหว้ท่านที่มีพระคุณต่างๆ มีบิดามารดาในอดีตเป็นต้น หลังจากนั้นแล้ว เทวดานางฟ้า กับพรหม ก็กราบ แต่ความจริง ไม่ได้กราบอาตมา ขึ้นไป อาตมาก็หันไปดูข้างหลัง เห็นพระพุทธเจ้าองค์ปฐมมาประทับอยู่บนแท่นสำหรับเทศน์ไม่ทราบว่าท่านมาเมื่อไร จึงหันไปกราบท่าน หลังจากนั้นท่านก็เทศน์ว่า บรรดาท่านทั้งหลายที่เป็นเทวดาก็ดีที่เป็นนางฟ้าก็ดี เป็นพรหมก็ดี ที่อยู่ในที่นี้ทั้งหมด จงอย่าประมาณในชีวิต คิดว่าตนเองจะไม่จุติจงอย่าคิดว่าความเป็นเทวดา เป็นทิพย์นี่จะเป็นสมบัติของเราตลอดกาลตลอดสมัย ทั้งนี้ก็เพราะว่าทุกคนส่วนใหญ่มีความสุข แต่ว่าหลานท่านสร้างบุญกุศลต่อ แต่เทวดานางฟ้าใหม่ ๆ ยังเพลิดเพลินในความเป็นทิพย์ ลืมความเป็น ลืมความตาย เพราะเป็นมนุษย์มันเป็นทุกข์ พอเป็นเทวดา เป็นนางฟ้าอยู่ในสวรรค์ เป็นพรหมมีความสุข ก็เลยเพลิดเพลินความเป็นทิพย์ ทุกองค์จงอย่าลืมว่าทุกคนมีบาปกันคน ละเยอะๆ ทำบาปมากกว่าทำบุญ บาปมันยังติดกายท่านอยู่ พอท่านพูดนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัท ก็เห็นบาปดำขึ้นมาถึงหน้าอก ถึงยอดอกทุกองค์ ถ้าท่านทั้งหลายจะต้องจุติจากที่นี่ จะต้องลงไปชำระหนี้บาป นั้นคือจะต้องลงนรกที่เป็นแดนที่มีทุกข์หนัก<O:p</O:p

    ท่านก็ชี้มือไปที่นรก เห็นนรกสว่างไสวมาก มีไฟแดงฉานมีการถูกลงโทษต่างๆ แต่ละขุม ๆ ท่านก็อธิบายว่า แต่ละขุมลงโทษอะไรบ้าง ทำบาปอะไรลงขุมไหน แต่ละขุมไม่มีความสุขไฟลุกโชติช่วง พื้นก็เป็นพื้นเหล็กเหล็กก็แดงฉาน และค้อนทุบบ้าง ถูกหอกแทงบ้าง ถูกดาบฟันบ้าง อย่างนี้เป็นปกติ เมื่อสิ้นบาปจากขุมต่อไปเพราะบาปแต่ละคนมีมาก <O:p</O:p

    บรรดาเทวดานาฟ้าและพรหมทั้งหมดเห็นก็หน้าซีด รู้สึกถึงบาปที่ตัวทำไว้สมัยที่เป็นมนุษย์ และทำไว้หลายๆ ชาติ สะสมตัวเอง บาปหนัก ท่านถามว่า เทวดา นางฟ้า และพรหม กลัวไหม ทุกข์องค์ก็บอกว่ากลัวก็เอาอย่านี้ก็แล้วกันนะ ต่อนี้ไป ถ้าปฏิบัติได้ ทุกองค์จะไม่มีโทษของบาป บาปจะไม่สามารถลงโทษได้คือ<O:p</O:p

    จงคิดไว้เสมอว่า ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง ก่อนตาย เราจะไม่ยอมลงอบายภูมิ เวลานี้เรามาครึ่งทางของพระนิพพานแล้ว จากมนุษย์นับเป็นจุกแรก มาถึงสวรรค์ ถือว่าเป็นกลางทาง โน่นพระนิพพาน ท่านชี้มือขึ้นไปให้ดู เห็นพระนิพพานแจ่มใสมาก เป็นของใกล้ ๆ เป็นของไม่ไกล อย่างนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย อาจะขัดกับความเห็นของบุคคลบางคนเอาตำรา อาตมาถือว่า ถ้าพระพุทธเจ้าเทศน์ ต้องจริงเพราะฟังเทศน์มาหลายสิบปีแล้ว ไม่มีอะไรไม่จริง ท่านบอกทุกอย่าง จริงหมด ถ้าเราไม่เชื่ออุปทานทุกองค์ก็บอกว่า อยากจะไปนิพพาน มันพ้นทุกข์ จะไม่มีเคลื่อน ไปนิพพานแล้ว ไม่ไปไหนครับ อยู่ที่นั้น ท่านก็เลยบอกตั้งใจตามนี้นะ<O:p</O:p
    คิดว่าชีวิตนี้มันตาย ถ้าเราจะตายเราจะไม่ยอมไปอบายภูมิ เราจะเคารพพระพุทธเจ้า พระพุทธ พระอริยสงฆ์ ด้วยความจริงใจ และมีศีล ๕ บริสุทธิ์ และตัดความ โง่ออกจากใจ คืออวิชาคือไม่อยาก เป็นมนุษย์ต่อไป ไม่อยากเป็นเทวดานางฟ้าเป็นพรหมต่อไปต้องการนิพพาน จุดเดียว เอาจิตเข้าไปจับไว้เฉพาะนิพพาน ตั้งใจไว้อย่างยิ่ง ว่าถ้าร่างกายนี้มันพังเมื่อไร ความเป็นทิพย์สบายตัวเมื่อไร เราจะไปนิพพานเมื่อนั้น เพียงเท่านี้ เทวดากับพรหมทั้งหลาย ก็มีสภาพแจ่มใส มีธรรมปิติแสงสว่างมากกว่าเดิมกว่ากับพรหมมาก<O:p</O:p

    แล้วหันมาถาม ว่าฤาษี มีความสงสัยอะไรบ้าง เมื่อสองสามวันที่แล้วมาคิดอะไร ถามฉันก็ได้นะ ถ้าสงสัย ก็ตอบว่า มีความรู้สึกว่าอาจจะบอกบุญ ให้บรรดาญาติพุทธบริษัททั้งหลาย ที่ตั้งใจบำเพ็ญบารมี เข้มข้นใกล้นิพพานขึ้นมาให้มานิพพานเร็วๆ เพราะทุกคนตั้งใจดีบุญอย่างอื่นก็ทำกันหมด ขาดอยู่อย่างหนึ่งคือ โดยเสด็จพระราชกุศล แต่การโดยพระราชกุศลพระบรมราชินาถ ก็ไปปล่อยปลา ถ้าปล่อยปลา ถ้าปลา<O:p</O:p

    ที่ตั้งใจให้คนกินมันจะบาปไหม ท่านบอกว่าอย่าเพิ่งตัดสินใจตามนั้นซี มันอยู่เจตนาของคนปล่อย ถ้าผู้ปล่อยคิดว่า ปลาทั้งหมดนี่ เราต้องการให้คนจับไปกินเมื่อเราก็บาปตามเขา แต่ถ้าปล่อยไว้เพื่ออนุรักษ์ ของที่มีอยู่เคยมีอยู่แล้มันหมดไป อย่าปลานี่ เป็นเครื่องประดับน้ำ มันไม่มีความชุ่มชื่นใจ เราเห็นแต่น้ำใสมีความสดชื่นใจจริง ถ้ามีปลาว่ายมา เราจะรู้สึกว่ามันเป็นสุขมาก จิตใจเราจะสบายมากเพราะว่า ปลาเป็นเครื่องประดับน้ำ ถ้าผู้ปล่อยมีความรู้สึกว่า ๑ เรา เลี้ยงปลาให้ชีวิต นี่เราเป็นบุญ ประการที่ ๒ เวลาปล่อย ปล่อยต้องการให้ปลาเป็นอิสระภาพอยู่ในที่คับแคบย่อมไม่มีความสุข ถ้าอยู่ในที่กว้างจะมีความสุขมาก ถ้าเป็นอิสรภาพ หากินสบาย จะไปไหนมาไหนก็ไปได้ตามอัธยาศัย นี่เป็นบุญ การปล่อยปลาเขาถือว่าเป็นบุญมาก แต่ถ้าไปนึกว่าปลานี้จงเป็นเหยื่อของคนอย่างนี้บาป มันอยู่เจตนา เข้าใจว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ดี พระบรมราชินาถ ไม่คิดว่าเป็นอาหารของคนต้องการเพียงว่า อนุรักษ์ให้ปลามันมีอยู่ในแม่น้ำ แม่น้ำสายนี้เคยมีปลา แต่เวลานี้ไม่มีปลา ก็ปล่อยปลาลงไป ให้ปลาเป็นอิสรภาพ ในเมื่อเราทำบุญกับท่าน ปลาทั้งหลายเป็นอิสรภาพจากนรกฉันนั้น คือไม่ลงนรก ประการที่ ๓ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระบรมราชินาถสงเคราะห์คนทั่วประเทศ จะทรงมีความลำบากอย่างไรก็ตามทีเสด็จตามเสมอ ไปด้วยกันเสมอ ช่วยทุกอย่างให้คนทีอาชีพ คือช่วยอย่างถาวร ให้คนมีอาชีพดีขึ้น ไม่ใช่ให้กินให้หมด อย่างนี้ คนทุกคนที่ได้รับการช่วยเหลือมีความสุขขึ้น ก็มีภาพหลายภาพที่เขาแสดงทางโทรทัศน์ ว่าเมื่อก่อนนี้มีความยากเข็ญใจ ไม่มีอะไรจะกิน แต่เวลานี้ ได้อาศัยพระมหาการุณาธิคุณของท่าน กระทั้งมีกินมีใช้ มีรายได้ปีละเป็นหมื่นๆ บาท เงินหมื่นบาท แม้จะไม่มากแต่ก็มากสำหรับคนจน คนที่ไม่เคยมี
    <O:p</O:p
    รวมความว่า ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ดี สมเด็จพระบรมราชินีนาถก็ดี ทำร่วมกับท่าน จะมีเงินมากหรือเงินน้อยก็ตามไม่สำคัญ หลายๆ คนรวมกัน ก็มากขึ้นเองจะเป็นเหตุให้มีบารมีใกล้พระนิพพานยิ่งขึ้น จะมีบารมีเต็มเร็วและสามารถจะไปนิพพานได้โดยง่ายตรงนี้สิบรรดาท่านพุทธบริษัท จับใจเหลือเกิน เพราะที่คนพูดนั้น ก็มองนิพพาน อยู่ใสแจ๋ว เพราะพระนิพพาน เป็นแดนสุข เทวดานางฟ้าและพรหมทั้งหมด ก็สนับสนุน ท่านสหัมบดีพรหมท่านเข้ามาใกล้ ท่านบอกว่าคุณลงไปบอกบุญเขาได้เลยนะ<O:p</O:p

    การบอกบุญมี ๒ อย่าง คือ<O:p</O:p
    ๑. ให้เขาทำคนละเล็กละน้อยคิดเป็นเวลาสิ้นปีถึงวันที่ ๑๒ สิงหาคม ของทุกปี จะให้ตัวแทนไปถวายพระบาทสมเด็จพระบรมราชินาถ องค์ละเท่าๆกัน จะเป็นเงินมากเงินน้อยก็เหมือนกัน เราเป็นคนจน เราไม่สามารถจะเงิน ๑๐ ล้าน หลายร้อยล้านมาได้ แต่ถ้าทุกคนร่วมกันก็สามารถจะเป็นเงินขึ้นมาได้ ถ้าใครเขาตั้งใจจะถวายด้วยตนเองด้วยกำลังศรัธาก็ค่อยไปคอยท่านที่บริเวณโบสถ์วัด พระแก้วเข้าไปที่นั้น พอท่านเสด็จเข้าไป ก็ชูมือ ไม่ต้องยกสูง ยกสตัง ยกแบ็งค์ ให้ท่านเห็น ท่านก็รับ ท่านไม่ถือพระองค์ ทั้ง ๒ องค์นี้กษัตริย์ผู้ทรงธรรม จริงๆ ก็เป็นอันว่า พระพุทธเจ้าก็ยอมรับ<O:p</O:p

    ท่านว่า เออ ฤาษี ที่ท่านสหัมบดีพรหมแนะนำน่ะ ถูกต้องแล้วก็เป็นอัน ตัดสินใจว่า วันเฉลิมพระชนม์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้าหากมีโอกาส จะพึง มี ท่านจะโปรดจะให้ตัวแทนจัดเงินส่วนหนึ่งของบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย บริจาคมาทั้งหมด ไปถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จพระบรมราชินาถ ที่ใกล้ๆ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ<O:p</O:p

    หลังจากนั้นก็ทุกปี จะค่อยๆ รวมเงินกันเป็นเดือน ๆ เดือนหนึ่ง เข้าซอยสายลม จะส่งไปทางไปรษณีย์ มารวมกันได้เท่าไรประกาศ ให้ทราบทีหลัง แล้วตั้งตัวแทนไปถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราจะได้ใกล้นิพพานกันยิ่งขึ้น<O:p</O:p

    บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท คำแนะนำนี้ เป็นคำแนะนำขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย เป็นคำแนะนำของท่านสหัมบดีพรหมด้วย ช่วยแนะนำให้พวกเรา มีบุญบารมีใกล้พระนิพพานยิ่งขึ้น มีบารมีเต็มหวังว่า คงไม่เป็นที่ขัดใจของบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย

    เวลาหมดแล้ว ขอความสุขสวัสดิ์ พิพัฒนมงคล สมบูรณ์พูนผลจงมีแด่บรรดาท่านพุทธ-ศาสนิกชน ผู้อ่าน และผู้ฟังทุกท่าน สวัสดี

    จากหนังสือกฏของกรรมเล่มที่สาม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อานิสงส์ โดยเสด็จพระราชกุศล

    ท่านสาธุชนทั้งหลาย สำหรับเทปตอนนี้ก็ขอย้อนไปถึงเรื่อง โดยเสด็จพระราชกุศล เพราะ เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๓๕ พูดไปไม่ทันจบก็หมดเวลาพอดีหมดเวลาพูด วันนี้เป็นวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๓๕ ขอพูดต่อ
    <O:p</O:p
    ตอนนั้นไปหยุดอยู่ตรงที่ว่า พระองค์ทรงสงเคราะห์บรรดาประชาชนทั้งหลายให้มีความเป็นอยู่ เป็นสุข นั้นหมายความว่าไม่ใช่กินอิ่มอย่างเดียว ไม่ให้กินหมดไป ให้กินหมดไปก็ให้ด้วยให้ก่อตั้งฐานะก็ให้ด้วย ให้ตั้งตัวได้แม้จะมีที่เพียง ๒ ไร่ ก็สามารถดำรงตนได้ มีฐานะ มีรายได้เป็นหมื่นบาท การให้อย่างนี้ บรรดาพุทธบริษัท เป็นการให้ที่มีการทรงตัว คณะพวกเราเองไม่สามารถจะทำได้ แต่ในเมื่อเราทำไม่ ท่านทำได้ เราก็เอาเงินของเราซึ่งมีเล็กน้อยที่มีอยู่กับตน ไม่สามารถจะทำได้ ทุกคนต่างช่วยกันรวมตัวกันเข้าไป เงินจำนวนนี้ก็จะเป็นจำนวนมากจะช่วยส่งเสริมทุนของท่านที่มีอยู่แล้ว และได้มาจากที่อื่น ก็จะเป็นมากขึ้น ก็จะสามารถช่วยคนได้มากขึ้น<O:p</O:p

    ทีนี้ ว่า กันถึงการช่วย ช่วยสัตว์ จะมีผลเป็นอย่างไรอย่าลืมว่า สัตว์คือเครื่องประดับของแม่น้ำ น้ำใสที่ไหนถ้าไม่มีปลาก็ไม่สดชื่น ถ้าน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ปลาแหวกว่ายมาให้กระแสน้ำ เราก็จะมีความสดชื่นใจข้อนี้ฉันใด ความสดชื่นที่มีอยู่เพราะอาศัยความเมตตาเป็นส่วนผสมปลาจึงจึงมีชีวิตอยู่ด้วยความสุข
    <O:p</O:p
    และประการต่อไปการช่วยคน ในเมื่อช่วยให้เขาอิ่ม สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จไปทางภาคอีสาน ทรงช่วยสงเคราะห์ มอบเงินให้เป็นบางส่วนแก่คนที่ยากจนเขาแม้จะเป็นเงินเล็กน้อยแล้วก็ช่วยสงเคราะห์แนะนำในเรื่องอาชีพ ให้มีการทรงตัวอย่างนี้ทำเป็นกลุ่ม คือคนส่วนใหญ่ ให้มีการทรงตัวได้อย่างนี้ทำเป็นกลุ่มใหญ่ คือคนส่วนใหญ่ ในศัพท์ภาษาพระ เขาเรียกว่า สังฆทาน คำว่าสังฆะแปลว่าหมู่ ให้คนที่เป็นหมู่ใหญ่ หมู่เล็ก เป็นหมู่หลายๆ คน ก็รวมความว่า ถ้าคนส่วนมากเขามีความสุข คนส่วนมากมีฐานะดี ดีพอสมควร เขากินอิ่ม นอนหลับ เราก็คือว่า เงินของเรามีส่วนทำให้คนทั้งหลายเหล่ากินอิ่มนอนหลับ เขามีความสุข กายสบายใจ เราก็มีความสุขใจไปด้วยเพราะเรามีส่วนช่วยเขาถึงแม้เล็กน้อย บาทสองบาท สามบาท ก็ตามที ถ้าช่วยกันมากคนก็เป็นเงินหลายบาท บรรดาท่านบรรดาพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย <O:p</O:pคนทั้งหลายเหล่านั้นเขาไม่ใช่นักบาปอย่างเดียว คนส่วนใหญ่เป็นนักบุญที่นับถือพุทธศาสนา ถ้าเขานำทรัพย์ทั้งหลายเหล่านั้นไปถวายพระ เช่นหุงข้าวใส่บาตร มีต้มมีแกง หรือว่านำปัจจัยบางส่วนไปถวายพระ ก็ชื่อว่าสังฆทานโดยตรง คำว่า สังฆทานนี่ มีอานิสงส์ มาก ตามที่สมเด็จพระเด็จพระผู้พระภาคเจ้าทรงตรัสว่า ครั้งหนึ่งสมเด็จพระพุทธกัสสป ท่านเทศน์ว่า บุคคลใด ให้ทาน ด้วยตัวเอง ไม่ชักชวนคนอื่น ตายจากนี้ เกิดไปชาติใหม่ จะมีความร่ำรวยมาก แต่ไม่มีพวกพ้อง
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    บุคคลใด ไม่ทำบุญด้วยตัวเอง แต่ชอบชวนคนอื่น อย่างพวกทายก พวกทายกน่ะส่วนใหญ่ไม่ค่อยทำบุญนัก แต่ที่ทำบุญมากก็มีนะ ไม่ใช่ ทุกคน ชอบบอกบุญชาวบ้าน ให้เขาทำบุญกัน แต่ตัวเองไม่ทำ ถ้าอย่างนี้ ตายจากชาตินี้ ไปเกิดชาติใหม่จะเป็นคนยากจน แต่ว่ามีพวกพ้องมาก พออาศัยได้

    บุคคคลใดทำบุญร่วมกันตายแล้วจากชาตินี้ไปเกิดชาติใหม่ จะเป็นร่ำรวยด้วย ทำบุญร่วมกันตายแล้วจากชาตินี้ไปเกิดชาติใหม่ จะเป็นคนร่ำรวยด้วย จะมีพรรคพวกมากด้วย <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บุคคลใดไม่ทำบุญเลยไม่ให้ทานเลย แล้วไม่ชวนใครให้ทานด้วย ตายจากชาตินี้ไป จะยากจนเข็ญใจ และไร้พวกสนับสนุน ไร้คนสงเคราะห์


    http://www.luangporruesi.com/917.html

    เข้าพรรษาปีนี้มาร่วมกันสร้างบุญโดยเสด็จพระราชกุศลผ่านมูลนิธิพระดาบสกันครับ

    พระเครื่องที่จะมอบให้ในการร่วมบุญโดยเสด็จพระราชกุศลนี้คือพระฤาษีวาสุเทพ และสุกกทันตฤาษี ซึ่งเป็นพระเครื่องกรุลำพูนโบราณสัญญลักษณ์พระฤาษีจึงสอดคล้องเหมาะกับการเป็นพระของขวัญของการร่วมบุญโดยเสด็จพระราชกุศลกับมูลนิธิพระดาบส การครั้งนี้ผมจะไม่กำหนดอัตราการร่วมบุญกับมูลนิธิพระดาบสแต่อย่างใด ท่านจะทำบุญเท่าใดเป็นสิทธิ์ของท่าน และผมก็จะไม่ตรวจสอบด้วยว่าท่านทำการโอนปัจจัยไปที่มูลนิธิพระดาบสแล้วหรือยัง ถือเป็นการร่วมบุญโดยบริสุทธิ์ไม่ว่าจะ ๑ สลึง.. ๑ บาท.. ๒ บาท... ๑๐๐ บาท... ๑,๐๐๐ บาท... หรือ ๑๐,๐๐๐ บาทก็ตามแต่ความศรัทธาในโครงการพระราชดำริ ไม่ว่าท่านจะทำบุญกับในหลวง ๑ สลึง หรือ ๑๐,๐๐๐ บาท ผมก็จะมอบพระพิมพ์พระฤาษีเพียง ๑ องค์เท่านั้นจนกว่าจะครบ ๖๐ องค์ เมื่อท่าน post แจ้งชื่อที่อยู่ ทาง PM แล้ว หน้าที่ของผมคือ มอบพระเท่านั้น หรือแจ้งว่าไม่ขอรับพระก็ได้ทั้งนั้นครับตามแต่ใจ ตามแต่ความสะดวก ทั้งนี้เพื่อให้ทุกท่านสามารถร่วมบุญได้ทุกกรณี โดยมีเงื่อนไขที่น้อยที่สุด สบายใจที่สุด
     
  14. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    กำลังสมาธิเพียงคนละ ๕ นาที ที่ดูเหมือนน้อย แต่หาก ๑๐ คน ก็รวมกันได้ถึง ๕๐ นาทีเลยนะครับ และยิ่งทำสมาธิไป ขับรถไปนี่ เหมือนกึ่งๆจิตใต้สำนึกเข้าไปแล้วนะครับ
     
  15. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    แต่ผมก็มี การภาวนา พุทโธ พุทโธ ไปตลอดครับ ทั้งขับรถ คุย แล้วคนอื่นๆล่ะครับ
     
  16. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    อ้างอิง:

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    หลายๆท่านมีศรัทธา และได้พบประสบการณ์เกี่ยวกับพระร่วงเจ้า บางส่วนก็เสาะหาพระร่วงเจ้าเพียงหวังจะพบซักองค์หนึ่ง บางท่านก็ PM หรือโทรคุยกับผมถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ และลงท้ายด้วยความอยากจะขอบูชาพระร่วงเจ้าซักองค์หนึ่ง ผมจึงเปิดโอกาสให้บูชากันอีกเป็นครั้งที่ ๓ ในช่วง ๕ วันจากนี้ไปเท่านั้น ก็คงต้องติดตามกันให้ดีๆ โดยจะเปิดให้บูชากันเพียงวันละ ๑ องค์(จันทร์ที่ ๓๐ มิ.ย.-๕ ก.ค. ๒๕๕๑) ตามวาระเท่านั้น(ไม่ระบุช่วงเวลา)ครับ และในวันใดหากไม่มีผู้ใดบูชาพระร่วงเจ้าองค์นั้นๆ ผมก็จะนิมนต์กลับเมื่อสิ้นวันทันที
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ***พระร่วงเจ้าองค์ที่ ๓ สำหรับวันพุธที่ ๒ ก.ค. กำหนดเวลาเพียง ๒๔.๐๐ น. หากไม่มีผู้ใดบูชาพระร่วงเจ้าองค์นี้ ผมก็จะนิมนต์กลับเมื่อสิ้นวันทันที

    มอบให้ ๑ องค์ เมื่อร่วมบุญ ๔,๐๐๐ บาท ปัจจัยจำนวนนี้ส่วนหนึ่งจะไปร่วมบุญโดยเสด็จพระราชกุศลกับมูลนิธิพระดาบสขององค์ในหลวง
    เข้าบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์
    สาขา สุขุมวิท ซอย 3/1
    ชื่อบัญชี คุณอภิวัฒน์ ชัฎอนันต์ เพื่อสร้างบุษบกประดิษฐานพระโมคคัลลานะ
    เลขที่บัญชี 074-2-14149-7

    ก่อนหน้านี้เคยมอบให้เพียง ๑๓ ท่านเท่านั้น คือ คุณตั้งจิต(๑) คุณdragonlord คุณศิษย์ต่างแดน คุณnarin96 คุณkwok คุณตั้งจิต(๒) คุณdrmetta คุณaries2947 คุณชวภณ คุณจันทร์ใฝ่ธรรม คุณguawn hongsanart และคุณnewcomer

    พระพิมพ์พระร่วงเจ้าเพียงพิมพ์เดียวที่ผมเลือกมอบให้เป็นคนๆไป คือไม่ใช่ว่าจะมีเงินแล้วบูชากันได้ทุกคน และเคยตั้งสัจจะว่าจะมอบให้เฉพาะผู้ที่จะรักษาอารมณ์ของกรรมบถ ๑๐ ให้ได้เท่านั้น เนื่องจากว่าหากไม่สามารถจะเจริญวจีกรรมทั้ง ๔ ได้ การบูชาไปนั้นไม่มีผล และบุคคลที่ได้บูชาพระพิมพ์นี้ไป จะต้องมีจิตที่เกี่ยวเนื่องกับพระร่วงเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง ถือเป็นพระพิมพ์เพียงพิมพ์เดียวจริงๆที่ตัดสินใจอยู่นานว่าจะเปิดให้ทำบุญกันหรือไม่ ครั้งนี้ก็ต้องวัดใจกัน บอกได้ว่าสวยงามทุกองค์ครับ

    เรื่องของพระร่วงเจ้า ก็เป็นเรื่องที่คล้ายตำนาน แต่ก็อิงกับประวัติศาสตร์อยู่บ้างที่ล้นเกล้าพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ ได้ทรงพระราชนิพนธ์เอาไว้ ในบทละครพูดคำกลอนเรื่อง "พ ร ะ ร่ ว ง" โดยได้ทรงตัดทอนส่วนที่เป็นปาฏิหาริย์ออก เป็นเรื่องราวของการปลุกใจความรักชาติไทย ซึ่งพระองค์ท่านได้ ทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง"พ ร ะ ร่ ว ง" ซึ่งพระองค์ท่านได้ทรงพระราชนิพนธ์เป็นอีกสำนวนต่างจากบทละคร คือ

    ๑.เรื่องตำนานพระร่วง เป็นบทพระราชนิพนธ์ร้อยแก้ว แสดงถึงเหตุที่พระร่วงได้เป็นพระเจ้ากรุงสุโขทัย สมัยเมื่อจ.ศ.(จุลศักราช)ประมาณ ๖๐๐ ปี

    ๒.เรื่องขอมดำดิน เป็นพระราชนิพนธ์ ร้อยกรองประเภทบทกลอนสำหรับละครรำ
    ๓.บทละครร้องเรื่องพระร่วง ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๗

    หนังสือบทละครพูดคำกลอนเรื่อง"พ ร ะ ร่ ว ง" จะบอกเล่าความซาบซึ้งใจ และรู้ที่มาที่ไปของพระราชนิพนธ์นี้ เป็นหนังสือที่พิมพ์ครั้งที่ ๑๑ ของคุรุสภา ราคาถูกมากเพียง ๒๐ บาท แต่คุณค่ามหาศาล และขอมอบพระคาถาพระร่วงวาจาสิทธิ์ ให้เป็นการส่วนตัว พร้อมวิธีการอาราธนาที่ถูกต้องซึ่งไม่ค่อยจะมีผู้เปิดเผยให้ทราบถึงวิธีการกัน

    ผมคิดว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีส่วนช่วยเหลือประเทศไทยนี้จากอริราชศัตรูทราบจิตเจตนาของทุกผู้คนคิดอย่างไร และเมื่อไหร่ท่านจึงจะสงเคราะห์ ผมมีความเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่า หากท่านใดที่ได้อ่านบทพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้าพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ จะซาบซึ้ง และเกิดจิตที่ระลึกถึงผู้มีคุณทุกๆท่านที่มีต่อประเทศนี้..

    พระร่วงเจ้าหมายถึงผู้ใด...เป็นองค์สมมติที่ไม่มีตัวตนหรือ ก็ไม่ใช่ แต่หมายถึงพระมหากษัตริย์ทุกๆพระองค์ที่ปกครองสุโขทัย พระร่วง คนทั่วไปที่ไม่เข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับคำว่าร่วง อาจจะคิดว่า บูชาไปแล้ว จะร่วงหล่น หรือในทำนองไม่ดีทั้งหลาย แต่เปล่าเลย จากความที่ศาสตราจารย์พระยาอนุมานราชธนได้ให้ความหมายไว้ว่า ในสมัยโบราณ จะใช้คำว่า"รุ้งรัง" ซึ่งรากเดิมคือ"รุ้งรัง" หมายถึง"รุ่งเรือง" ต่อมาเพี้ยนกันไปตามยุคสมัยจนมาเป็น"ร่วง" เช่นพระร่วงโรจนฤทธิ์เป็นต้น ส่วนคำว่า"วาจาสิทธิ์"นั้น หมายถึง การออกคำสั่งของกษัตริย์เป็นไปอย่างเด็ดขาด เปรียบเสมือน"วาจาสิทธิ์"นั่นเอง

    ผมเชื่อว่าหากทุกท่านได้เข้าใจความหมาย และอิทธิคุณแห่งองค์พระร่วงเจ้าแล้ว การใช้พระคาถาพระร่วงวาจาสิทธิ์ พระคาถาถอนวาจาสิทธิ์ กอปรกับการถือกรรมบถ ๑๐ อย่างเคร่งครัด ความมหัศจรรย์แห่งการพูด การดำรงตนตั้งมั่นในศีล ในธรรม การดำเนินชีวิตจะเป็นไปด้วยการดูคล้ายความบังเอิญอย่างยิ่ง และ....อีกมากมาย...
    <!-- / message --><!-- attachments -->

    ท่านที่ได้รับพระร่วงเจ้าองค์นี้ ผมอยากเพิ่มธาตุศักดิ์สิทธิ์ให้อีกสิ่งหนึ่ง นั่นคือ "แร่ข้าวตอกพระร่วง" จำนวน ๔ องค์ จากเขาพระบาทใหญ่ ดินแดนต้นกำเนิดแห่งพระร่วงเจ้า จ.สุโขทัย จากบริเวณที่พระเจ้าอโศกมหาราชได้ทรงสร้าง"รอยพระพุทธบาทจำลอง"ขึ้นที่นี่ และปัจจุบันได้อัญเชิญไปเก็บรักษาไว้ที่วัดตระพังทอง ภายในวัดได้มีการจำลอง"พระรูปพระร่วงเจ้ากวาดลานวัด" และเสก"ขอมดำดิน"กลายเป็นหินอยู่ ณ ที่นี้

    แร่ข้าวตอกพระร่วงที่ติดดินสีเหลืองทองนี้ ตามตำราว่า คือ"ดินสีอรุณ" เป็นดินที่เหมาะแก่การนำมาสร้างพระเครื่องมากที่สุด และเมื่อกำหนดปฐวีกสิณให้น้อม...ใจจดจำ"ดินสีอรุณ"นี้ไว้เป็น"องค์กสิณ" จะได้ผลดีมาก เป็นหนึ่งในของดีของสุโขทัย ที่ปัจจุบันนี้เริ่มหายากขึ้นทุกทีแล้ว ขอให้นำเพียง ๑ องค์จาก ๔ องค์(จะมอบขนาดเหมาะสำหรับทำหัวแหวนให้ ๑ องค์ และขนาดบูชาที่หิ้งพระ ๓ องค์ หานำไปทำหัวแหวน ถือว่าจะใหญ่เกิน)ไปทำหัวแหวน เป็นรูปสี่เหลี่ยมนี้เลย ไม่ควรนำไปเจียเป็นทรงกลม ใช้อาราธนาติดตัวกับ"องค์พระร่วงเจ้า"

    ก็เป็นสิ่งที่อยากจะมอบให้ เพราะบางทีก็ไม่ได้เตรียมใจไว้ว่าจะอย่างไร แต่รู้สึกว่า ควรจะเพิ่มเติมตรงนี้ จุดนี้ให้ครบสมบูรณ์ขึ้น เป็นวาสนา บารมี ที่มีโอกาสนี้ครับ ผู้ที่ได้รับไปทั้ง ๑๓ ท่าน ให้ทำบุญถวายอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้แด่พระองค์ท่านด้วยครับ โดยเฉพาะการชำระหนี้สงฆ์...

    สรุปผู้ที่บูชาพระร่วงเจ้านี้จะได้รับ
    ๑) พระร่วงเจ้า ๑ องค์ที่ตนเองได้เลือกไว้ในแต่ละวัน(เพียง ๗ วัน ๗ องค์เท่านั้น)

    ๒) เคล็ดการใช้พระคาถาพระร่วงวาจาสิทธิ์ และพระคาถาถอนวาจาสิทธิ์ ให้ถือกรรมบถ ๑๐ อย่างเคร่งครัด

    ๓) แร่ข้าวตอกพระร่วง จำนวน ๔ องค์(จะมอบขนาดเหมาะสำหรับทำหัวแหวนให้ ๑ องค์ และขนาดบูชาที่หิ้งพระ ๓ องค์ หานำไปทำหัวแหวน ถือว่าจะใหญ่เกิน)

    ๔) พระสมเด็จองค์ปฐม ปางพระนิพพาน ๑ องค์ พร้อมใบแนบรายละเอียด

    ผมได้เดินทางไปกราบสักการะเมื่อราวเดือนมีนาคม และได้ถ่ายเก็บภาพไว้ จึงขอนำภาพพระร่วงเจ้ามาให้ได้ชมกัน และเพื่อนท่านใดหากมีวาระ "ต้องตั้งใจ" ไปกราบสักการะตรงพระรูปนี้ให้ได้ เพื่อกราบขออาราธนาใช้พระคาถาเสก และถอนจากพระองค์ท่าน จึงจะถือว่าเป็นศิษย์ท่านโดยสมบูรณ์...









    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]







    </FIELDSET>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">พระร่วงเจ้า ๕ องค์ + พระสมเด็จพิชิตมาร ๕ องค์ครับ คิดว่าน่าจะเพียงพอ คราวนี้ก็แล้วแต่ว่าจะได้รับในเนื้อหาแบบใด..

    พระสมเด็จพิชิตมารนี้ รูปลักษณ์คือพระพุทธเจ้าประทับใต้โพธิบัลลังก์เหนือพระแม่ธรณีบีบมวยผม ยอดเกศบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ตรงตำแหน่งพระอุระ และด้านหลังพระยันต์บรรจุปฐวีธาตุหลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล และปฐวีธาตุท่านเจ้านรรัตนราชมานิต วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร บางองค์จะเห็นปรากฎบนผิวองค์พระ ลำพังการค้นหาปฐวีธาตุของหลวงปู่ขาว หรือท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิตนี้ก็ยากเต็มทีแล้วครับ

    รายละเอียดของพระสมเด็จพิชิตมารนี้ ขอเอาไว้วันหน้าค่อยแจ้งรายละเอียดการจัดสร้างนะครับ รายละเอียดมากมายจริงๆ ผู้ได้รับพระสมเด็จองค์นี้ไปจะทราบได้เองครับ ขนาดผมถ่ายภาพเมื่อเช้านี้ ๕ ภาพ ๕ องค์ มือนิ่งๆ แล้วนะครับ ก็ต้องแปลกใจอยู่หลายครั้งว่าทำไมขอบนอกขององค์พระทั้งการเก็บภาพด้านหน้า และด้านหลัง เหตุใดจึงมีรังสีสีน้ำเงินรอบองค์พระ ลองอยู่หลายครั้งก็มีรังสีทุกครั้ง ผู้ได้รับไปทดลองถ่ายภาพเองละกันครับ พระทุกองค์นอกจากบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และบรรจุปฐวีธาตุของพระอริยเจ้าองค์สำคัญๆแล้ว ยังบรรจุเส้นเกศาพระอริยเจ้าอีกด้วย อื่นๆอีกมากมายครับ ทีสำคัญคือจัดสร้างเพียง ๖๐๐ องค์เท่านั้นครับ และเป็นความละเอียดของการจัดสร้างนี้มาก(เป็นคณะเดียวกับการสร้างเหรียญพระธาตุเจดีย์ ๑๒ ราศี) พระบรมสารีริกธาตุบรรจงบรรจุตรงตำแหน่งยอดเกศพอดี บางองค์เห็นลอยออกมา บางองค์บรรจุไว้ลึกลงไป ครั้งแรกผมมีความตั้งใจว่า หากมีการจัดสร้างพระอานนท์เมื่อใด จะนำออกให้ทำบุญกัน ครั้งนี้จึงขอถือโอกาสนำมามอบให้เป็นพระของขวัญคู่กับพระร่วงเจ้าครับ ก็แล้วแต่วาระของท่านใดนะครับ เป็นรอบที่ ๓ รอบสุดท้ายแล้วครับ

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากท่านใดปรารถนาที่จะได้ปฐวีธาตุท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิตนั้น เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่า แสนจะยากเย็นในการค้นหา ตามบันทึกมีไม่เกิน ๑,๕๐๐ องค์ (ชิ้นใหญ่ และชิ้นเล็กคละกันไป) แต่ท่านเจ้าของปฐวีธาตุท่านนี้มอบมาให้ในการจัดสร้าง แล้วนำมาตัดแบ่งให้เพียงพอครบ ๖๐๐ องค์พอดี

    ลำดับการมอบพระสมเด็จพิชิตมาร องค์ที่ ๓ คู่กับพระร่วงเจ้าองค์ที่ ๓

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1011022.JPG
      P1011022.JPG
      ขนาดไฟล์:
      170.6 KB
      เปิดดู:
      46
    • Copy of P1011022.JPG
      Copy of P1011022.JPG
      ขนาดไฟล์:
      61.7 KB
      เปิดดู:
      44
    • P1011023.JPG
      P1011023.JPG
      ขนาดไฟล์:
      161.3 KB
      เปิดดู:
      36
    • Copy of P1011023.JPG
      Copy of P1011023.JPG
      ขนาดไฟล์:
      78.3 KB
      เปิดดู:
      37
    • P1011030.JPG
      P1011030.JPG
      ขนาดไฟล์:
      291.5 KB
      เปิดดู:
      32
    • P1011031.JPG
      P1011031.JPG
      ขนาดไฟล์:
      294.7 KB
      เปิดดู:
      35
  17. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    ขอนิมนต์ครับ
     
  18. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
  19. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ไวมากเลยครับ..สมความตั้งใจแล้วนะครับ รายละเอียดต่างๆ พี่จะแจ้งไปทาง PM พร้อมกับเพื่อนๆอีก ๑๑ ท่านครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  20. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    สำหรับพระสมเด็จพิชิตมาร มวลสารหนึ่งคือพระพ่อแม่ธรณีปฐวีธาตุ ของท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต ที่ได้อธิษฐานจิตเอาไว้ก่อนมรณภาพไม่กี่วัน...

    ของดี
     

แชร์หน้านี้

Loading...