*เครื่องรางของขลัง/วัตถุมงคล...รายการละ 100 บ./พร้อมส่ง บูชา 3 รายการ แถม 1 รายการ...

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Pitiphat, 4 มิถุนายน 2018.

  1. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1497 รูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน โพนทะเล พิจิตร ก้นตอกเลข15
    IMG_20181127_201546.jpg
    IMG_20181127_201529.jpg IMG_20181127_201515.jpg
     
  2. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1498 พระตรีกาย / นารายณ์ทรงปืน เนื้อดิน
    พระนารายณ์ทรงปืน คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง โดย ราม วัชรประดิษฐ์ พระนารายณ์ทรงปืน เป็นพระพิมพ์ที่มีรูปลักษณ์เป็น พระแผง องค์ค่อนข้างเขื่อง ปรากฏทั้งเนื้อดินและเนื้อชิน และมีขึ้นมากมายหลายกรุ ลักษณะองค์พระจะมี พระปางนาคปรก เป็นประธาน ประกอบด้วย พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรและพระนางปรัชญาปารมิตา ซึ่งเป็นองค์พระโพธิสัตว์ในคติพุทธศาสนาแบบมหายาน ซึ่งเผยแพร่เข้ามาพร้อมกับศิลปะเขมรแบบบายน ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอังกอรŒธม ซึ่งทรงนับถือพุทธศาสนาแบบมหายาน และด้วยเหตุที่ประ กอบด้วยรูปเคารพถึงสามองค์ในพิมพ์เดียว บางครั้งจึงมีผู้เรียกว่า พระตรีกาย พร้อมกับข้อถกเถียงกันอย่างมากมายทั้งในแวดวงนักวิชาการทางด้านประวัติศาสตร์โบราณ คดี และในวงการพระเครื่องพระบูชาถึงชื่อ นารายณ์ทรงปืน ที่ได้รับการเรียกขานว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ความเป็นจริงแล้วอาจได้ข้อสรุปเกี่ยวกับประเภทนี้ว่า เป็นงานศิลปะที่ได้รับอิทธิพลจากขอมบายนอย่างแน่นอน ด้วยลักษณะของพระพุทธรูปปางนาคปรกที่ประทับอยู่กึ่งกลางนั้นเป็นเช่นเดียวกับ พระชัยพุทธมหานาถ พระพุทธรูปปางนาคปรก ที่องค์ชัยวรมันที่ 7 ทรงโปรดให้สร้างขึ้นรวม 23 องค์ และพระราชทานให้นำไปประดิษ ฐานไว้ทั่วปริมณฑลแห่งอำนาจของพระองค์ ซึ่งรวมทั้งเมืองละโว้ ที่รับอิทธิพลของเขมรบายนไว้ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเรียกศิลปะเขมรในยุคดังกล่าวในชื่อ ศิลปะลพบุรี ส่วนรูปเคารพที่อยู่เบื้องขวาขององค์ประธานนั้น มีลักษณะ 4 กร ได้แก่ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ซึ่งหมายถึงผู้มองลงมาจากเบื้องบนด้วยความกรุณา หรือผู้เป็นใหญ่แห่งโลก ที่จุติจากพระธยานิพุทธเจ้าหรือพระอมิตพุทธ(ผู้มีแสงสว่างมิรู้จบ) ด้วยเหตุนี้ พระอวโลกิเตศวรจึงปรากฏรูปพระธยานิพุทธเจ‰าประทับนั่งสมาธิอยู่เหนือศิราภรณ์(อาภรณ์ประดับเศียร) พระกรทั้ง 4 ทรงถือ พวงประคำ คัมภีร์ ดอกบัว และหม้อน้ำมนต์ แต่ถ้าเป็นปาง 2 กร จะทรงประทานพร และทรงถือดอกบัวสีชมพู เป็นเหตุให้ได้พระนามอีกอย่างหนึ่งว่า ปัทมปาณี รูปเคารพที่เหลืออยู่อีกองค์หนึ่งได้แก่ พระนางปรัชญาปารมิตา เทพีแห่งสติปัญญาและความเฉลียวฉลาด ในเทวาลัยที่มีอิทธิพลพุทธมหายานมักสร้างรูปเคารพของพระนางไว้ในครรภคฤห์ ทรงปรากฏในรูปมหาคัมภีร์ปรัชญาปารมิตาสูตร ได้ชื่อว่าเป็นพุทธมารดาแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย มีวรกายสีขาว เศียรเดียว สองพระกร อาจพบในท่าแสดงธรรมเทศนา หรือถือบัวขาบสายเดียวทั้งสองพระหัตถ์ บางครั้งพบในปาง 4 กรด้วย ถือกันว่า พระนางทรงเป็น ศักติ หรือ ชายา ของพระวัชรสัตว์ พระโพธิสัตว์ประจำองค์พระอาทิพุทธเจ้า คำว่า นารายณ์ทรงปืน นั้น สาเหตุสำคัญน่าจะมาจากการมองรูปองค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรที่มีลักษณะ 4 กร เหมือนกับพระวิษณุ หรือพระนารายณ์ และพระองค์ยังทรงถือสายบัวปัทมะที่ยาวเหยียดคล้ายกับคันศรของพระนารายณ์ ครูบาอาจารย์เก่าๆ เคยเล่าว่า คนโบราณจะเรียกอาวุธที่พุ่งออกไปว่า ปืน เช่น เวลากล่าวถึงเทวดาหรือนางฟ้าองค์ใดทรงถือคันศรก็จะเรียกว่าทรงปืน ด้วยศรศาตราวุธมีอานุภาพร้ายแรงเหมือนระเบิดและปืน การเรียกว่า ทรงปืน น่าจะสื่อถึงการ ทรงศร ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นสายบัวชมพูหรือปัทมะขององค์อวโลกิเตศวรนั่นเอง พระนารายณ์ทรงปืน นับเป็นพระเครื่องที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในการสู้รบป้องกันข้าศึกศัตรู อีกทั้งศิลปะยังงดงามเข้มขลัง มีขึ้นมากมายหลายกรุ แต่ที่ขึ้นชื่อลือชาคือ พระนารายณ์ทรงปืน กรุวัดพระศรีมหา ธาตุ จังหวัดลพบุรี นับเป็นพระเครื่องอีกพิมพ์หนึ่งซึ่งควรเก็บสะสมเป็นอย่างยิ่ง

    IMG_20181122_214636.jpg
    IMG_20181122_214624.jpg
     
  3. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1499 พญาลิงลม เนื้อผงรุ่นแรก หลวงพ่ออนันต์ วัดบางพลีน้อย ปี2552 พร้อมใบคาถาในซอง
    IMG_20181122_221610.jpg
    IMG_20181122_221558.jpg IMG_20181122_221621.jpg
     
  4. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1500 เหรียญธรรมศึกษา หลวงพ่อด้วง วัดธงทอง จ.นครศรีธรรมราช
    IMG_25630509_215327.JPG
    IMG_25630509_215355.JPG
     
  5. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1501 พระผงหลวงพ่ออิ่มทรงปลา วัดลาดชะโด จ.พระนครศรีอยุธยา
    ***อดีตพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าผู้ทรงวิทยาคมแห่งเมืองกรุงเก่า***
    หลวงพ่ออุปัชฌาย์อิ่ม ได้บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่เด็ก และได้อุปสมบทที่พัทธสีมาวัดสะแก อำเภออุทัย จังหวัดอยุธยา โดยหลวงพ่อหร่าย วัดสะแกเป็นอุปัชฌาย์ และได้ศึกษาวิชากับหลวงพ่อหร่าย หลังจากนั้นท่านได้ไปศึกษาวิชาต่อกับหลวงพ่อกลั่น จากนั้นได้มาอยู่ที่วัดลาดชะโดและได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ท่านเป็นที่เคารพของชาวบ้านละแวกนั้นมาก ส่วนปาฎิหารืย์ท่านนั้นก็มีมากมายที่เล่าขานต่อกันมา

    ปาฏิหาริย์เกี่ยวกับเรื่องราวการสร้างศาลาใหญ่ ซึ่งมีเสาไม้ต้นใหญ่หลายตันเป็นเสาของศาลา ซึ่งที่มาของเสาต่างๆเหล่านี้ ผู้เฒ่าผู้แก่ ได้เล่ากันว่าสมัยก่อนศาลาหลังเก่ามีลักษณะพื้นต่ำ มีเสาต้นเล็กมีหลังคาพอบังแดดและฝนเท่านั้นไม่ใหญ่โตเก่าเท่าปัจจุบันครั้งหนึ่งได้มีพวกควาญช้างได้เดินทางผ่านมาโดยมีช้างมา ๕ เชือกได้นำช้างมาผูกไว้บริเวณศาลา และได้พักอยู่บริเวณนั้น พวกเด็กวัดจึงพากันไปดูช้าง และเห็นพวกควาญช้าง เข้าไปพักใต้ถุนศาลาและทำการประกอบอาหารโดยทำการก่อไฟหุงข้าว

    พวกเด็กวัดได้เข้าไปดูปรากฎว่าเห็นพวกควาญช้าง ทำการถากหน้าแข้ง ทำฟืนหุงข้าว พวกเด็กวัดก็เกิดแปลกใจจึงได้ไปบอกหลวงพ่ออิ่มว่า พวกควาญช้างได้ทำการถากน่าแข้ง หุงข้าวซึ่งน่าอ้ศจรรย์ยิ่งนัก หลวงพ่ออิ่มได้ฟังเด็กวัดพูดดังนั้น จึงบอกเด็กวัดว่า พวกควาญช้างใช้วิชาอาคมบังตาได้ถากเอาเสาศาลาไปทาฟืนหุงข้าวเสียแล้ว

    หลวงพ่ออิ่มจึงบอกให้เด็กวัดคนนั้น ไปหากะลาก้นกวงมาให้หน่อย เด็กวัดจึงไปนำกะลามาให้ เมื่อได้กะลามาแล้วหลวงพ่ออิ่มได้ทำการคว่ำกะลาลงกับพื้นและบอกให้พวกเด็กวัด ไปดูว่าช้างที่พวกควาญช้างผูกไว้ยังอยู่ไหมเมื่อพวกเด็กวัดไปดูปรากฎว่า ช้างทั้ง ๕ เชือกได้หายไปเด็กวัดจึงแปลกใจมากว่าช้างหายไปอย่างไร

    จนสักพักพวกควาญช้างได้เข้ามาขอขมาหลวงพ่ออิ่มว่าตนเองผิดไปแล้ว ที่ถากเอาเสาศาลาไปทำฟืนหุงข้าว ขอให้หลวงพ่ออิ่มคืนช้างให้พวกตนและได้สัญญาว่า ในปีหน้าจำนำซุงมาให้หลวงพ่ออิ่ม ๑๐ ต้น เพื่อทำเสาสร้างศาลา เมื่อหลวงพ่ออิ่มได้เห็นว่า พวกควาญช้าง สำนึกผิดและได้มาขอขมาจึงทำการเปิดกะลาที่ครอบเอาไว้ออกปรากฎว่าช้างทั้ง ๕ เชือกยังอยู่ที่เดิม เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจยิ่งนักและในปีต่อมาพวกควาญช้างได้ทำการลากซุงมาถวายหลวงพ่อตามที่สํญญาไว้ โดยนำช่างมาทำการแต่งซุงให้เป็นเสาด้วย หลวงพ่อจึงนำเสาที่ได้มาทำการสร้างศาลาใหม่จนเป็นศาลาหลังปัจจุบัน

    ครั้งหนึ่งเมื่อท่านกำลังฉันข้าวอยู่ปรากฎว่าหลวงพ่ออิ่มบอกว่าให้พระเณร ให้รีบฉันข้าวไวๆเดี๋ยวจะได้ไปดับไฟกัน พระสงฆ์รูปนั้นจึงถามหลวงพ่ออิ่มว่าดับอะไร หลวงพ่อจึงบอกว่าเมื่อคืนมีคนมาขโมยปลาวัดไปกินดังนั้น วันนี้ ไฟจะไหม้บ้านมัน ให้รีบฉันข้าวซึ่งเมื่อพระฉันข้าวอิ่มก็ปรากฎว่ามีเสียงโวยวายจึงออกไปดู ปรากฎว่าเกิดไฟไหม้จริงๆ พระรูปนั้นจึงแปลกใจว่าหลวงพ่ออิ่มรู้ได้อย่างไรว่าจะไหม้เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

    IMG_25630512_110602.JPG IMG_25630512_110537.JPG 1511125_902737219737781_6934296782620098756_n.jpg
     
  6. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1502 พระผงรูปเหมือนใบโพธิ์ โรยผงเก่า รุ่นเสาร์ 5 เจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์ กรุงเทพ
    IMG_25630512_110507.JPG
    IMG_25630512_110448.JPG
     
  7. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1503 เหรียญสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี หลังหลวงพ่อโต วัดประชุมคงคา ชลบุรี
    IMG_25630512_110428.JPG
    IMG_25630512_110404.JPG
     
  8. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1504 เหรียญขอบกนก พระครูสังวรสิริธรรม หลังยันต์ วัดสร่างโศก ต.สร่างโศก อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี
    IMG_25630512_110344.JPG
    IMG_25630512_110324.JPG
     
  9. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1505 เหรียญพระครูวิบูลเขมากร (หลวงพ่อเชื้อ) วัดขวด ลพบุรี
    IMG_25630512_110259.JPG
    IMG_25630512_110239.JPG
     
  10. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1506 เหรียญพระอุปคุต จกบาตรปราบมาร เนื้อทองแดง วัดพระพุทธธรรมรังสี นครชัยศรี นครปฐม ปึ 2539
    ตามตำนาน พระเถระอุปคุต น่าจะเป็นชาวเมืองปาตลีบุตร เมื่อบวชแล้วบำเพ็ญเพียร จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ขีณาสพ สำเร็จอภิญญาต่างๆ จนสามารถแสดงอภินิหาร เป็นที่เล่าลือมาจนทุกวันนี้ มีปฏิปทาดำเนินไปในทางสันโดษ มักน้อย นัยว่าท่านเนรมิตเรือนแก้ว (กุฏิแก้ว) ขึ้นในท้องทะเลหลวง (สะดือทะเล) แล้วก็ลงไปอยู่ประจำ ที่กุฏิแก้วตลอดเวลา เมื่อมีเหตุเภทภัยเกิดขึ้นในพระศาสนา หรือเมื่อมีพิธีกรรมใหญ่ๆ หรือมีผู้นิมนต์ ท่านก็จะขึ้นมาช่วยเหลือ ด้วยความเต็มใจเสมอ

    สรุปรวมความได้ว่า ท่านเป็นพระเถระสำคัญองค์หนึ่ง ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช (ผู้นำกองทัพธรรมแผ่กระจายไปทั่วโลก) เป็นพระเถระผู้เปี่ยมด้วยพุทธานุภาพ และฤทธิ์เดชเกรียงไกร สามารถปราบพญามารและกำจัดสิ่งชั่วร้าย ที่จะมาทำลายพิธีกรรมใหญ่ ๆ มาแต่ครั้งโบราณ

    เรื่องราวก็มีอยู่ว่า เมื่อประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ 2 หลังพุทธปรินิพพาน ณ นครปาตลีบุตราชธานี (ปัจจุบันคือเมืองปัตนะ ภาคใต้อินเดีย) พระเจ้าอโศกมหาราช ผู้ครองราชสมบัติในขณะนั้น ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ตามตำนานกล่าวว่า ได้ทรงสร้างพระวิหารและพระสถูป มากมายทั่วทั้งชมพูทวีป (เค้าว่ามากถึงแปดหมื่นสี่พันองค์) เป็นผู้รวบรวมและขุดค้นพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อจะนำไปบรรจุในสถูปที่พระองค์ทรงสร้างไว้ทุกแห่ง

    เมื่อการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระองค์ก็ทรงปรารภ ที่จะจัดให้มีการฉลองสมโภช พระสถูปเจดีย์ทั้งหมดนั้น เป็นการมโหฬารยิ่ง ตลอด 7 ปี 7 เดือน 7 วัน และเพื่อให้การฉลองสมโภช เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปราศจากอุปสรรค จึงใคร่จะอาราธนาพระสงฆ์ขีณาสพ ที่ทรงอิทธิฤทธิ์ มาเป็นผู้คุ้มครองงาน ให้ปราศจากการรบกวนจากมารร้ายต่าง ๆ

    แต่พระสงฆ์ในนครปาตลีบุตร ไม่มีรูปใดที่จะสามารถ เป็นผู้คุ้มครองงานมหกรรมอันยิ่งใหญ่นี้ ให้พ้นจากภัยทั้งหลายทั้งปวงได้ (โดยเฉพาะภัยจากพญาวัสสวดีมาร ผู้มีฤทธิ์ยิ่งกว่าภูตผีปีศาจทั้งหลาย) นอกเสียจากพระอุปคุตเถระผู้เดียวเท่านั้น พระสงฆ์ทั้งปวงจึงตั้งตัวแทน ๒ รูป ลงไปอาราธนาพระอุปคุตเถระผู้เรืองฤทธิ์ มาช่วยรักษาความปลอดภัย ในงานสมโภชครั้งนี้ ซึ่งกล่าวกันว่า พระอุปคุตเถระองค์นี้ มีปกติสันโดษอยู่องค์เดียว เข้าฌานสมาบัติเสวยวิมุตติสุข อยู่ในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ภายในปราสาทแก้วที่เนรมิตขึ้น เหนือรัตนะบัลลังก์ จะออกจากสมาบัติ เหาะขึ้นมาบิณฑบาต ในโลกมนุษย์ ในวันพุธเพ็ญกลางเดือนเท่านั้น

    และในครั้งนี้เอง พระอุปคุตเถระ ถูกพระภิกษุสองรูป ผู้ได้อภิญญาสมาบัติ ชำแรกมหาสมุทร ลงมาถึงตัวท่านแจ้งว่า ให้ท่านจงเป็นธุระ ป้องกันพญามารอย่าให้รบกวนงานฉลองพระสถูปเจดีย์ ของพระเจ้าอโศกมหาราชได้

    เมื่อพระอุปคุตเถระได้รับนิมนต์ ก็เดินทางมานมัสการ และรายงานตัวต่อคณะสงฆ์ในวันรุ่งขึ้น พระเจ้าอโศกมหาราช จึงได้เสด็จเข้ามานมัสการคณะสงฆ์ เพื่อขอทราบเรื่อง ผู้จะที่จะมาทำหน้าที่รักษาการ งานฉลองสมโภชพระสถูปเจดีย์ เมื่อพระองค์ทรงทราบ ว่าผู้ที่จะมาทำหน้าที่นี้ คือพระอุปคุตเถระ ก็ทรงนึกแคลงพระทัย เนื่องจากพระอุปคุตเถระนั้น มีร่างกายผ่ายผอมดูอ่อนแอ ก็ทรงไม่แน่ใจ เกรงจะทำหน้าที่ได้ไม่สมบูรณ์ แต่ไม่ทรงตรัสว่ากระไร

    ครั้นรุ่งเช้าวันใหม่ ขณะที่พระอุปคุตหาเถระ ออกบิณฑบาตในนครปาตลีบุตรนั้น พระเจ้าอโศกมหาราช ใคร่จะทดสอบฤทธิ์พระเถระ จึงทรงปล่อยช้างซับมัน (ช้างตกมัน) ให้เข้าทำร้ายพระเถระ พระมหาอุปคุตเถระเห็นดังนั้น จึงสะกดช้าง ที่กำลังวิ่งเข้ามา ให้หยุดอยู่กับที่ ไม่ไหวติงประดุจช้างที่สลักด้วยศิลา พระเจ้าอโศกมหาราช ทอดพระเนตรเห็นดังนั้น ก็ทรงเลื่อมใส จึงเสด็จไปขอขมาพระเถระ พระมหาอุปคุตเถระ ก็ให้อภัยทั้งแก่พระเจ้าอโศกมหาราช และพญาคชสาร

    เมื่อเห็นว่าพระอุปคุตเถระ มีฤทธิ์เดชมาก พระเจ้าอโศกมหาราช ก็ทรงวางพระทัย ตรัสสั่งให้เตรียมฉลองสมโภช พระสถูปเจดีย์ทั้งหมด ด้วยการปลูกปะรำร้านโรง ประดับธงทิว และประทีปโคมไฟ ตลอดระยะทางกึ่งโยชน์ ทำให้ตามแนวฝั่งแม่น้ำคงคา สว่างไสวไปทั่วทั้งบริเวณ

    บรรลุฤกษ์งามยามดีตามที่กำหนดไว้ บรรดาพระสงฆ์ขีณาสพ และพระสงฆ์ปุถุชน ตลอดจนพุทธศาสนิกชน ทั้งในนครปาตลีบุตร และต่างแดนจากจตุรทิศ ก็เริ่มหลั่งไหลเข้าสู่บริเวณงาน พร้อมเครื่องสักการบูชา เพื่อร่วมพิธีฉลองสมโภช พระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ในมหาเจดีย์ และเจดีย์ ทั้งแปดหมื่นสี่พันองค์ ด้วยความเลื่อมใส ศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง

    และในเวลานี้เอง พญามาร (พญาวัสสวดีเทพบุตรมาร) ก็มุ่งหน้าเข้ามาในงานกับเค้าเหมือนกัน ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะก่อความวุ่นวาย ต่างๆ นานา ทั้งบันดาลให้เกิดลมพายุ ทั้งแปลงร่างเป็นสัตว์ป่า และสัตว์หิมพานต์ แต่ทุกครั้งก็โดนพระอุปคุตเถระ กำราบได้หมด และสุดท้าย เพื่อให้พญามาร ออกไปจากบริเวณพิธี พระอุปคุตเถระ จึงเนรมิตร่างหมาเน่าขึ้นมาตัวหนึ่ง แล้วดึงประคตจากเอวของท่าน ออกมาผูกร่างหมาเน่านั้น คล้องคอพญามารไว้ แล้วสำทับว่าไม่ว่าใครก็ตาม (นอกจากท่านเอง) จะเอาหมาเน่านี้ออก จากคอพญามารไม่ได้ แล้วขับพญามารออกไป จากบริเวณงานทันที

    ด้วยความอับอาย พญามารก็ออกมาจากบริเวณงาน และพยายามแก้ร่างสุนัขเน่า ออกด้วยฤทธานุภาพ แต่ทำอย่างไร ก็ไม่สามารถแก้ได้ เพราะเมื่อเอามือทั้งสอง ต้องสายประคตที่คล้องคอทีไร ต้องมีไฟลุกขึ้นไหม้คอ และมือทันที สุดจะแก้ไขด้วยตนเองได้ ก็ไปหาที่พึ่งอื่น (ที่คิดว่าน่าจะช่วยได้)

    แต่ถึงแม้จะไปหาท้าวมหาราชทั้งสี่ พระอินทร์ ท้าวยามา ท้าวสันดุสิต ท้าวนิมิตเทวราช ตลอดจนท้าวสหัสบดีพรม ก็ไม่มีใครสามารถช่วยได้ ต่างได้แต่แนะนำว่า ให้พญามารไปขอขมา และขอความเมตตา จากพระเถระผู้นั้นเสียดีกว่า

    พญามารเห็นดังนั้น จึงจำใจต้องกลับไปหาพระเถระ อ้อนวอน ให้ช่วยเอาซากหมาเน่าออกจากคอให้ แล้วจะไม่มารบกวน การจัดงานอีก พระอุปคุตเถระก็อนุโลมตาม แต่ยังไม่ไว้ใจพญามารนัก เกรงพญามาร จะกลับมาทำลายพิธีในภายหลัง จึงเดินนำพญามาร ไปยังเขาใหญ่ลูกหนึ่ง แล้วเอาร่างหมาเน่าทิ้งลงเหว และเนรมิตให้สายประคตยาวขึ้น แล้วพันคอพญามาร ไว้กับเขาลูกนั้น พร้อมทั้งแจ้งว่า เมื่อเสร็จพิธีฉลองสมโภช พระมหาเจดีย์สิ้นสุดลงแล้ว จึงจะแก้โซ่ออก ปล่อยให้พญามารเป็นอิสระ (7 ปี 7 เดือน 7 วัน)

    เวลาผ่านไปตามที่ตกลงกัน การจัดงานสมโภชน์ ก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี พระอุปคุตเถระ จึงกลับมาหาพญามาร โดยแอบอยู่ห่างๆ เพื่อฟังเสียงพญามารว่า ละพยศร้ายหรือยัง

    พญามารเอง เมื่อจากทิพยวิมานอันบรมสุข มารับทุกขเวทนาเช่นนี้ ก็ละพยศร้ายในสันดาน หวนนึกถึงพระพุทธโคดม จึงกล่าวสดุดี ในความเมตตากรุณา ของพระพุทธเจ้า ในเรื่องที่ทรงมีมหากรุณาธิคุณ อันยิ่งใหญ่ว่า “ทรงบำเพ็ญสิ่งอันเป็นที่สุดหามิได้ เป็นที่พึ่งพำนักแก่สัตว์โลกทั้งมวล ในกาลทุกเมื่อ พระองค์นั้น เป็นผู้ประเสริฐหาผู้เสมอเหมือนมิได้ อนึ่ง ในกาลก่อน ข้าพเจ้าได้ทำร้ายพระองค์ โดยประการต่างๆ แต่พระองค์ ก็ยังทรงมหากรุณาธิคุณ มิได้กระทำการโต้ตอบ แก่ข้าพเจ้าเลย มาบัดนี้ สาวกของพระองค์นามว่าอุปคุต ไม่มีเมตตาแก่ข้าพเจ้าเลย กระทำกับข้าพเจ้า ให้ได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส และได้รับความอับอาย เป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากว่าข้ายังมีบุญกุศล ที่ได้สั่งสมไว้แต่กาลก่อน ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐาน ปรารถนาเป็นพระสัพพัญญูในอนาคต ดังเช่นพระองค์ต่อไป”

    กล่าวได้ว่า การตกระกำลำบากในครั้งนี้ ทำให้พญามาร ซึ่งความจริงแล้ว ในอดีตชาติ (ในยุคของพระกัสสปพุทธเจ้า) เคยมีจิตตั้งมั่น ที่จะบำเพ็ญเพียร ให้ได้เป็นพระพุทธเจ้าเช่นกัน แต่ที่ได้กระทำการขัดขวาง พุทธศาสดาของพระพุทธโคดม ก็ด้วยความริษยา พระพุทธโคดม (มีมิจฉาทิฐิ) เนื่องด้วยพระองค์ ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก่อนตน ทั้งๆ ที่ตนบำเพ็ญบารมี มามากพอสมควรเหมือนกัน แต่การกระทำในแต่ละครั้ง ก็มิได้ล่วงเกิน ทำบาปหนักแต่ประการใด

    เมื่อพระอุปคุตเถระ ได้ยินคำปรารภดังนั้น ก็เห็นว่าพญามารสิ้นพยศแล้ว จึงแก้โซ่ออก ปล่อยให้พญามารเป็นอิสระ พร้อมทั้งขอขมาพญามาร และบอกว่า การกระทำครั้งนี้ ก็เพื่อให้พญามาร ระลึกได้ถึงพุทธภูมิ ที่ท่านเคยปรารถนาไว้เท่านั้นเอง มิได้มีเจตนา ที่จะล่วงเกินประการใด ซึ่งพญามารก็เข้าใจด้วยดี

    ต่อจากนั้นพระเถระ ก็ได้ขอให้พญามาร เนรมิตกาย เป็นพระพุทธองค์ เพื่อจะได้เห็น เป็นพุทธานุสติบ้าง ซึ่งพญามารก็รับคำ แต่ขอร้องว่า เมื่อเห็นเขาเนรมิตกาย เป็นพระพุทธองค์แล้ว อย่าหลงกราบไหว้เป็นอันขาด เพราะจะให้เขาบาปหนัก

    ครั้นเมื่อพญามารเนรมิตกาย เป็นพระพุทธเจ้า ประกอบด้วยมหาปุริสลักษณะ และฉัพพรรณรังสี อันวิจิตร มีพระอัครสาวกเบื้องซ้าย เบื้องขวา แวดล้อมด้วย มหาสาวกทั้งหลายเป็นบริวาร เสด็จเยื้องย่าง ด้วยพุทธลีลาอันงดงามยิ่ง พระเถระ และบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย เห็นเช่นนั้น ก็ลืมตัวพากันถวายนมัสการ ทำเอาพญามารตกใจ รีบคืนร่างเดิม และท้วงติงว่า ทำให้ตนมีบาปหนัก แต่พระเถระ ก็กล่าวให้พญามารสบายใจว่า ทุกคนกราบไหว้พระพุทธเจ้า และพญามารก็ไม่บาปหรอก จะได้กุศลมากกว่า

    จากนั้นพญามาร ก็กลับคืนสู่สวรรค์ ชั้นที่ 6 วิมานของตน และนับแต่นั้นมา พญามารได้มีจิตอ่อนน้อมเลื่อมใส ในพระพุทธศาสนา หมดสิ้นน้ำใจริษยา และบำเพ็ญบารมี เพื่อพุทธภูมิต่อไป

    IMG_25630512_120645.JPG
    IMG_25630512_120626.JPG
     
  11. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1507 เหรียญหลวงพ่อสุรินทร์ วัดบ้านเมืองดู่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
    ***ศิษย์เอกหลวงปู่เม้า สายหลวงพ่อเพียร วัดถนนหัก
    IMG_25630512_120735.JPG
    IMG_25630512_120712.JPG 2-wm.jpg
     
  12. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1508 เหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส
    ปฐมมหาสมณานุสรณ์แห่งราชวงศ์จักรี วาสุกรี สุจิปุลิ วัดพระเชตุพน กรุงเทพฯ

    ...สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ประสูติกาลแต่เจ้าจอมมารดาจุ้ย เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2333 มีพระนามว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าวาสุกรี
    ...สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 7 แห่งอาณาจักรรัตนโกสินทร์ (สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์) และเป็นพระราชวงศ์พระองค์แรกที่ทรงได้รับสถาปนาให้ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช นอกจากนี้ยังเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์แรกที่ประสูติในสมัยรัตนโกสินทร์อีกด้วย ทรงสถิต ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ดำรงสมณศักดิ์เมื่อปี พ.ศ. 2394 ถึงปี พ.ศ. 2396 รวม 2 พรรษา สิ้นพระชนม์เมื่อพระชันษาได้ 64 ปี

    IMG_25630512_120821.JPG
    IMG_25630512_120802.JPG _paragraph_184.jpg
     
  13. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1509 เหรียญพ่อขุนเม็งรายมหาราช วัดพระแก้ว จ.เชียงราย ปี 2532
    ***สมเด็จพระญาณสังวร ปลุกเสก
    "ความเชื่อ คือความหวัง" และความเชื่อ และความ "สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยึดเหนี่ยวจิตใจ" ที่อยู่คู่กับชาวไทยพุธมาแต่โบราณกาล ว่ากันว่า ไหว้พระสวดมนต์ ปฏิบัติธรรม จะส่งผลให้สภาพจิตใจเข้มแข็งพร้อมรับกับแรงเสียดทานในชีวิต ... แต่ถ้าหากใครมีเรื่อกังวลใจ หรือหวังไว้ว่าต้องสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี "การบนบานศาลกล่าว" ก็เป็นอีก 1 ปัจจัยที่จะเสริมแรงหนุนให้ประสบผลสำเร็จ
    สำหรับวัดเก่าแก่ คู่บ้านคู่เมืองที่นักท่องเที่ยวต้องไปเยือนเพื่อเป็นสิริมงคลชีวิต ณ จังหวัด เชียงราย มีด้วยกัน 3 วัด ว่ากันว่าหากได้ไปสักการบูชา จะมีแต่ความโชคดี ทำอะไรก็ประสบผลสำเร็จ

    1.วัดพระแก้ว

    ตั้งอยู่ที่ถนนไตรรัตน์ ใจกลางเมืองเชียงราย วัดนี้เองที่ได้ค้นพบ พระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน ตามประวัติเล่าว่า เมื่อปี พ.ศ. 1897 ในสมัย พระเจ้า สามฝั่งแกน เป็นเจ้าเมือง ครองเชียงใหม่นั้น ฟ้าได้ผ่า เจดีย์ร้างองค์หนึ่ง และได้พบพระพุทธรูปลงรักปิดทอง อยู่ภายในเจดีย์ ต่อมารักกะเทาะออก จึงได้พบว่า เป็นพระพุทธรูป สีเขียวที่สร้างด้วยหยก ซึ่งก็คือ พระแก้วมรกตนั่นเอง ปัจจุบัน วัดพระแก้ว เชียงราย เป็นที่ประดิษฐาน พระหยก ซึ่งสร้างขึ้นใหม่ ในวาระที่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระชนมายุครบ 90 พรรษา

    2.วัดงำเมือง

    เป็นวัดที่เก่าแก่ที่มีความสำคัญเพราะเป็นที่ตั้งของกู่พญามังราย(สถูปพญามังราย) ตั้งอยุ่ถนนอาจอำนวย บ้านฮ่อมดอย (ชุมชนราชเดชดำรง) หมู่ที่ 1 ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย (อยู่ด้านหลังวัดพระแก้ว) วัดงำเมืองสร้างเมื่อ พ.ศ.1860 วัดงำเมืองเดิมมีแต่ สถูป (กู่) บรรจุพระอัฐิของพญามังรายมหาราช สร้างโดยพญาไชยสงครามโอรสพญามังรายมหาราช ในพุทธศตวรรษที่ 19 หลังจากที่พญามังรายได้สวรรคตที่เมืองเชียงใหม่ ในปี พ.ศ.1860

    พญาไชยสงครามพระราชโอรสได้ถวายพระเพลิงพระศพพญามังรายมหาราชแล้วพระองค์ทรงไม่โปรดเมืองเชียงใหม่ ได้กลับมาครองเมืองเชียงรายและอัญเชิญพระอัฐิของพญามังรายมาประดิษฐาน ณ ดอยแห่งนี้ ต่อมา พ.ศ. 2030 พระยาศรรัชฎาเงินทอง ได้มาบูรณะและสร้างวัดขึ้นให้ชื่อว่า "วัดงำเมือง" และใน พ.ศ. 2220 ได้มีการบูรณะเพิ่มเติมมีการสร้างวิหารและเสนาสนะในวัด โดยเจ้าฟ้ายอดงำเมืองโอรสเจ้าผู้ครองนครเชียงแสน ต่อมาวัดงำเมืองเริ่มชำรุดทรุดโทรมลงเพราะขาดการทำนุบำรุง


    3.วัดมิ่งเมือง

    วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง อยู่ใจกลางเมืองเชียงราย พบหลักฐานว่ามีอายุประมาณ 800 ปี ซึ่งยาวนานเท่ากับการสร้างเมืองเชียงรายเลยทีเดียว และมี “พระธาตุมิ่งเมือง” เป็นปูชนียสถานสำคัญ พระธาตุเจดีย์ศิลปะแบบล้านนา ที่ได้รับเคารพสักการะจากชาวเชียงรายเป็นอย่างมาก แต่เดิมเป็นวัดของชาวไทใหญ่ มีอายุเทียบเท่า จังหวัดเชียงราย ซึ่งนิยมเรียกว่า วัดเงี้ยว ส่วนชาวเชียงรายเรียกว่า วัดจ๊างมูบ หรือที่แปลว่า ช้างหมอบ แต่บ้างก็เรียกว่า วัดตะละแม่ศรี ตามชื่อของผู้ที่เชื่อว่าเป็นผู้สร้างวัดนี้ คือ เจ้านางตะละแม่ศรี พระมเหสีของพ่อขุนเม็งรายมหาราช ธิดาของกษัตริย์พม่าเมืองหงสาวดี

    IMG_25630512_120904.JPG
    IMG_25630512_120844.JPG IMG_25630512_122534.JPG IMG_25630512_122515.JPG
     
  14. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1510 เหรียญขวัญถุง๑ พระอธิการสิงห์ วัดดอนเซ่ง ราชบุรี
    ***เพื่อมีความคล่องตัว มีเงินมีทอง มีจิตระลึกถึงพระพุทธองค์
    IMG_25630530_171059.JPG IMG_25630530_171118.JPG IMG_25630530_170947.JPG
     
  15. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1511 พระปิดตาลงทองรุ่นแรก พระอาจารย์แม้น วัดกลางวรวิหาร จ.สมุทรปราการ พ.ศ.2529
    IMG_25630530_170621.JPG
    IMG_25630530_170602.JPG
     
  16. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1512 เหรียญเจ้าพ่อพระวอ วัดเวฬุวัน จ.ตาก ปี2534
    คุณParichati จองครับ
    IMG_25630601_180707.JPG
    IMG_25630601_180644.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2020
  17. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1513 พระสีวลี รุ่นพูลทรัพย์ เนื้อผงฝังหินพระธาตุ มวลสาร 108 ปูนเก่าที่หุ้มองค์หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตร ดอกไม้บูชาหลวงพ่อทองคำ และทองปิดหลวงพ่อทองคำองค์จำลอง พระคณาจารย์ปลุกเสก ณ วัดไตรมิตร เมื่อ 14 ธ.ค. 2551 สร้างเพื่อจัดสร้างอุโบสถวัดประกาศธรรม เชียงใหม่
    IMG_25630607_171413.JPG
    IMG_25630607_171430.JPG
     
  18. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1514 เหรียญหลวงพ่อธรรมโชติ วัดเขานางบวช(เขาขึ้น)
    IMG_25630609_210201.JPG
    IMG_25630609_210135.JPG
     
  19. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1515 เหรียญอุดมพร วัดป่าภูน้ำหยดปัญจคีรี อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์
    IMG_25630609_210352.JPG
    IMG_25630609_210331.JPG
     
  20. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่1516 เหรียญ ร.5 ดวงมหาราช รุ่น ฉลองพระ สร้างปี36 วัดศิริพงษาวาส จ.ชัยภูมิ
    IMG_25630609_210311.JPG
    IMG_25630609_210250.JPG
     

แชร์หน้านี้

Loading...