ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

เรื่องระดับน้ำที่เครื่อง gps แสดงไว้แบบผิดปกติ

ไม่ทราบว่าคุณ Falkman พอหาจะเจาะข้อมูลได้ไหมว่า การระบุระดับน้ำใช้อะไรเป็นตัวชี้วัดระดับ ใช้ดาวเทียมเล็งองศา หรือ ใช้คนวัดที่แหล่งน้ำแล้วส่งข้อมูลไปให้ที่ center แล้วส่ง message ไปที่เครื่อง gps

ถ้าเป็นแบบแรก ก็แสดงว่าโลกอาจจะแกว่งผิดปกติ ทำให้องศาที่วัดจากนอกโลกไม่ตรง ถ้าเป็น Human error ก็ไม่น่าเป็นห่วง หรืออาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นๆ อีกมากมายก็ได้

เมื่อรู้ข้อมูลลึกซึ้งมากขึ้น จะได้รู้ว่า เราควรตระหนกตกใจ ดีหรือไม่

( ไม่ได้ใช้ให้ทำงานนะ - เพราะเห็นว่ามีข้อมูลดี ๆ แยอะดี ( ชมไว้ก่อน ) ผมไม่มีทั้งข้อมูล และภูมิความรู้ด้านนี้ เลยยังไม่มีแหล่งให้หา )

ช่วยหน่อยครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

 

ที่มา http://q--p.seedang.com/stories/25738

บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
ปรากฏการณ์ล่วงหน้า (Precursory phenomena) อาจเป็นสิ่งเตือนภัย หรือสัญญาณบอกเหตุให้รู้ว่า อีกไม่นานจะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น ในอเมริกา รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น ต่างให้ความสนใจ พยายามค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับปรากฏการณ์บางอย่างกันมาก ได้แก่


1) พื้นดินเกิดการยกตัวขึ้นมาอย่างผิดปกติ
2) ค่าความเข้มสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนแปลงไป
3) สภาพการนำไฟฟ้าของหินเปลี่ยนแปลง
4) เกิดแผ่นดินไหวเล็กๆ เกิดขึ้นเป็นการเตือนภัยก่อน
5) มีปริมาณก๊าชเรดอนในบ่อน้ำสูงกว่าปกติ

สัญชาตญาณของสัตว์
จากการศึกษาวิจัยของผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวพบว่า หากสัตว์ป่ามีพฤติกรรมผิดไปจากปกติ มักจะเกี่ยวข้องกับการเกิดภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ทั้งนี้เพราะสัตว์มีความสามารถรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหว เป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งในการเอาชีวิตรอด

พฤติกรรมผิดปกติของนก
นกมีความรู้สึกไวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะนกพิราบป่าจะไวเป็นพิเศษ ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวประเทศจีนพบว่า ขณะเกิดแผ่นดินไหวแรงสั่นสะเทือน 3 ริกเตอร์ขึ้นไป ฝูงนกพิราบป่าที่อยู่ภายในรัศมี 50 กม. จากศูนย์กลางแผ่นดินไหวจะล่วงรู้ล่วงหน้า และบินหนีไปภายใน 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ กาและนกเลี้ยงบางชนิด เช่น นกแก้ว ก็มีความรู้สึกไวต่อการเกิดแผ่นดินไหวเช่นกัน

พฤติกรรมผิดปกติของปลา
- ปลาน้ำเค็ม เมื่อ ค.ศ. 1995 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ ชาวประมงจับปลาได้ปลาได้มากกว่าปกติ และมีปลาจากทะเลลึกว่ายเข้ามาในเขตน้ำตื้นด้วย
-ปลาน้ำจืด ปลาน้ำจืดในแม่น้ำหรือทะเลสาบที่มีความรู้สึกไวต่อการเกิดแผ่นดินไหวหรือปลาคาร์ป ก่อนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง เคยมีคนเห็นปลาคาร์ปจำนวนมากกระโดดขึ้นมาบนผิวน้ำ เหมือนตกใจหนีอะไรบางอย่าง

พฤติกรรมผิดปกติของสัตว์เลื้อยคลาน
ผลการวิจัยพบว่า สัตว์ที่รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหวก่อนใครคือ งู ทั้งนี้เพราะงูจำศีลอยู่ในโพรงใต้ดิน (งูในประเทศเขตหนาว) จึงรู้สึกถึงความผิดปกติได้ง่ายเมื่อมีการสั่นสะเทือนของเปลือกโลก มีก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ มีการเปลี่ยนแปลงของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ฯลฯ และจะหลบภัยด้วยการ เลื้อยขึ้นมาบนดินแม้จะเป็นช่วงฤดูหนาวก็ตาม

ตัวอย่างเช่นเมื่อ ค.ศ. 1855 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นหนึ่งวัน พบฝูงงูเลื้อยขึ้นมาบนดินหลายตัว เมื่อ ค.ศ. 1977 ตอนเกิดแผ่นดินไหวที่โรมาเนีย ก็มีฝูงงูเลื้อยขึ้นมาแข็งตายบนดิน เมื่อ ค.ศ. 1976 หนึ่งวันก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองถังซานประเทศจีน ก็มีฝูงงูจำนวนมากเข้าไปหลบอยู่ในซอกหิน

พฤติกรรมผิดปกติของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
กบก็แสดงพฤติกรรมผิดปกติเช่นเดียวกับงู เมื่อ ค.ศ. 1976 ไม่กี่ชั่งโมงก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่เมืองถังซานในประเทศจีน มีคนเห็น ฝูงกบนับพันนับหมื่นตัวพากันอพยพ
พฤติกรรมผิดปกติของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
สุนัข
ตอนที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ มีรายงานว่าสุนัขจะแสดงพฤติกรรมแปลกๆ มากที่สุด สุนัขเป็นสัตว์ที่ใกล้ชิดกับคน จึงสังเกตความผิดปกติจากสุนัขได้ง่าย และพบว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหว สุนัขจะมีอาการตื่นตระหนก วิ่งไปวิ่งมา บางตัวก้าวร้าวขึ้น ส่วนบางตัวก็เห่าและหอน
แมว
ก่อนเกิดแผ่นดินไหว แมวส่วนใหญ่จะหาที่หลบ ญี่ปุ่นมีคำโบราณกล่าวไว้ว่า "ก่อนแผ่นดินไหว แมวจะปีนขึ้นต้นไม้สูง" และมีคนเห็นเช่นนี้จริงๆ ก่อนเกิดแผ่นไหว แมวบางตัวแสดงอาการงุ่นง่าน วิ่งไปมา และส่งเสียงร้องอย่างกระวนกระวาย
หนู
เมื่อ ค.ศ. 1923 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่คันโต หนูพากันหลบหนีไปหมด และตอนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ ก็พบปรากฏการณ์หนูพากันหลบหนีเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหวจะมีหนูติดกับดักเพิ่มขึ้น และหนูบางตัววิ่งพล่านไปทั่ว

การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดิน
นับแต่โบราณ ชาวจีนค้นคว้าหาความสัมพันธ์ระหว่างการเกิดแผ่นดินไหวกับระดับน้ำใต้ดิน และนำมาใช้ในการคาดการณ์การเกิดแผ่นดินไหว ตั้งแต่ ค.ศ. 1981-1985 มีรายงานความผิดปกติของระดับน้ำใต้ดินหลายครั้ง เป็นการลดลง 27 ครั้ง เพิ่มลดสลับกัน 3 ครั้ง น้ำใต้ดินเกิดคลื่น 3 ครั้ง และระดับน้ำทะเลเปลี่ยนแปลงอย่างผิดปกติ 12 ครั้ง

ค.ศ. 1975 มีการคาดการณ์แผ่นดินไหวที่ชายฝั่งทะเลของประเทศจีนเป็นครั้งแรกของโลก จากผลการศึกษาวิจัยพบว่า ก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่มีความสั่นสะเทือน 7 ริกเตอร์ขึ้นไป บางครั้งระดับน้ำใต้ดินที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงศูนย์กลางแผ่นดินไหวจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติล่วงหน้าเป็นปี ๆ แต่หากแผ่นดินไหวที่มีความสั่นสะเทือนต่ำกว่า 6 ริกเตอร์ การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดินครั้งแรกเกิดขึ้นราวสองสามเดือนก่อนแผ่นดินไหว

ความสั่นสะเทือนที่ใต้ดิน
ลางบอกเหตุแผ่นดินไหวที่พิเศษที่สุดคือเสียงสั่นสะเทือนที่ใต้ดิน เท่าที่ค้นพบในเวลานี้มีบันทึกเกี่ยวกับเสี่ยงสั่นสะเทือนจากใต้ดินในสมัยราชวงศ์เว่ย เมื่อ 1,500 ปีก่อนแล้ว ซึ่งบันทึกไว้ว่า ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 464 เกิดแผ่นดินไหวที่บริเวณเมืองเยียนเหมินฉี (มณฑลชานซีในปัจจุบัน) ก่อนเกิดแผ่นดินไหวมีเสียงสั่นสะเทือนจากใต้ดินดังครืนๆ เหมือนฟ้าร้อง พอสงบลงก็เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง และในปี ค.ศ 1967 หลังเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่เมืองถังซาน ได้มีการสอบถามผู้คนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 1,000 กิโลเมตรจากศูนย์กลางของแผ่นดินไหว พบว่า 95 % ได้ยินเสียงดังครืนๆ อย่างชัดเจน

ชนิดของเสียงสั่นสะเทือนที่ใต้ดิน
เสียงสั่นสะเทือนที่พื้นดินที่เป็นลางบอกเหตุแผ่นดินไหวมีมากหลายแบบ จากผลการวิจัยแบ่งได้เป็น 6 แบบคือ

1. เสียงฟ้าร้อง : เป็นเสียงที่พบบ่อยที่สุด มักจะดังขึ้นก่อนเกิดแผ่นดินไหว
2. เสียงพายุ: ดังเหมือนพายุพัด คล้ายเสียงร้องของช้างพลาย
3. เสียงระเบิด: ดังตูมตามเหมือนเสียงระเบิดขนาดใหญ่
4. เสียงเครื่องยนต์: ดังเหมือนเสียงรถยนต์ รถไถ รถรางไฟฟ้า หรือเครื่องบิน
5. เสียงเลื่อยไม้: ตอนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่เมืองถังซาน มีคนจำนวนไม่น้อยได้ยินเสียสั่นสะเทือนที่ใต้ดินที่ดังเหมือนเสียงระเบิดและเสียงเลื่อยไม้
6. เสียงฉีกผ้า: เสียงนี้มักได้ยินที่ทะเลมากกว่าบนบก

ท้องฟ้าก็บอกเหตุแผ่นดินไหว
ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า ท้องฟ้าก็บอกเหตุแผ่นดินไหว โดยก่อนแผ่นดินไหวรุนแรง ท้องฟ้าจะมี ปรากฏการณ์ที่ผิดปกติ เช่น มีเมฆรูปร่างประหลาด เกิดประกายแสง มีรุ้งกินน้ำ เป็นต้น แต่ที่พบบ่อยที่สุดคือมี "เมฆแผ่นดินไหว" (Earthquake Clouds)

โมเดลของการเกิดเมฆแผ่นดินไหว
หลักการของการเกิด "เมฆแผ่นดินไหว" นั้น Zhonghao Shou (Earthquake Prediction Center, New York, USA) อธิบายไว้ว่า ในบริเวณที่มีแนวรอยเลื่อนมีพลัง เมื่อหินถูกแรงเค้นจากภายนอกเข้ากระทำ ทำให้หินบริเวณนั้นแตกร้าวบางส่วน เป็นรอยเลื่อนในชั้นหิน และเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กทันที (ก่อนแผ่นดินไหวใหญ่จะตามมา) แอ่งน้ำร้อนที่สะสมตัวใต้ดิน/หิน (Hydrothermal) จะกลายเป็นไอที่มีอุณหภูมิร้อน และความดันสูง ไหลพุ่งขึ้นมาตามรอยเลื่อนนี้ ระเหยขึ้นสู่ท้องฟ้าเบื้องบน ขณะที่บรรยากาศโดยรอบมีอุณหภูมิเย็น จะก่อให้เกิด เมฆแผ่นดินไหว ปรากฏเหนือและ ขนานยาวตามแนวรอยเลื่อนนั้นๆ

 

***ทางสายกลาง****

เรื่องการให้เช่าพระนี้ ผมเห็นว่าควรเลือกเดิน "ทางสายกลาง" จะดีกว่าครับ ควรดูที่เจตนาว่า การให้เช่าพระนั้นทำไปด้วย "เจตนาอย่างไร"

ถ้าทำไปเพื่อนำปัจจัยที่ได้จากการเช่าพระนั้น มาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสร้างถาวรวัตถุต่างๆ เช่นโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ หรือนำมาใช้จ่ายในงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา อย่างที่เว็บพลังจิตกำลังทำอยู่ในขณะนี้ เราก็ควรจะให้การสนับสนุน เพราะเป็นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของชาวพุทธทั้งประเทศ

แต่ถ้าทำไปเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว โดยอ้างการทำบุญมาบังหน้า อย่างนี้จึงถือเป็นบาปกรรมอย่างยิ่ง และจะต้องได้รับผลกรรมอย่างที่คุณหนุมาน ผู้นำสาร ได้กล่าวเตือนเอาไว้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงมีทั้งแง่บวกและลบ เราจึงไม่ควรมองในแง่ลบเพียงอย่างเดียวครับ

ถ้าเรื่องการสร้างพระเครื่อง เพื่อให้ประชาชนได้เช่าไปบูชานั้น เป็นการทำลายพระพุทธศาสนาจริงแล้ว สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านคงไม่สร้างพระเครื่องเอาไว้มากมาย จนทำให้คนในรุ่นของเรานี้ ตื่นตัวหันมาให้ความสนใจในพระพุทธศาสนากันอย่างจริงจัง ด้วยประจักษ์ในอำนาจแห่งพระพุทธคุณที่มีอยู่ในพระเครื่องนั้นๆ ครับ

 

เรื่องปลาน้ำลึกในทะเล ออกมาเกยตื้นตาย
อันนี้ คือ สัญญาณอันตรายมาก น่ากลัวค่ะ



เคยทราบว่า แม่น้ำในทะเล มันจะไม่เป็นเนื้อ
เดียวกันไปหมด เหมือนมีหลายสายอยู่ทับกัน
คือ บางสายจะเย็นก็จะไหลเคลื่อนตัวอยู่ลึก
ส่วนที่อุ่นก็จะไหลเคลื่อนตัวเร็วอยู่ด้านบน
แล้วหมุนเวียนจากขั้วโลกเหนือใต้ ตามกระแส
น้ำอุ่นและเย็นที่เปลี่ยนแปลง บางส่วนหมุนวน
ลงด้านล่าง


การที่นำแข็งขั้วโลกละลายมาก อาจกระทบกระแสน้ำนี้ด้วย

 

ดิฉันสังเกต เหมือนคุณfalkman คะ ว่าทำไมพระอาทิตย์ตกช้าจัง ทุ่มกว่าแล้วยังสว่างอยู่เลย พอเผลอมันก็มืดเลย ไม่ใช่ค่อยๆมืดเหมือนแต่ก่อน แล้วที่บ้านดิฉัน ตลาดน้อย มันเป็นบ้านโบราณตั้งแต่ ร.5 แต่รื้อใหม่ทำใหม่ปี 38 แต่ต้องใช้กำแพงเดิมของเดิมอิฐแดง(มอญ)กว้างใหญ่เท่ากับอิฐใหม่ 12 ก้อนคะ แล้วทำห้องสุขามันจำกัดจำเขียด เดิมบ่อพักอึไม่มีเสียง ปุ๋มๆ แต่ตอนนี้ประมาณเดือนนี้นะคะ เสียงปุ๋มๆ มันดังจริงๆ นะไม่รู้มีความร้อนจากใต้ดินป่าว พูดกับพี่สาว เค้ามองหน้าเลย -_-

 

พบน้องๆ
<O</O
<O</O
วันนี้ อาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 51
<O</O
<O</O
น้องสาวปีใหม่และน้องตุ๊กตาแก้ว ได้ชวนผมไปร่วมประชุมที่บ้าน คุณ ธร แถวท่าอิฐ นนทบุรี
<O</O
<O</O
เมื่อผมเปิดประตูเข้าห้องที่กำลังทำสมาธิกันอยู่ ก็พบกับคุณ คณานันท์ เป็นคนแรก ได้ทักทายกันด้วยการไหว้ จากนั้นผมก็เข้าไปนั่งที่ท้ายห้อง หลังจากที่น้องๆนั่งสมาธิกันเสร็จ

คุณคณานันท์ได้ให้เล่นเกมส์ ตัดดินสอ ด้วยกระดาษเช็ดปาก เป็นการคลายเครียดอย่างหนึ่ง
<O</O
<O</O
ช่วงทานอาหารเที่ยง ก็ได้คุยกัน ผมได้ถามถึงการเตรียมพื้นที่ๆจะไปอยู่ จากคุณ คณานันท์ น้องสาวปีใหม่และน้องตุ๊กตาแก้ว ส่วนใหญ่ก็ได้เตรียมไว้แล้ว
<O</O
<O</O
สำหรับท่านที่ยังไม่ได้เตรียมหรือคิดว่าจะซื้อผมขอแนะนำอย่างนี้
<O</O
<O</O
พื้นที่ๆจะไปอยู่จะต้องแน่ใจว่า มีสิ่งที่จะปกป้องเราได้ หรือถ้าจะซื้อ ขอให้ซื้อให้ใกล้กับสิ่งปกป้องมากที่สุด เวลาเกิดภัยจะได้หนีขึ้นทัน
<O</O
<O</O
ให้อยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ เพื่อผู้คุ้มครองจะได้ดูแลกันอย่างทั่วถึง และดูแลกันเอง
<O</O
<O</O
อย่าอยู่อย่างกระจัดกระจาย เพราะผู้ปกป้องไม่สามารถจะควบคุมดูแลได้ทั่วถึง
<O</O
<O</O
สิ่งสำคัญที่ชอบย้ำเสมอๆคือ บุญคุ้มครองต้องมีพอ<O</O

 

พี่เกษม กล่าวได้ดีมากๆครับ ผมติดตามอ่านข้อความพี่มานาน

....ช่างเปี่ยมล้นด้วย พรหมวิหาร4

ขออนุโมทนากับขอความนี้ครับ

 

ทุกอย่างอยู่ที่เจตนา เหมือนคำว่าสัจจะ ถ้าพูดได้แต่ทำไม่ได้ ก็ไร้ผล

 

*** ไม่เหมือนกัน ****

การสร้างพระแจก...ให้คนนำไปบูชาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ...ไม่หวังผลตอบแทน
คนจะทำบุญ มากน้อยก็เรื่องของบุคคล
กับ
สร้างพระ....ตั้งมูลค่า แลกเงิน...ใจหวังวัตถุ คิดคำนวณ จินตนาการ วัตถุ ลาภ ยศ สรรเสริญ
กลายเป็นบาป โดยไม่เจตนา
คนเช่าไปบูชา กลายเป็นสับสนุน คนสร้างพระที่หวังผลนั้น
คนเช่าไป จึงต้องรับบาปติดตัวไป โดยไม่เจตนา
กรรม จึงเป็นกรรมแบบไม่เจตนา อยู่ๆก็เกิด

เรื่องนี้...คิดให้ไกล คิดให้กว้าง คิดถึงผลกระทบอีกมากมาย
- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** กาย วาจา ใจ ****

บางครั้ง...
เรามีเจตนาดี .... แต่การกระทำไม่ตรงเจตนา
เพราะ ขาดการพิจารณา ...อย่างละเอียด รอบคอบ กว้างและไกล
ใจ ปาก การกระทำ....จึงไม่ตรงกัน ไม่เป็นสัจจะธรรม

สิ่งที่เราตัดสินใจทำลงไป...
จะส่งผลกระทบอะไรบ้าง !!!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** คำถาม ****

เหตุใด พระพุทธเจ้าจึงไม่ให้ซื้อขายพระ ???
(ค้นหาดูในพระไตรปิฎก)

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ฝืนใจขัดใจเล็กน้อย ****

เพียงแค่...
ปรารถนาให้ ทุกท่านไม่ตกเป็นผู้ทำลายศาสนา โดยไม่รู้ตัว !!!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** เป็นข้อคิด ****

๑....% ของประชาชนประเทศใด นับถือพระพุทธศาสนามากที่สุด ???
๒...ประเทศใด ซื้อขายพระมากที่สุด ????

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ใครหนอ ****

มองหาคนรื้อฟื้น "สัจจะ" ในรัฐสภา
ไม่เห็นท่านใด พูดถึง "สัจจะ" กัน
"สัจจะ" จะได้มีโอกาส เข้าสู่ใจคนทั้งประเทศ

...คำสัตย์ปฏิญาณตน ....
รักษาด้วย "สัจจะ" บ้านเมืองก็ดีขึ้นเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เลือกที่ตามอำเภอใจ
<O</O
<O</O
มีสมาชิกหลายท่าน ได้ไปหาซื้อที่ดินหรือบ้านพร้อมที่ดิน ในที่ราบสูง<O</O
<O</O
ผมขอแนะนำว่า<O</O
<O</O
ต้องซื้อใกล้กับพื้นที่ปลอดภัยเท่านั้น ถ้าท่านคิดว่าซื้อเพราะเป็นพื้นที่สูงแล้วปลอดภัย แล้วคิดว่ามีเครื่องรางของขลังไว้ปกป้องแล้วจะปลอดภัย ท่านคิดผิด จะเสียเงิน เสียเวลาและอาจจะเสียใจ
<O</O
<O</O
เพราะเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ผิดปกติจากธรรมชาติและรุนแรง กำลังของเครื่องรางไม่พอที่จะต้านได้ ไม่เช่นนั้น บรรดาขุนต่างๆที่ลงมาและถูกวางไว้ตามที่ต่างๆ คงไม่ลงมาให้เสียเวลา
<O</O
<O</O
ท่านที่ซื้อที่ดิน ถ้าจะประหยัด ก็ใช้เต็นท์ กางเป็นที่อยู่อาศัย สร้างห้องน้ำ ห้องเก็บของ มีแท็งค์น้ำ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เท่านี้ก็น่าจะพอ
<O</O
<O</O
ใช้ตู้คอนเทรนเนอร์ ที่มีห้องน้ำในตัว เป็นที่พักอาศัย
<O</O
<O</O
ซื้อบ้านระบบน็อคดาวน์
<O</O
<O</O
สร้างบ้านถาวร<O</O
<O</O

 

วันที่กลางวันยาวที่สุดในรอบปี ในซีกโลกเหนือ อยู่ประมาณ วันที่ ๒๑ มิถุนายน ตามลิงก์ด้านล่างครับ เพราะฉะนั้นการที่ช่วงนี้กลางวันยาวจึงเป็นเรื่องปกติครับ

http://www.astroschool.in.th/public/teacher/encyclodetail_ans_inc.php?id=162

ส่วนการที่วัดระดับความสูงจากน้ำทะเลได้มากผิดปกตินั้น ผมไม่ทราบว่าใช้เครื่องมืออะไรวัด แต่ถ้าใช้ GPS วัดละก็ เท่าที่ทราบ เครื่อง GPS จะให้ความแม่นยำด้านการวัดระดับความสูงน้อยกว่าความแม่นยำด้านพิกัดนะครับ ส่วนถ้าใช้เครื่องวัดความสูงชนิดที่วัดจากความกดอากาศบางแบบ เช่น แบบที่ใช้อยุ่ในนาฬิกาข้อมือ ก็จะให้ความแม่นยำไม่มากนักเช่นกัน ซึ่งทั้งสองแบบนี้อาจให้ผลผิดจากความเป็นจริงได้หลายสิบเมตรครับ

เพราะฉะนั้นถ้าใช้เครื่องแบบใดแบบหนึ่งที่กล่าวมาวัด และให้ผลออกมาดังกล่าวก็เป็นเรื่องปกติเช่นกันครับ

 

สำหรับในกรณีที่หนักและรุนแรงที่สุดในผลกระทบเรื่องน้ำท่วมที่จะมีในประเทศไทย มีกรณีความเป็นไปได้ ดังนี้


-ปริมาณน้ำมหาศาลจากภาคเหนือ บ่าลงมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำ จากประเทศจีนที่มีการสะสมตัวมากมาย และมีโอกาสที่จะไหลผ่านมาทางแม่น้ำโขง

-พายุฝน ตามการทำนายด้วยหลักอุตุนิยมวิทยา ที่มีแนวโน้มจะเกิดพายุคล้าย พายุนาร์กิสในอ่าวไทย โดยปรากฏการณ์สำคัญ ก็คือ สภาพที่ มวลน้ำทะเลถูกหอบและยกตัวขึ้นสูงกลายเป็นคลื่นขนาดใหญ่ และไหลย้อนเข้าสู่ฝั่ง สู่แผ่นดิน

ที่ห่วงกันและทางดร.สมิทธิเตือนก็คือ อาจเกิดสภาวะน้ำทะเลไหลย้อนเป็นคลื่นขนาดใหญ่เข้าไปในแม่น้ำเจ้าพระยา และทำลาย ระบบน้ำปะปา และทำลายระบบน้ำเพื่อการเพาะปลูกเกษตรกรรม ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา

-กรณีที่เกิดแผ่นดินไหวตามแนวเลื่อนศรีสวัสดิ์ และมีผลให้เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนเขาแหลมแตก ปริมาณน้ำมหาศาลจะบ่าท่วมหลายจังหวัดตามแนวการไหลของน้ำ แม้แต่เขตกรุงเทพมหานครเอง


เพียงกรณีใดกรณีหนึ่งก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างรุนแรงแล้ว หากเป็นเหตุการณ์ ที่ทั้งสามกรณีเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน หรือต่อเนื่องก็จะยิ่งน่ากลัว ทำความเสียหายรุนแรงไม่น้อย


ที่ลงไว้ ไม่ใช่ให้ก่อความกลัว แต่เพื่อ การเตรียมการณ์เพื่อความไม่ประมาท

เรื่องราวแบบนี้ เรารู้ล่วงหน้าดีกว่าไม่รู้ เพราะรู้แล้วยังพอเตรียมการณ์แก้ไขได้ ป้องกันได้ แก้ปัญหาล่วงหน้าได้

เราลองมาดูเคสของกรณี ประเทศพม่าเจอพายุนาร์กิส ซึ่งเป็นประเทศหรือกรณีที่ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนตั้งรับไม่ทัน บาดเจ็บ ล้มตาย เสียหายต่อชีวิตไปเป็นแสน

กับกรณีของพายุในฟิลิปปินน์ ซึ่งเป็นประเทศที่ประสบพายุบ่อยๆ รับมือได้ ความรุนแรงพอกันแต่ บาดเจ็บล้มตายน้อยกว่า กันหลายพันเท่า


ดังนั้น หากไม่เกิดภัยพิบัติก็นับเป็นเรื่องดี แต่หากเกิด ขึ้น จะดีไหม หากเราลดจำนวนความเสียหายลดการบาดเจ็บล้มตายของพี่น้องประชาชนของเราลงได้ จากแสน เหลือแค่หลักร้อย


ช่วยชีวิตคนหนึ่งคน กุศลยิ่งกว่าสร้าง เจดีย์เก้าชั้น

สร้างผู้เป็นสัมมาทิษฐิ พลิกชีวิตเขาสู่ความดี ยิ่งเกิดผลต่อส่วนรวมยิ่งขึ้นไปอีก

 

<TABLE class=tborder id=post1307884 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Falkman<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1307884", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jul 2006
สถานที่: Falkland
ข้อความ: 4,192
Groans: 5
Groaned at 3 Times in 3 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 11,457
ได้รับอนุโมทนา 43,566 ครั้ง ใน 4,154 โพส
พลังการให้คะแนน: 3496


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1307884 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Pew Pew
เรื่องระดับน้ำที่เครื่อง gps แสดงไว้แบบผิดปกติ

ไม่ทราบว่าคุณ Falkman พอหาจะเจาะข้อมูลได้ไหมว่า การระบุระดับน้ำใช้อะไรเป็นตัวชี้วัดระดับ ใช้ดาวเทียมเล็งองศา หรือ ใช้คนวัดที่แหล่งน้ำแล้วส่งข้อมูลไปให้ที่ center แล้วส่ง message ไปที่เครื่อง gps

ถ้าเป็นแบบแรก ก็แสดงว่าโลกอาจจะแกว่งผิดปกติ ทำให้องศาที่วัดจากนอกโลกไม่ตรง ถ้าเป็น Human error ก็ไม่น่าเป็นห่วง หรืออาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นๆ อีกมากมายก็ได้

เมื่อรู้ข้อมูลลึกซึ้งมากขึ้น จะได้รู้ว่า เราควรตระหนกตกใจ ดีหรือไม่

( ไม่ได้ใช้ให้ทำงานนะ - เพราะเห็นว่ามีข้อมูลดี ๆ แยอะดี ( ชมไว้ก่อน ) ผมไม่มีทั้งข้อมูล และภูมิความรู้ด้านนี้ เลยยังไม่มีแหล่งให้หา )

ช่วยหน่อยครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
คงไม่ได้ใช้คนวัดแล้วส่งข้อมูลหรอก

เดี๋ยวลองหาข้อมูล ตั้งกระทู้ใหม่เลยดีกว่า อิอิ
น่าสนใจดีเน๊อะ
้
แต่ว่าวันนี้ขอตัวทำงานก่อน เพราะเย็นนี้ต้องส่ง monthly report (cry)
<!-- / message --><!-- sig -->__________________

มี "สติ" รู้กาย รู้ใจ อย่างเนืองๆ​

"1784" ศูนย์บรรเทาภัยภิบัติ กระทรวงมหาดไทย
<!-- / sig --></TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> <SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("1307884")</SCRIPT> </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --></TD></TR></TBODY></TABLE>



สำหรับเรื่องนี้ ผมคอยสังเกตุอยู่นานพอสมควรแล้ว

โดยมีเครื่องวัดระดับความสูง ในนาฬิกา ซึ่งทำงานด้วย การประมวลผลเทียบเคียงกับความกดดันของชั้นบรรยากาศ

และเครื่องจีพีเอสที่คุณตลับนาคได้มอบให้ ซึ่ง เป็นระบบที่ประมวลผลจากการคำนวณระดับความสูงเปรียบเทียบ ของ ดาวเทียม ระดับน้ำทะเล และเครื่องจีพีเอสครับ

ผมเองทำการ คาริเบทเครื่องวัดความสูงในนาฬิกา ด้วยจีพีเอสเป็นระยะๆ เสมอ เพื่อความแม่นยำสูงสุด


แต่ก็พบว่า การแจ้งระดับความสูงในช่วงเวลา 2-3 ปีมานี้ มีอาการผิดปกติ

และได้ค้นพบว่า หากวันใดการแจ้งระดับความสูง มีการสวิงสูงมากๆ เช่นวัดที่เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ 5 เมตร กลายเป็น สูง 70 เมตร วันนั้นก็บังเอิญมีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ เกิน 6 ริกเตอร์ตามมาด้วย แทบทุกครั้ง


ผมเลยมองว่า ที่จริงอาจไม่ใช่การERRor ของเครื่องมือ แต่เกิดขึ้นจาก การหมุนของโลกที่มีการหมุนแกว่งเสียสมดุลจนทำให้ ระดับน้ำทะเลกระเพื่อมยกตัวสูงบ้าง ต่ำบ้างเพื่อปรับสมดุล การยกตัวดังกล่าวทำให้เกิดการขยับของเปลือกโลกคือแผ่นดินไหว รวมทั้งพายุ(จากการที่ น้ำเย็นบ้าง น้ำร้อนบ้าง ใต้ระดับน้ำยกสู่ผิวทะเลให้เกิดแรงกดอากาศที่แปรปรวน)