ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

จำได้ว่า ตอนสัมมนางานที่ธรรมศาสตร์ เมื่อธันวาคม ปีที่แล้ว
ดร.สมิทธิ์ ท่านมีแผนที่ดินทรุดของกรุงเทพมหานครด้วยครับ
จุดที่น่าระวัง
ถ้าจำไม่ผิด น่าจะแถว บางนา ศรีนครินทร์
เพราะแถวนั้น มีโรงงาน ที่สูบน้ำบาดาลใช้มาก

 

บ้านดิฉันอยู่ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ (แค่พื้นที่ก็เสี่ยงแล้วนะ)

เป็นทาวเฮ้าส์สามชั้น ซึ่งแต่เดิมตรงนี้เคยเป็นบึงใหญ่มาก่อน (แจตพอตอีกเด้ง)

ที่สำคัญปัจจัยในธนาคารแทบไม่มีเก็บเลย เพราะเพิ่งเริ่มผ่อนบ้านหลังนี้ (ถ้าต้องใช้เงินก็ตายลูกเดียว)

แต่ดิฉันก็พยายามรวบรวมเอาความรู้และประโยชน์ทั้งหมดเท่าที่มีเพื่อไม่ประมาทจนถึงที่สุด (อนุโมทนากับความรู้ดีๆที่มาเผยแพร่ให้กันด้วยค่ะ)

แต่ถ้าจะต้องตายก็ไม่กลัวค่ะ เป็นธรรมดา

กลัวที่สุดคือการต้องกลับมาเกิดอีกค่ะ แง้

 

สังเกตุดูผู้ทรงกำลังใจไม่อยากเกิดอีกมากขึ้นครับ ขอโมทนาบุญด้วย สาธุ

 

หลอดกรองน้ำฉุกเฉิน ​

​

หลอดกรองน้ำฉุกเฉิน แบบพกติดตัว LifeStraw Water Purifier ที่ได้รับรางวัลนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2005 จากนิตยสาร Time ผลิตโดยบริษัท Vestergaard Frandsen แห่งประเทศเดนมาร์ก ผู้นำในการสร้างนวัตกรรมด้านการต่อต้านโรคร้ายอันเกิดจากเชื้อโรค และสารเคมี ซึ่งตั้งมาตั้งแต่ปี 1957 ครับ

หลอดกรองน้ำจาก LifeStraw เป็นนวัตกรรมของปี 2005 ที่ได้รับรางวัลสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมจากนิตยสาร Time ด้วยประสิทธิภาพที่ใหญ่เกินตัว ทั้งที่มีขนาดยาวแค่ 31 เซนติเมตร และเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 2.9 เซนติเมตร แต่สามารถกรองสารเคมี เชื้อโรคแบคทีเรีย และไวรัส ไม่ให้ปะปนเข้าไปกับน้ำที่เราดื่มได้ โดยได้รับการทดสอบจากแหล่งน้ำธรรมชาติ และแหล่งน้ำนิ่ง ทั้งในทวีปเอเชีย และอาฟริกา ซึ่งแต่ละแห่ง มีไข้ป่า และมาเลเลีย หรือเชื้อโรคร้ายแรงอื่นๆ ปะปนอยู่ ซึ่งได้รับการการันตีรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) แล้ว

โครงสร้างตัวหลอดเป็น high impact polystyrene แข็งแรงทนทาน มีเชือกสำหรับคล้องคอ ง่ายต่อการหยิบใช้ น้ำหนักขณะแห้งเพียง 140 กรัม และในเวลาที่เปียกก็มีน้ำหนัก 160 กรัมเท่านั้น

โครงสร้างภายในประกอบด้วยชั้นกรอง 2 ชั้นหลัก คือกรองฝุ่นละออง สิ่งแปลกปลอม และอีกชั้นสำหรับสารเคมี แบคทีเรีย และไวรัส

ชั้นแรกแบ่งกระบวนการกรองเป็น 2 กระบวนการ โดยสามารถกรองอนุภาคของฝุ่นละออง สิ่งปลอมปนได้ตั้งแต่ละเอียดตั้งแต่ 125 ไมครอน จนเล็กถึงขนาดเพียง 15 ไมครอน ( 1 ไมครอน = 1 ใน 1,000 ของ 1 มิลลิเมตร )

ชั้นที่สองประกอบไปด้วยกระบวนการกรองสามกระบวนการ ขั้นที่หนึ่งกรองด้วย Halogenated resin สามารถกรองและกำจัดแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อโรคอื่นๆ ได้ในขั้นตอนนี้ ขั้นที่สองกรองด้วย Strong base anion exchange resin ชั้นนี้จะกรอง และกำจัดเจ้าเชื้อโรคที่เหลือ ซึ่งเล็ดรอดผ่านจากขั้นตอนที่หนึ่งมา และในขั้นที่สาม กรองด้วย Granular activated carbon เป็นการกรองกลิ่น และดักจับสารเคมีที่ปะปนเข้ามา

ทำให้มั่นใจได้ว่า ทุกครั้งที่เข้าป่า และต้องการดื่มน้ำ คุณจะได้น้ำที่สะอาด ปลอดภัยจริงๆ เพียงแต่หาแหล่งน้ำ (แม้น้ำในโป่ง) จิ้มหลอดลงไป แล้วดูดขึ้น กระบวนการกรองข้างต้นก็จะเริ่มเดินเครื่องทันทีด้วยแรงดูดของแต่ละคน

* ข้อบ่งใช้ *

1. สามารถได้กับน้ำประมาณ 700 ลิตร หรือประมาณ 1 ปี โดยคำนวนจากการดื่มน้ำ 2 ลิตร / วัน (หากไม่ได้ใช้ทุกวันก็สามารถยืดอายุออกไปได้อีกนาน)

2. อายุการใช้งานอยู่ในราว 3 ปีโดยประมาณ ในอุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส

3. หลังจากใช้แล้ว หากพบแหล่งน้ำสะอาด ควรล้างทำความสะอาดตัวกรองเพื่อยืดอายุการใช้งาน

4. เพื่อสุขภาพที่ดี ไม่ควรใช้ปะปนกับคนอื่น

ดูเว็บไซต์เพิ่มเติมได้ที่
www.vestergaard-frandsen.com/lifestraw.htm

มีขายในประเทศไทยแล้ว ที่ร้านTKT Adventure Shop
http://www.trekkingthai.com/cgi-bin/shopping/show.pl?P0380

 

น่าสนใจดีนะ หลอดดูดแบบนี้ แต่ทำไมมันแพงจัง หลอดละตั้ง 1,000 บาทแนะ ซื้อเหมาโหลลดสัก 80% ได้ปะ นะจ๊ะ นะจ๊ะ(smile)

 

คุณเมทิกา ไม่ต้องห่วงหรอก บ้านผมก็อยู่ใกล้กัน อยู่หมู่บ้านสวนสนนี่เอง ปัจจุบันก็อยู่ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้นเหมือนกัน เขาว่าบ้านสูงไม่เกินสามชั้นไม่น่าเป็นห่วง ไม่ถล่มง่ายๆหรอก ยิ่งเป็นทาวน์เฮาส์แล้วยิ่งมีบ้านข้างๆมาช่วยพยุงโครงสร้าง ยิ่งแข็งแรง

ตุนอาหารและน้ำไว้ให้พอสำหรับ 2 เดือน ตุนเสบียงและน้ำไว้ชั้นบนบ้าง แค่นี้ก็สบายใจได้แล้ว หมั่นสวดมนต์ช่วยอีกแรง รับรองอยู่รอดปลอดภัย ( ช่วยปลอบใจซึ่งกันและกัน )

 

ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับพี่เกษมด้วยค่ะได้รับข้อมูลดีๆเยอะเลยขอบคุณค่ะ

 

คุยเรื่องหลุมยุบ เจอข่าวนี้พอดี เลยเอามาสานต่อ

( ปล.ที่บ้านผมไม่ได้ยุบเท่านี้นะ ) (cry)




หนองบัวลำภู 26 มิ.ย.- นายประมวล ลาภจิตต์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดหนองบัวลำภู เข้าพื้นที่บ้านโนนถาวร ต.ด่านช้าง อ.นากลาง เพื่อหาสาเหตุปัญหาดินที่นาทรุดเป็นหลุมขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 5 เมตร ลึก 6 เมตร เบื้องต้นคาดว่า ทุ่งนาดังกล่าวอยู่ใกล้กับโรงโม่หินแห่งหนึ่ง หรือใต้ผืนนาอาจมีโพรงและอุโมงค์ใต้ดิน เมื่อฝนตกมีน้ำท่วมขังในทุ่งนา ประกอบกับโรงโม่หินสูบน้ำระบายออกจากบริเวณโรงโม่ จึงทำให้มีน้ำบนผิวดินมากจนเกิดแรงกด ทำให้ดินปากโพรงยุบตัวลง อย่างไรก็ตาม จะเร่งรายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อหาทางแก้ไข.-สำนักข่าวไทย

อัพเดตเมื่อ 2008-06-26 16:56:38

 

เผยน้ำไม่ปลอดภัยอาจก่อให้เกิด 1 ใน 10 โรค​

​

เจนีวา 25 มิ.ย.

 

ของที่สั่งมาจากต่างประเทศ ก็แพงอย่างนี้แหละครับ เพราะต้องเจอกำแพงภาษีสุดโหด คราวก่อนเพื่อนๆ ชาวเว็บพลังจิตเคยรวมกันซื้อของแบบนี้ มาจากต่างประเทศ ราคาที่เมืองนอกไม่แพงเท่าไหร่ แต่พอเอาเข้ามาเมืองไทยต้องบวกภาษีเข้าไปอีกเกือบเท่าตัว

ถ้ามีคนสนใจมากๆ นัดรวมไปซื้อพร้อมๆกัน คงจะได้ส่วนลดอีกมาก สำหรับเครื่องกรองน้ำ ในบ้านเราก็มีขายอยู่มากมาย ราคาก็ไม่แพงมากนัก เพียงแต่มันมีขนาดใหญ่ เท่านั้นเองครับ

 

อ๋า ดีใจจัง เค้าอยู่ทาวน์พลัสพระรามเก้าน่ะค่ะ

กำลังทยอยจัดเตรียมสิ่งของอยู่ แฟนก็งงๆ แต่ก็ไม่กล้าห้าม กลัวเป็นบาป

 

ได้ข้อมูลเก่าน่าสนใจค่ะ เรื่องพื้นดินในกรุงเทพ เพื่อนๆลองอ่านดูนะคะ
http://www.thaivi.com/webboard/archive.php/o_t__t_18715__%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%9A.html

 

ผมเคยสั่งที่ ebay หลอดนึงตกประมาณเจ็ดร้อยกว่าบาทเองน่ะ(รวมค่าขนส่งแล้ว) แต่ต้องรอประมาณสองอาทิตย์

 

ช่วยกันสังเกตด้วยนะครับ สัญญาณจากทะเล

<TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">วาฬเพชฌฆาต 30ตัว-เกยหาด ผลักดันสู่ทะเล [27 มิ.ย. 51 - 09:03]
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 26 มิ.ย. นายวรรณเกียรติ ทับทิมแสง ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน จ.ภูเก็ต รับแจ้งจากศูนย์วิทยุประมงชายฝั่งว่าพบฝูงปลาขนาดใหญ่ว่ายเข้าไปเกยตื้นในอ่าวหน้าโรงแรมเดอะราชา บนเกาะราชา ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต จึงรีบนำกำลังพร้อมเรือตรวจการณ์เดินทางไปตรวจสอบ แต่ต้องเสียเวลานานกว่า 2 ชม. กว่าจะไปถึงเนื่องจากมีฝนตกหนักและทะเลมีคลื่นลมแรง
<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<o></o>
บริเวณหน้าหาดของโรงแรมเดอะราชาซึ่งมีลักษณะเป็นอ่าวขนาดย่อมๆ พบฝูงวาฬเพชฌฆาตเทียม ลักษณะคล้ายวาฬเพชฌฆาต แต่มีขนาดลำตัวเล็กกว่าคือตัวโตเต็มที่มีความยาวประมาณ 4-5 เมตร ว่ายขึ้นมาเกยหาดบริเวณน้ำตื้นกว่า 30 ตัว มีชาวบ้าน นักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ของโรงแรมพยายามผลักดันให้ฝูงวาฬเพชฌฆาตเทียมกลับออกไปกลางทะเล โดยสามารถผลักดันกลับออกไปได้เพียงบางส่วน เหลือเกยตื้นอีกกว่า 20 ตัว สุดปัญญาที่เจ้าหน้าที่จะผลักดันออกสู่ทะเลได้ จึงใช้วิธีวางอวนล้อมฝูงวาฬเพชฌฆาตเทียมเอาไว้เพื่อรอให้คลื่นลมสงบและระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นมากกว่านี้ ปรากฏว่ามีวาฬเพชฌฆาตเทียมเสียชีวิตไป 1 ตัว เจ้าหน้าที่จึงชักลากขึ้นฝั่งเพื่อรอส่งไปผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง
<o></o>
<o></o>
นายวรรณเกียรติเผยว่า ตามปกติฝูงวาฬเพชฌฆาตเทียมจะอาศัยอยู่ในเขตทะเลลึก ส่วนสาเหตุที่ฝูงวาฬว่ายเข้ามาเกยฝั่งในเขตน้ำตื้นน่าจะเกิดจากจ่าฝูงเกิดหลงทิศขณะพยายามพาลูกฝูงหลบพายุและคลื่นลมแรงในทะเลลึก นำพาทั้งฝูงเข้ามาเกยหาดดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่านอกจากตัวที่ตายแล้ว ยังมีอีกหลายตัวที่อาการไม่ค่อยดี มีบาดแผลตามตัวหลายแห่ง ซึ่งจะพยายามจนสุดความสามารถเพื่อช่วยเหลือวาฬเพชฌฆาตฝูงนี้อย่างดีที่สุด
<o></o>
<o></o>
ด้านนายดนัย ภู่เจริญ ผู้บริหารโรงแรมเดอะราชากล่าวว่า ได้รับแจ้งจากพนักงานโรงแรมเมื่อช่วงเย็น จึงพยายามเกณฑ์คนมาช่วยเหลือ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการ ที่ผ่านมายังไม่เคยพบเห็นฝูงวาฬเพชฌฆาตเทียมฝูงใหญ่ขนาดนี้มาก่อน<o></o>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พิษสึนามิทำเกาะขาดแคลนน้ำจืด-ดินเค็ม​

​

นักวิจัยม.เกษตรฯ เผยควันหลงสึนามิก่อปัญหาดินเค็ม และทำบ่อน้ำผิวดินมีรสเค็มจัดจนไม่สามารถนำมาใช้งานได้ ระบุอาจต้องใช้เวลานับปีฟื้นฟูสภาพพื้นดินและแหล่งน้ำ ตอนนี้ทำได้เพียงรอน้ำฝนมาชะล้างน้ำเค็มและเกลือที่เกาะติดอยู่ที่ชั้นดิน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำนานาชาติย้ำชัดภัยน้ำเค็มทะลักท่วมเกาะหลังวิกฤติคลื่นสึนามิถล่ม ส่งผลชาวเกาะขาดแคลนน้ำดื่มต้องพึ่งพาแหล่งน้ำแผ่นดินใหญ่เป็นหลัก เชื่ออาจใช้เวลานานนับทศวรรษกว่าจะฟื้นสภาพกลับมาเป็นดังเดิม ​

นายสมโภชน์ นิ้มสันติเจริญ หัวหน้าสถานีวิจัยทรัพยากรชายฝั่งระนอง สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นสึนามิด้วย กล่าวถึงผลกระทบที่ตามมาจากคลื่นยักษ์ถล่มว่า นอกจากความเสียหายทางด้านสิ่งปลูกสร้างตลอดแนวอันดามันแล้ว ในแง่ทรัพยากรเองก็กำลังประเมินกันอยู่ว่าได้รับผลกระทบอย่างไร ​

"จากการสำรวจพื้นที่เสียหาย พบว่า น้ำทะเลที่ท่วม ส่งผลกระทบมากต่อบ่อน้ำผิวดิน ซึ่งชาวบ้านนิยมขุดขึ้นมาใช้เองที่ระดับความลึกประมาณ 5-6 เมตร ขณะที่น้ำบาดาลไม่มีปัญหาน้ำเค็มแทรกซึม เนื่องจากลึก 30-70 เมตร โดยความเร็วในการแทรกซึมของน้ำเค็มเข้าสู่ชั้นดินนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่เป็นหลัก หากเป็นบริเวณดินเหนียว ซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำสูง ก็จะไม่เร็วนัก แต่ถ้าเป็นดินทราย พอแห้งก็จะโปร่ง ทำให้น้ำเค็มไหลเข้าไปได้รวดเร็ว และเกลือก็จะฝังลงไปในชั้นดิน ดังนั้น ถ้าไม่มีน้ำจืดมาไล่ลงไป น้ำใต้ดินก็จะเริ่มเค็มมากขึ้น" นายสมโภชน์ กล่าว​

สำหรับวิธีแก้ไขนั้น นายสมโภชน์ บอกว่า ต้องรอให้น้ำฝนตกลงมาไล่น้ำเค็มลงไป หรืออาจใช้วิธีปั๊มน้ำออกจากชั้นดินให้มากที่สุด ซึ่งทางทีมวิจัยเองก็ยังไม่แน่ใจว่าการแบ่งชั้นของน้ำในแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร และขณะนี้อยู่ในช่วงภาวะแล้ง น้ำใต้ดินลดลงประมาณ 2-3 เมตร พอน้ำทะเลท่วม น้ำเค็มจึงเข้าไปแทนที่อย่างรวดเร็ว และเมื่อฝนไม่ตกก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้เร็วเพียงใด อาจต้องใช้เวลานานนับปีก็เป็นได้​

นอกจากนี้ ปัญหาน้ำเค็มยังส่งผลกระทบต่อทรัพยากรต่างๆ ด้วย โดยเฉพาะพืชในพื้นที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งอาจไม่สามารถทนความเค็มได้ เชื่อว่าภายใน 1 เดือน จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของพืชได้อย่างชัดเจน ขณะที่ปัญหาเกลือสะสมในชั้นดินจนทำให้ดินเค็ม ก็จะส่งผลให้ไม่สามารถเพาะปลูกพืชได้อีก ซึ่งหากคิดจะปลูกพืชฟื้นฟูก็จะปลูกได้เฉพาะพืชทนดินเค็มเท่านั้น​

ขณะเดียวกันวารสารออนไลน์นิวไซอันทิสต์ ได้รายงานว่า เกาะหลายแห่งในมหาสมุทรอินเดีย อาจไม่สามารถอยู่อาศัยได้เป็นการถาวร เนื่องจากปัญหาน้ำเค็มไหลท่วมเกาะจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิถล่มภูมิภาคเอเชียเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา​

บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำเชื่อว่าในระยะยาว น้ำเค็มจะรุกล้ำเข้าไปทำลายผืนดินของเกาะ และซึมเข้าไปยังชั้นหินอุ้มน้ำ รวมทั้งบ่อน้ำจืดของชุมชน จนทำให้ผู้คนไม่สามารถใช้น้ำที่มีอยู่ได้ ต้องหันไปพึ่งพาความช่วยเหลือทั้งด้านอาหารและน้ำจากภายนอก ซึ่งคาดว่าอาจเป็นเวลานานนับเดือนหรือนับปี​

จากรายงานพบว่า น้ำทะเลที่ท่วมเกาะหลายแห่ง ทำให้ดินในพื้นที่ดังกล่าวเป็นพิษ จนไม่สามารถเพาะปลูกพืชไร่ใดๆ ได้ โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเล ซึ่งประสบเหตุโดยตรงจากคลื่นยักษ์สึนามิ​

"การฟื้นคืนน้ำจืดให้สามารถใช้งานได้ เป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการ ซึ่งขั้นตอนแรกที่ต้องทำก็คือต้องสูบน้ำเค็มออกจากบ่อมาให้หมด จากนั้นก็ฆ่าเชื้อด้วยคลอรีนให้สิ้นซาก" นักวิชาการ กล่าว​

โดย : กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 10/01/2005​

ที่มา http://www.biothai.net/news/view.php?id=1156​

เครื่องกลั่นน้ำทะเลให้เป็นน้ำบริสุทธิ์​

​

<TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#000000 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR bgColor=#cc0000><TD vAlign=top width="100%">คุณสมบัติ เครื่องกลั่นน้ำดื่มบริสุทธิ์ Portable Water Distiller "MEGAHOME"</TD></TR><TR bgColor=#f9f9f9><TD vAlign=top width="100%">

• สามารถกลั่นน้ำประปา น้ำบาดาล น้ำคลอง และน้ำทะเล ให้เป็นน้ำบริสุทธิ์
• สามารถกลั่นน้ำได้วันละ 12 ลิตร เพียงพอสำหรับดื่มภายในครอบครัว 5-6 คน
• เหมาะสำหรับดื่ม ชงนม ชา กาแฟ น้ำผลไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ป่วยโรคไต นิ่ว
• น้ำกลั่นบริสุทธิ์ จะช่วยละลายสารตะกอนของแร่ธาตุที่สะสมอยู่ตามข้อต่อ และผนังเส้นเลือด อีกทั้งช่วยให้ ไตทำงานดีขึ้น
• การดื่มน้ำบริสุทธิ์ ช่วยให้ระบบการย่อยอาหาร การดูดซึมอาหาร และการขับถ่ายของร่างกายมีประสิทธิภาพเต็มที่

</TD></TR><TR><TD vAlign=top width="100%">

​

สถานที่สั่งซื้อในประเทศไทย

บริษัท นอติลัสวอเตอร์เมคเกอร์ จำกัด

ชวนชม ศิริประพันธ์

20 / 76 ถนนพระราม 2 หมู่ 6 ตำบลคอกกระบือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร 74000

(Thailand)​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
http://www.gmwebsite.com/Website/ind...61227162005328​

 

มาเลเซียพับโครงการขนาดใหญ่ หันไปเพิ่มอาหารและลดความยากจน

​

กัวลาลัมเปอร์ 26 มิ.ย.- รัฐบาลมาเลเซียระงับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่และรับปากจะจัดสรรงบประมาณ 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 297,000 ล้านบาท) เพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวและลดความยากจน หวังลดกระแสไม่พอใจของประชาชนจากการที่ของขึ้นราคา

รัฐบาลมาเลเซียแถลงรายงานทบทวนร่างแผนการพัฒนาประเทศหลังบริหารมาได้ครึ่งวาระว่า ยังคงยึดมั่นตามเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจร้อยละ 6 ต่อปี ระหว่างปี 2549-2553 เพราะการบริโภคภายในประเทศจะช่วยชดเชยผลกระทบจากความต้องการในตลาดโลกลดลง รัฐบาลกำลังทบทวนการใช้จ่ายให้มุ่งเน้นโครงการที่จะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ เพราะราคาเชื้อเพลิงและวัสดุการก่อสร้างที่สูงขึ้นทำให้งบประมาณตึงตัว

ดังนั้น รัฐบาลจะระงับโครงการตัดถนน 1,500 ล้านริงกิต (ราว 15,000 ล้านบาท) และโครงการรถไฟรางเดี่ยว 2,000 ล้านริงกิต (ราว 20,000 ล้านบาท) ในรัฐปีนังเพื่อให้มีงบประมาณสำหรับจัดทำโครงการอื่น รวมทั้งจะเลื่อนแผนการสร้างศูนย์กลางราชการในรัฐกลันตัน ซาราวัก และปะหังโดยไม่มีกำหนด รัฐบาลจะจัดสรรเงิน 30,000 ล้านริงกิต (ราว 300,000 ล้านบาท) ปรับปรุงสาธารณสุข เพิ่มผลผลิตข้าว สร้างโรงเรียน สร้างถนนในชนบท ลดความยากจน ทำให้งบประมาณในการพัฒนาช่วงปี 2549-2553 เพิ่มเป็น 230,000 ล้านริงกิต (ราว 2.3 ล้านล้านบาท)

ขณะเดียวกันรัฐบาลมาเลเซียจะลดการขาดดุลการคลังลงเหลือร้อยละ 3.2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปี 2553 ต่ำกว่าที่ประมาณก่อนหน้านี้ไว้ที่ร้อยละ 3.4 ส่วนอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3-4 ต่อปี ในปี 2551-2553 สูงกว่าปีก่อนที่ทำสถิติสูงสุดที่ร้อยละ 2 นอกจากนี้รัฐบาลจะเพิ่มสัดส่วนความเป็นเจ้าของกิจการของชนกลุ่มน้อย เช่น คนเชื้อสายมาเลย์ จากร้อยละ 19 เมื่อปี 2549 เป็นร้อยละ 20-25 ในปี 2553. -สำนักข่าวไทย

2008-06-26 15:19:22

ราคาน้ำมันพุ่ง ทำวิถีชีวิตคนอเมริกันเปลี่ยน ​

​

ลอสแองเจลิส 26 มิ.ย.- วิกฤติน้ำมันแพง ส่งผลให้คนอเมริกันต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินชีวิตเพื่อความอยู่รอด หลายคนหันมาใช้บริการรถไฟมากขึ้น จักรยานยนต์ขายดี เพราะสิ้นเปลืองน้ำมันน้อยกว่ารถใหญ่ หลายครอบครัวต้องลดรายจ่ายเพราะอาหารสด-ผักราคาแพงขึ้นมาก

แต่ไม่น่าเชื่อว่า องค์กรการกุศลยังได้รับผลกระทบอย่างจังจากภาวะน้ำมันแพง ผู้อำนวยการบริหารของซีเนียร์ วอลันเทียร์ เซอร์วิสเซส ในสหรัฐ บอกว่า ข้าวของเครื่องใช้ที่ปรับราคาสูงขึ้นตามน้ำมัน ทำให้อาสาสมัครหลายคนเริ่มอยู่ไม่ได้ พวกเขาจึงลาออกไปหางานทำ ตัวเลขอาสาสมัครในองค์กรการกุศลจึงลดลงถึงร้อยละ 20 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

ผลสำรวจคนอเมริกันกว่า 860 คน พบว่า ภาวะน้ำมันแพง ทำให้คนอเมริกันร้อยละ 28 ต้องหยุดใช้จ่ายในเรื่องไม่จำเป็น เช่น การซื้อกาแฟจากร้านสตาร์บัคส์ รวมถึงการซื้อดีวีดีและซีดี ร้อยละ 27 เลิกเข้าร่วมกิจกรรมทางการกีฬา และร้อยละ 68 ยอมรับว่า พวกเขาชอปปิ้งน้อยลง น้ำมันแพงยังส่งผลให้คนอเมริกันร้อยละ 44 ย่นการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดให้สั้นลง

แต่น้ำมันแพงกลับส่งผลดีต่อบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์ตัดหญ้าด้วยมือ บริษัทแห่งหนึ่งในรัฐอินดิแอนา ยืนยันว่า ขายอุปกรณ์ตัดหญ้าด้วยมือได้มากขึ้นร้อยละ 20-30 เพราะคนอเมริกันไม่อยากใช้เครื่องตัดหญ้าอัตโนมัติที่ต้องใช้น้ำมันเบนซินเดินเครื่อง

ราคาน้ำมันที่พุ่งสูง ยังทำให้คนอเมริกันหลายคนเลิกใช้รถส่วนตัว หันมาใช้บริการรถไฟและรถโดยสารประจำทาง เครือข่ายให้บริการรถไฟทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย นับจำนวนผู้โดยสารรถไฟในวันที่ 17 มิถุนายน ได้มากถึง 50,000 คน มากกว่าวันเดียวกันของปีที่แล้วถึงร้อยละ 15.6 ส่วนเจ้าหน้าที่ในนิวยอร์ก ก็ยืนยันว่า ผู้โดยสารรถไฟเส้นที่เชื่อมระหว่างนิวยอร์ก กับนิวเจอร์ซีย์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้. -สำนักข่าวไทย

2008-06-26 15:04:01

สังคมเวียดนามเปลี่ยน หลังเศรษฐกิจขยายตัว ​

​

ฮานอย26มิ.ย.-ผลสำรวจของรัฐบาลเวียดนามร่วมกับองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติหรือยูนิเซฟ พบว่าการเร่งพัฒนาบ้านเมืองให้ทันสมัยส่งผลให้เวียดนามมีโครงสร้างครอบครัวที่เปลี่ยนไป ตัวเลขการหย่าร้างพุ่งไปอยู่ที่ร้อยละ2.6 เด็กและคนชราถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังมากขึ้น

ผลสำรวจชาวเวียดนาม 9,400 ครัวเรือน จากทั่วประเทศพบว่า หลังการปฏิรูปตลาดผ่านมาได้ 20 ปี เวียดนามมีการเปลี่ยนแปลงไปมากในมิติทางสังคม รวมถึงความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว โดยมีรายงานว่า เกิดเหตุรุนแรงในครอบครัวมากถึง 1 ใน 5

การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้ตัวเลขคนยากจนในเวียดนามลดลงอย่างรวดเร็ว ครัวเรือนในเวียดนาม ร้อยละ 96 มีไฟฟ้าใช้ ร้อยละ 86 มีน้ำที่สะอาด ตัวเลขคนรู้หนังสือในกลุ่มประชากรที่มีอายุเกิน 10 ปีขึ้นไป ยังมีสูงเกือบร้อยละ 95

แต่ในทางกลับกัน แรงกดดันทางเศรษฐกิจ ก็ทำให้พ่อแม่ในเวียดนามต้องทำงานมากขึ้น หลายครอบครัวจึงไม่มีเวลาเลี้ยงดูบุตรหลาน เด็กเวียดนามอายุ 15 ถึง 17 ปี มีอยู่ร้อยละ 80 ที่บอกว่า พ่อแม่ปล่อยให้พวกเขาใช้ชีวิตได้ตามใจชอบ สังคมที่เปลี่ยนไป ทำให้การแต่งงานแบบคลุมถุงชนมีน้อยลง และตามปกติหลังการแต่งงาน เจ้าสาวในเวียดนามจะต้องย้ายไปอยู่บ้านเจ้าบ่าว แต่ปัจจุบันมีอยู่หลายคู่ ที่เจ้าบ่าวย้ายมาอยู่บ้านเจ้าสาว หรือแยกครอบครัวออกไปอยู่ตามลำพัง

ส่วนในเรื่องความเสมอภาคทางเพศ แม้ผู้หญิงเวียดนามสามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้เต็มที่ แต่ก็ยังมีโอกาสน้อยกว่าผู้ชายในการสร้างฐานะ มีการศึกษา และได้รับการดูแลสุขภาพ ผู้หญิงเวียดนามยังต้องแบกภาระหนักเช่นเคยในการทำงานบ้าน เลี้ยงลูกและดูแลคนชรา. -สำนักข่าวไทย

2008-06-26 15:31:46

ราคาน้ำมันอาจถึงระดับ 150-170 ดอลลาร์สหรัฐ ในเร็ว ๆ นี้

​

ปารีส 26 มิ.ย. - นายชากิบ เคลิล รัฐมนตรีพลังงานแอลจีเรีย และประธานองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะทะยานขึ้นไปที่บาร์เรลละ 150-170 ดอลลาร์สหรัฐ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้


ประธานกลุ่มโอเปกให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ฝรั่งเศส คาดว่า ราคาน้ำมันจะอยู่ที่ 150-170 ดอลลาร์สหรัฐ ในฤดูร้อนนี้ และอาจดิ่งลงเล็กน้อยในช่วงสิ้นปี พร้อมทั้งระบุว่า ราคาน้ำมันขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น นโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป รวมทั้งกรณีที่สหรัฐและยุโรปต่างกดดันเรื่องนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ จะยิ่งส่งผลกระทบให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้น. -สำนักข่าวไทย

2008-06-26 19:21:14

ชาวอเมริกันกว่า 750 คนล้มป่วยด้วยเชื้อซัลโมเนลลา

​

วอชิงตัน 27 มิ.ย.-ชาวอเมริกันกว่า 750 คนล้มป่วยจากการระบาดของแบคทีเรียซัลโมเนลลาซึ่งเชื่อมโยงกับการรับประทานมะเขือเทศ

ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคระบาดของสหรัฐ (ซีดีซี) รายงานว่าประชาชน 756 คน ใน 34 รัฐและในเขตดิสทริค ออฟ โคลัมเบีย ( ดีซี) ติดเชื้อแบคทีเรียซัลโมเนลลา เซนท์พอล ในจำนวนนี้มีถึง 95 คน ที่ถูกหามส่งโรงพยาบาล อย่างไรก็ตามสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ (เอฟดีเอ) แถลงว่ายังไม่มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อชนิดนี้ แต่ถึงกระนั้นมีชายวัย 60 ปี คนหนึ่งที่รัฐเท็กซัสเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งแต่ขณะเสียชีวิตเขาติดเชื้อซัลโมเนลลา ซึ่งเชื้อชนิดนี้อาจมีผลต่อการเสียชีวิต

เจ้าหน้าที่ยังคงตามหาแหล่งที่มาของเชื้อ โดยที่รัฐเท็กซัสมีการติดเชื้อมากที่สุดถึง 330 ราย ตามมาด้วยรัฐนิวเม็กซิโก 80 ราย เจ้าหน้าที่เชื่อมโยงการระบาดเข้ากับมะเขือเทศ ลูกพลัมและผักกาดขาว ซึ่งสาเหตุของการระบาดมากที่สุดอาจมาจากมะเขือเทศ.- สำนักข่าวไทย

2008-06-27 09:25:17

ข่าวภายในประเทศ

พบวาฬเกยตื้นกว่า 30 ตัว ที่ภูเก็ต​

​

ภูเก็ต 27 มิ.ย. - ฝูงวาฬเพชฌฆาตกว่า 30 ตัว เกยตื้นบริเวณท่าเทียบเรือเกาะราชา จังหวัดภูเก็ต

เจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันดันวาฬเพชฌฆาตขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 2-4 เมตร กลับลงทะเล หลังพบเกยตื้นบริเวณท่าเทียบเรือเกาะราชา ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดย 20 ตัว สามารถกลับลงไปสู่ทะเลลึกได้ ส่วนอีก 11 ตัว ไม่สามารถว่ายกลับลงทะเล เนื่องจากมีคลื่นลมแรง และมีอาการอ่อนเพลีย จึงช่วยกันย้ายไปอ่าวทิศตะวันออก เพื่อผลักดันกลับสู่ทะเลลึก แต่มี 1 ตัว ช็อกตาย เจ้าหน้าที่จึงนำไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันวิจัยวิทยาและพัฒนาประมงชายฝั่งภูเก็ต ส่วนสาเหตุเชื่อว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะโลก. - สำนักข่าวไทย

2008-06-27 05:57:55

ที่มา http://news.mcot.net/

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>

 

*** กรรมปรากฏชัดขึ้น ****

ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท....
ใช้ชีวิตพอเพียง ด้วยสัจจะ...
คือ .... ทำจริง ตามสัญญาใจตนเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สำเร็จ ****

กฎ ๑ ข้อ
จะทำได้จริง ....ต้องมีสัจจะ

ศีล ๑ ข้อ
จะทำได้จริง ....ต้องมีสัจจะ

คำสัญญา
จะทำได้จริง ....ต้องมีสัจจะ

คำสาบาน
จะทำได้จริง ....ต้องมีสัจจะ

คำปฏิญาณตน
จะทำได้จริง ....ต้องมีสัจจะ

ทุกอย่าง
เป็นสัญญาที่เกิดขึ้นในใจตนเอง

ทุกอย่าง
สำเร็จได้ด้วย สัจจะ

ทุกสัญญา
สิ้นสุดด้วย สัจจะ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ไม่โกง ****

โกง...เริ่มจาก การโกงตัวเอง
โกง สัญญาใจของตนเอง
ผิดสัญญา ในใจตนเอง
ดินฟ้าอากาศ เป็นพยานรู้เห็นโดยตลอด

โกง...แก้ด้วย ไม่โกง
แก้ด้วย.... สัจจะ
ต้องแก้ที่ตัวเอง...ให้ การกระทำ ปาก ใจ ไม่โกง

โกงตัวเองมากๆ จะไปไม่รอด
เพราะ ขาดสัจจะ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "