เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

รูปหล่อโบราณ-หลวงปู่เม้า100ปี !
พระองค์เจ้าเฉลิมพล-ประธานสร้าง
=================

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร หรือ พระองค์ชายกลางแห่งราชสกุล"ยุคล" ทรงเป็นประธานสร้างพระในวาระสำคัญมากคือ...

พระหลวงพ่อทวด หลังเตารีด วัดช้างให้ ปี 2505 ซึ่งไม่ต้องพูดถึงความยอดนิยมของแผ่นดิน

พระกริ่งเฉลิมพล วัดช้างให้ที่เทในปีเดียวกัน กับ พระกริ่งเฉลิมพล หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ซึ่งทรงแบ่งส่วนหนึ่งจากวัดช้างให้ไปมอบให้กับวัดตาก้องด้วยพระองค์ท่านทรงนับถือและเป็นศิษย์หลวงพ่อแช่ม

หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นี่ไงที่นิยายลวงโลกบรรยายว่า มีเณรอายุ18-19 อาจหาญมาขอประลองวิชา และพาหลวงพ่อแช่มไปฝึกวิชากับพระในดง

นิทานลวงโลกเหล่านั้น โอกาสหน้าค่อยอธิบายด้วยหลักความจริงเป็นฉากๆ ไอ้นักขายพระลิ้นโสมมจะได้เลิกละเลงฉากขายพระที่ไม่เคยปรากฏขึ้นจริงบนโลกใบนี้

ตอนนี้กลับมาดูพระรุ่นสุดท้าย ที่พระองค์ชายกลาง รับเป็นประธานจัดสร้างอย่างเกรียงไกร ฝากไว้ในแผ่นดิน

พระรูปหล่อ หลวงปู่เม้า พลวิริโย วัดสี่เหลี่ยม อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ยอดอริยสงฆ์วัยเกินร้อยแดนอิสาณใต้ที่ยิ่งใหญ่สุดรูปหนึ่งแห่งแผ่นดินที่ราบสูง

หลวงปู่เม้าบรรพชาตั้งแต่สามเณรอายุ 13 จากนั้นเข้าสู่ร่มกาสาวพัตรต่อเนื่อง และละสังขารในวัย 102 ปี เมื่อปี 2519 เป็นอีกหนึ่ง "บริสุทธิ์สงฆ์"องค์แท้ เพชรแห่งพระศาสนาองค์จริงมิต้องมีวิจิกิจฉาในบารมีศีล-บารมีธรรมที่สุกสกาวของหลวงปู่

จึงไม่แปลกใจที่ พระองค์ชายกลางจะเป็นประธานจัดสร้าง

--เหรียญรุ่นแรก
--รูปหล่อหนุมานรุ่นแรก
--รูปเหมือนหล่อโบราณรุ่นแรกปี2517
--และวัตถุมงคลอื่น เช่น แหวน,ผ้ายันต์ ฯให้กับหลวงปู่เพื่อเป็นทุนสร้าง "วัดสี่เหลี่ยม" กระทั่งสำเร็จ สมกับที่หลวงปู่เองก็เป็นขวัญใจชาวบุรีรัมย์ของแท้นับเนื่องจากปี 2500 เป็นต้นมา

พระไกลปืนเที่ยงเยี่ยงหลวงปู่เม้า เป็นเจ้าอาวาสวัดทางอิสาณถึง 4 วัด และสร้างวัดกับมือถึง 6 วัด แถมในชีวิตหลวงปู่สร้างวัตถุมงคลน้อยนิดนับรุ่นได้ ถ้าไม่ดีจริงระดับ "เทพ" จะมีใครแห่แหนมาทำบุญสร้างวัดได้มากเพียงนั้น

นี่จึงเป็นสุดยอดสงฆ์แห่งดงขมิ้นที่ชาวอิสาณใต้ภาคภูมิใจยิ่งยวดที่สุดรูปหนึ่ง!!!

ท่านครบถ้วนทั้งพัฒนารวมทั้งหลากวิชาที่อนุเคราะห์-สงเคราะห์ลูกหลานแดนอิสาณยากจนแร้นแค้นในยุคนั้น หลวงปู่เปรียบดั่งศูนย์รวมใจของผู้ห่างไกลความเจริญหลายจังหวัด หากชื่อเสียงแห่งคุณงามความดีไม่หอมหวนทวนลมไปไกลจริงๆ ท่านองค์ชายกลางก็คงไม่ยื่นมือเข้ามารับเป็นประธานจัดสร้างพระชุดนี้

รูปหล่อโบราณ หลวงปู่เม้า หล่อโบราณเพียงรุ่นแรกและรุ่นเดียวเพื่อฉลองอายุครบ100ปีมีเนื้อเงินเพียงสิบกว่าองค์ ส่วนเนื้อทองคำอาจมีไม่กี่องค์ นอกนั้นก็เป็นเนื้อสัมฤทธิ์กับเนื้อเหลืองจำนวนหลักพันต้น

เป็นรูปหล่อที่ซื้อง่าย-ขายคล่องที่สุดในช่วงปี20-30 ต่อมามีของทำเทียมฝีมือจัดจ้านออกมาก นักเล่นต่างถิ่นจึงขยาดประกอบกับนักสะสมเจ้าถิ่น ก็ไม่ค่อยปล่อยของรักของหวงยอดนิยมรุ่นนี้ออกมา ราคาจึงไม่ขยับไกลตามอุปสงค์-อุปทาน

แต่สำหรับเมืองบุรีรัมย์ซึ่งเติบโตมโหฬารยุคใหม่นี้ด้วยฝีมือ "จอมพลเน"...ใครถือรูปหล่อรุ่นนี้ไป รับรองไม่ตกรถไม่อดข้าวหรือกินข้าวลิงแม่นมั่น

มีเพียงองค์เดียว เก่าเก็บตั้งแต่ยุคของแพงของแรง ให้ทำบุญเบาะๆด้วยราคาเมื่อวันวาน...

===== 2,500 =====

หล่อโบราณหนึ่งเดียวแห่งอิสานใต้ คืนพุทธาภิเษกบังเกิดจันทรุปราคา อีกวันที่หลวงปู่ทำพิธีต่อ ฝนซึ่งแห้งแล้งผืนนาแตกระแหงนานเดือนก็พลันเทอย่างชุ่มฉ่ำกระหน่ำนองผืนธรณี เป็นสุดยอดอุบัติการณ์ที่ยากจะพบพานในพิธีพุทธาภิเษกต่อเนื่องทั้งกลางคืน-กลางวัน!


ขนาดกระทัดรัด ด้านหลังตอก ร.๑ ชัดเจน ตามซอกยังมียาแดงเรื่อๆ ยาขัดของหล่อโบราณก้นตันไม่บรรจุกริ่งยุคเก่า

 

ร่วมบุญครับ

 

สุดยอดอิสานใต้มอบให้น้องณัฐวุฒินำท่านขึ้นสู่เมืองเหนือ ซึ่งอันที่จริง หลวงปู่เม้านั้นโด่งดังก่อน หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง แต่วัตถุมงคลหลวงปู่มีเพียง3-4รุ่นเท่านั้น การสะสมเล่นหา แลกเปลี่ยนซื้อ-ขายจึงไม่หนำใจของนักเล่นรุ่นหลังๆที่ต้องอาศัยการเชียร์การผลักดันโฆษณาเป็นระบบ และต้องมีพระมาสะสมอยู่ในมือหรือรุ่นมาทดแทนกันเพื่อทำกำไรเป็นกอบเป็นกำตามวิสัยพาณิชย์

ความน้อยนิดของวัตถุมงคลบางครั้งจึงทำให้เชิงการตลาดไม่สามารถเดินหน้าได้ ประกอบกับพระรุ่นดังทีเด็ดเป็นเพชรของหลวงปู่คือรุ่นนี้ก็จัดสร้างโดยบุคคลมีชื่อเสียงที่สุด เหล่านักพุทธพาณิชย์ยากกักตุนและเก็งกำไรเพราะเป็นชุดเพื่อสร้างวัด ไม่มีวัดครึ่ง-กรรมการครึ่ง ที่นิยมกันในสมัยนั้น!

ดังนั้นในช่วงปี 17 ต่อมาอีก5-6 ปี วัตถุมงคลของหลวงปู่เม้าซึ่งฮือฮาที่สุดก่อนปี 20จึงค่อยๆถอยหลังให้กับ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หลังจากที่ 37-40 เป็นต้นมา เพราะการเชียร์ไม่หยุด การเขียนต่อเนื่อง การขาย โดยมืออาชีพเป็นระบบกว่า ทั้งที่พูดถึงความโด่งดัง"ของจริง" หลวงปู่เม้าดังมาก่อนทุกเกจิที่เอ่ยนามเยอะแยะ ระดับพระองค์เจ้าสร้างพระแล้วนำขึ้นทูลถวายในหลวงร.9 ไปเปิดปูมประวัติกันดู มีไม่กี่รูปหรอกในแผ่นดิน เห็นดังนี้แล้วไม่ต้องบรรยายอื่นใดเพิ่มเติม

โมทนากับน้องณัฐวุฒิ นี่เป็นชุดที่ไม่ใช่แนะนำ แต่เต็มใจ"เชียร์"ให้นำไปสะสมบูชาทีเดียว และอย่าตกใจว่า เชียร์แล้วจะมีของมาขายเป็นหีบเป็นไหเป็นลัง มีเพียง "องค์เดียว"เท่านั้น กับเหรียญรุ่นแรกที่สร้างเสริมเป็น "รุ่นพิเศษ"อีกสัก2-3เหรียญได้มั้ง ถ้าจำไม่ผิด

 

วันที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๖ ปีชวด

ใส่บาตร ๔ รูปในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ

สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเน กาเล

 

โรคหัวใจกระทันหัน หมอเกาหลีที่มารักษามีอาการกลัว มือสั่น ไม่สามารถทำการรักษาได้ หมอจีนที่เก่งพร้อมกับทีมแพทย์ 50 คน เดินทางไปถึงช้า ๘ นาที จึงไม่สามารถทำการรักษาได้ทัน

วันพรุ่งนี้ทางเกาหลีเหลือคงจะออกประกาศถ้าเป็นเรื่องจริง

สรุปว่าอันนี้เป็นข่าวปลอมครับ

 

ได้รับตะกรุดกับองค์จตุคามฯ เรียบร้อยแล้วครับ องค์จตุคามฯ สวยมากเลยครับ ขอบพระคุณครับ

 

สวัสดีคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน

 

รูปหล่อโบราณ-หลวงปู่เม้า100ปี !
พระองค์เจ้าเฉลิมพล-ประธานสร้าง
=================

โอ้โห!!! พลาดตกขบวนอย่างแรงครับ
คุณอา อุตส่าห์ นำพระในพื้นที่มาให้ร่วมทำบุญ
ทั้งที่ตั้งใจไว้แล้วว่า คุณอาน่าจะมี พระในพื้นที่ถิ่นแถบนี้อยู่ในกรุคุณอาแน่ๆครับ
แต่ผมยังตกขบวนซะได้ 555

กราบขอบพระคุณคุณอานะครับ
ที่มอบความรู้ ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้กระจ่างแจ้ง
ซึ่งวันนี้ พระเครื่องของหลวงปู่ของทำเกือบเหมือน อื้อเลยครับ

 

น่าจะอยู่ที่คุณอา

 

ช่วงนี้โควิดมากไม่ค่อยมีตังเช่าพระปวดใจ

 

วันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๖ ปีชวด

ใส่บาตร ๔ รูปในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ

สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเน กาเล

 

น้อมรำลึก 103 ปีชาติกาล หลวงปู่ใหญ่หลวงปู่ศรี มหาวีโร

หลวงปู่ศรี มหาวีโร ท่านเป็นพระวิปัสนาจารย์กรรมฐาน ที่มีความสามารถอย่างสูงในการแจกแจงแสดงธรรม หลวงปู่ศรี มหาวีโร เป็นพระเถราจารย์ ผู้เปี่ยมด้วยพรหมวิหารธรรม เป็นเนื้อนาบุญ อันยิ่งใหญ่ ของพระพุทธศาสนา เป็นพระป่า พระกรรมฐาน ที่ศิษย์เคารพ ศรัทธา อย่างมหาศาล เป็นสมณะผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ อย่างสิ้นสงสัย
วันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๓ เป็นวันครบรอบ ๑๐๓ ปี ชาตกาล หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดประชาคมวนาราม ( วัดป่ากุง ) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด

หลวงปู่ศรี มหาวีโร หรือที่ศิษยานุศิษย์ได้เรียกท่าน "หลวงปู่ศรีเจดีย์ใหญ่" ด้วยบุญบารมีขององค์หลวงปู่ศรี มหาวีโร ท่านยังเป็นประธานจัดสร้าง " พระมหาเจดีย์ชัยมงคล " สร้างในเนื้อที่ ๑๐๑ ไร่ กว้าง ๑๐๑ เมตร ยาว ๑๐๑ เมตร ความสูง ๑๐๑ เมตร รวมยอดทองคำเป็น ๑๐๙ เมตร ใช้ทองคำหนัก ๔,๗๕๐ บาท หรือประมาณ ๖๐ กิโลกรัม เพื่อระลึกนึกถึงคุณูปการพระคุณอันสูงสุดของหลวงปู่ศรีที่เป็นประธานจัดสร้างพระมหาเจดีย์นี้จนสำเร็จ เคียงคู่จังหวัดร้อยเอ็ด ประชาชนศิษยานุศิษย์จึงขนานนามท่านว่า "หลวงปู่ศรีเจดีย์ใหญ่"

หลวงปู่ศรี มหาวีโร ถือกำเนิด เมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๔๖๐ ณ บ้านขามป้อม อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ท่านได้สละเรือนและทรัพย์สมบัติออกบวชตามรอยพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านมีโอกาสได้อยู่ศึกษาธรรมและจำพรรษาร่วมกับพระบุพพาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน คือ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๒ ณ สำนักป่าบ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงปัจฉิมวัยของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านจึงถือเป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่มั่น ภายหลังท่านได้ย้อนกลับมาที่จังหวัดร้อยเอ็ด พัฒนาวัดประชาคมวนาราม (ป่ากุง) จนเจริญรุ่งเรือง และขยายวัดสาขาออกไปทั้งในและต่างประเทศมากกว่าร้อยห้าสิบสาขา

หลวงปู่ศรี มหาวีโร ได้ละสังขารเข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพาน เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๔ สิริรวมอายุ ๙๔ ปี ๓ เดือน ๑๓ วัน พรรษาที่ ๖๖

ขอกราบน้อมรำลึกถึงคุณธรรมสัมมาปฏิบัติของพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่ศรี มหาวีโร เหนือเศียรเกล้า

 

ทีแรกนึกว่าน้องเมษฯแวะเยือน
ที่แท้น้องมากิขโมยซีนทะเลงาม...

คลื่นคร่ำครวญ...นางนวลหนุก
ห้าวหาญรุก.......บุกยึดหาด
ประหลาดเหลือ...เมื่อโรคกวาด
โลกสะอาด.........ธรรมชาติคืน!

ทะเล,แม่น้ำ,ป่า,ภูเขา,ต้นไม้เริงร่าในวันที่ปราศจากมนุษย์เยี่ยมเยือนก่อกวน ธรรมชาติพลิกฟื้นคืนชีวิตในยามที่มนุษย์ต้องพักยกอยู่กับเหย้าเฝ้าเรือน ความงามธรรมชาติช่วงนี้จึงเป็นแหล่งสำราญของเพื่อนร่วมโลก ทั้งสัตว์ปีก สี่ขา สองขาฯ สมบัติผลัดกันชมของแท้

 

บุญใส่บาตรแต่เช้าวันเสาร์ มีภาระเล็กน้อยต้องมาอนุโมทนาหลังเที่ยงวันอาทิตย์ มาสายยังดีกว่าไม่มา สาธุครับ

 

เป็นอีกหนึ่งข่าวสับสนที่อลวนมาเป็นสัปดาห์ ผมมีเพื่อนส่งให้5-6 วันที่แล้ว แต่ก็ชั่งใจไม่เอาลง เพราะพวก เฟค นิวส์ กับ ข่าวกึ่งจริง-กึ่งลวง พักนี้มั่วไปหมด

เมื่อวานทางการเกาหลีเหนือได้ออกแถลงแล้วว่า ท่านผู้นำร่างอวบสบายดีและออกงานครั้งแรก (แต่ก็แปลกยังไม่มีภาพออกมาให้เห็น)

ช่างหัวมันเถอะ อยู่หรือตายไม่เกี่ยวกับคนไทย-เราระวังตัวเองให้ปลอดภัยจากโควิดก็พอ เจ้าเด็กทารกเผด็จการรายนี้ปล่อยให้เจ้าเฒ่าทารกทรัมป์คอยเป็นห่วงไปประสาคู่รัก-คู่กัดก็แล้วกัน

 

ยินดีที่น้องสไปฯชอบ ไม่เสียแรงกับการตั้งใจนำมอบเป็นสิ่งสมนาคุณที่มีคุณค่า ขอบคุณการแจ้งครับ

 

ทักค่ำวันวานในวันพักของน้องปรายฯ เป็นการพักอยู่บ้านที่น่าจะยาวนานของพวกเรา ผมเองวันนี้แวะไปเยือนสนามกอล์ฟกับพวกเพื่อนๆพักใหญ่ เจอะหน้าแคดดี้หลายคน พวกสาวๆ(น้อย)ร้องทักระงม..."ช้ากว่านี้อีกสักอาทิตย์ พวกหนูอดตายแน่นาย"

อันที่จริงถ้าใครเล่นกอล์ฟ จะทราบและเห็นกับตาตัวเองว่า สนามกอล์ฟ น่าเป็นแหล่งติดต่อน้อยถึงน้อยที่สุด ที่โล่งกว้างใหญ่ แดดแรงประสาเมืองไทย แม้แต่แคดดี้ ถึงไม่บอกให้พวกเธอป้องกัน แต่ตามปกติเธอก็แต่งตัวเองเหมือนสาวอาหรับอยู่แล้ว ทั้งหมวกทั้งผ้าคลุมหน้าไม่ต่ำกว่า 2 ชั้น บางคนเหลือแต่ลูกตาเพื่อกันแดดแผดเผากันรังสียูวี

ดังนั้นคนทำงานสนามกอล์ฟ จึงป้องกันตัวเองโดยอัตโนมัติตลอดเวลาไม่ต้องให้ใครมาเตือน เมื่อเพิ่มความเข้มงวดรักษาระยะห่างอีกนิดเดียว สนามกอล์ฟจึงสมควรฟันธงได้ว่า...ปลอดภัยที่สุด!

(อันนี้ไม่นับรวมการสังสรรค์บนคลับเฮ้าส์ ซึ่งไม่มีอยู่แล้ว)

ตอนนี้สถานที่ออกกำลังหลายแห่งเปิดให้เหงื่อหลั่งมากขึ้น ยกเว้น มวย ,ฟุตบอล แต่ละอาชีพก็เดือดร้อนไปคนละแบบ เป็นกำลังใจให้ทุกคน ขอเพียงระวังให้ยอดติดเชื้อ "ต่ำสิบ" ติดต่อกันครบ 14 วัน ค่อนประเทศก็น่าเปิดทำงานได้

เอ้า...สู้ สู้ กันต่อไป

 

ตอนคัดหลวงปู่ลงก็นึกถึงน้องศิวะอยู่เหมือนกันว่า จะนำท่านกลับมาตุภูมิทันมั้ยน้อ?...แต่เมื่อมีองค์เดียวก็ต้องปล่อยวัดดวงกันไป

องค์นี้เจ้าของมือแรกบูชาจากวัดในวันที่ออกให้ทำบุญ ได้มาหลายองค์พร้อมหนุมาน ผมแบ่งมาองค์เดียว (เสียดายหนุมานไม่ขอแบ่งเพราะสมัยนั้นใจไม่รักเครื่องราง กลายเป็นยุคนี้หนุมานแพงหน้ามืดแถมหายากสุดๆ) จากนั้นอีก2-3ปีต่อมาท่านยังดังมากเพราะประสบการณ์เยี่ยม จึงไปเสาะหาเหรียญเพิ่มเติม แต่เจอของฝีมือทะลักเกลื่อนทำเอาหัวหด กัดฟันเช่าเหรียญรุ่นพิเศษทำเสริมมา 10 เหรียญ แบ่งๆพรรคพวกไปจวนหมดแล้ว

เล่าความหลังให้เจ้าถิ่นฟัง คงไม่เชยถึงกับ เป็นการเอามะพร้าวขายสวน เชื่อว่าตอนนั้นน้องศิวะคงจะยังเด็ก ไม่ทันเรื่องราวเหล่านี้แน่