สร้างบุษบกประดิษฐานพระโมคคัลลานะรับมอบพระกรุลำพูนอายุ๕๐๐-๗๐๐ ปี

ท่านผู้เพิ่งเข้ามาใหม่ในขณะนี้ อาจจะเห็นว่าเขาขอรับอะไรกันหรือ? อาจจะรีบร้อนกลัวตกรถไฟ แจ้งขอรับไว้ก่อน ก็ขอได้โปรดอ่านเงื่อนไขการมอบก่อนนะครับ ล้วนเป็นไปตามวาระครับ

สงกรานต์เมื่อวานนี้ ผมได้พบคุณลุงท่านหนึ่ง ท่านเมตตามอบพระธาตุพระแม่กวนอิมมาให้กับผมจำนวนหนึ่งประมาณ ๓๖ องค์ ตำแหน่งที่ตั้งของบ้านท่านเป็นสถานที่ ๓ โลกมาบรรจบกัน ผมก็นึกสงสัยว่าเหตุใดจึงได้พบเรื่องราวเช่นนี้ ก็ปรากฎว่า ท่านบูชาสมเด็จองค์ปฐม สมเด็จพระสมณโคดม หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง และสายบุญอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องกันมาหลายภพหลายชาติ อาทิหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด หลวงปู่โต หลวงปู่มั่น หลวงปู่สด พระแม่กวนอิม ฯลฯ

ผมจึงขอมอบให้กับเพื่อนที่มีวาระร่วมกัน ถือว่าเป็นการอัญเชิญมามอบให้กับผู้ที่เป็นสาวกขององค์พระแม่กวนอิม ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นพระประสงค์ของพระองค์ท่าน ดังนั้นเพื่อนผู้มีจิตศรัทธาท่านใดก็ตาม และไม่อยู่ในเงื่อนไขการมอบข้างล่างนี้ก็สามารถลงชื่อตามลำดับก่อนหลัง เมื่อครบ ๓๖ ท่าน และ PM แจ้งชื่อที่อยู่มาทางผม ก็จะปิดการมอบทันทีโดยมอบให้ท่านละ ๑ องค์เท่านั้น และเป็นการมอบให้เปล่า ไม่ปรารถนาสิ่งใดๆตอบแทนทั้งสิ้น...

ผมยังคงใช้หลักเกณฑ์เดิมที่จะไม่ post ตั้งกระทู้แยกต่างหาก แต่จะซ่อนไว้ในกระทู้นี้ เฉพาะผู้มีวาระร่วมกันจำนวน ๓๖ ท่านเท่านั้นครับ ผมจะลำดับบรรจุใส่ซองไว้ โดยไม่ทราบท่านใดจะได้รับพระธาตุพระแม่กวนอิมองค์ใหญ่หรือองค์เล็ก ดังนั้น ท่านอย่าได้เสียกำลังใจเด็ดขาดหากได้รับองค์เล็ก ซึ่งท่านอย่าได้คิดว่าเพียง ๑ องค์เล็กๆเท่านั้น ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบก็จะได้เห็นการเสด็จเพิ่ม หากศีลไม่บริสุทธิ์ก็มีโอกาสเสด็จหายไปได้เช่นกัน

***ผู้ที่ยังรับประทาน"เนื้อ" หรือท่านผู้ที่มีจิตที่คิดปรามาส หรือสงสัยง่ายก็โปรดอย่าได้แจ้งความประสงค์เลยนะครับ

คาถาจากพระแม่เจ้ากวนอิม

เหว่ย-ฉาง-ซิน-เจี่ย......คาถาจากพระแม่กวนอิม

นำมาจาก...8 วัน 8 วรรค.....ที่มอบให้แก่อาจารย์คุณแม่สงกรานต์ สมบูรณ์ศฤงค์ ใช้สวดภาวนาคู่กับคาถาบท นำโมฮูก นำโมฮวบ ทุกๆวัน จะปรากฏอัศจรรย์ยิ่งนัก.....

"เหว่ย-ฉาง-ซิน-เจี่ย ผู้ชนะสิบทิศ อมตะ ณ จิตข้าอย่าแปรผัน

เหลี่ยว-ปอ-เปีย-ซา-งัก ดุจตะวันส่องแสงแจ้งสุขสม

จิง-ฉัก-เฉา-โป-ปอ ชนะแล้วไม่กลับมาสู่ปลักตม

เหว่ย-ฉาง-หยุ่ย-ฉอ-เหล่า-เฉียง-หว้า แด่บรมพระนิพพานสถานเดียว

ปิ่ง-เฉีย-ยา-จิ่ง-เกี้ย-เปียง-เจียง-ฉั่ว อมตะชนะนี้พลีชีพถวาย

จิ่ว-เฉี้ยว-ฉาย-ปุง-เปียว-ปะ-ปา-หมิง จงสลายจากสิ่งหมองอย่าข้องเกี่ยว

เจ็ก-เฉียก-ฉอย-เฉียง-ต้า-บ่-ตอ-ปิง ประกาศิตหมดจดอย่าลดเลี้ยว

เหยียง-จง-มิง-ซือ-จื่อ-ล่ง-เจี่ยง-กัง-จี ชาวเพียวเพียวบริสุทธิ์รุดทำใจ​

ผู้ตั้งกระทู้ ปู่ใหญ่ :: วันที่ลงประกาศ 16-10-2007 21:32:59​

http://www.phranippan.com/index.php?...ge=3&No=259457<!-- / message --><!-- attachments --><!-- / message --><!-- attachments -->



<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>



</FIELDSET>
นำมาลงอีกครั้งเนื่องจากเกรงว่า มีผู้เห็นว่า เขาขอรับอะไรกัน กลัวไม่ทัน รีบร้อนขอรับโดยไม่ได้อ่านให้ถี่ถ้วนก่อน เกรงว่า รับสัจจะไปแล้ว จะกระทำไม่ได้ จะเป็นบาปกันเปล่าๆ ดังนั้นก่อนขอรับ ขอให้คิดให้รอบคอบก่อนนะครับ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Specialized
พี่เพชรครับ เมื่อสักครู่โอนเงินร่วมทำบุญสร้างบุษบก แล้วนะครับ 100 บ. ครับ(y)


</TD></TR></TBODY></TABLE>
ขอโมทนาด้วยครับ

ท่านผู้ขอรับพระธาตุพระแม่กวนอิมครับ อย่าได้เข้าใจว่าเป็นการมอบโดยรับค่าตอบแทนนะครับ แม้แต่ค่าจัดส่งก็ไม่เคยคิดปรารถนาอยากได้ น้อง specialized ต้องการร่วมค่าจัดส่งEMS จำนวน ๑๐๐ บาท จึงให้เขาไปทำบุญร่วมสร้างบุษบกดีกว่าหากว่าอยากร่วมด้วยช่วยกันจริงๆ ค่าจัดส่ง EMS ผมมีเพียงพอในจัดส่งทั้งหมดแล้วครับ ขอโมทนาบุญกับเพื่อนที่ร่วมบุญธรรมทาน และค่าจัดส่ง EMS ตลอดรายการทั้ง ๑๐ ท่านนี้ด้วยครับ
๑ พี่แอ๊ว
๒ คณdragonn
๓ คุณพุทธันดร
๔ คุณdragonlord
๕ คุณnaraiyana
๖ คุณศิษย์ต่างแดน
๗ คุณประนังโชค
๘ คณkwok
๙ คุณchaipat
๑๐คุณPichet-m
<!-- / message --><!-- sig -->

 

ขอโมทนาด้วยครับ...

สิ่งที่เป็นความไม่สมบูรณ์ของการศึกษาพระกรุลำพูนนี้คือ ไม่เคยได้ดูของจริง หรือหาดูของจริงไม่ได้เลย ดังนั้น การที่มีผู้นำพระกรุลำพูนนี้ออกให้บูชาในราคาถูก(คำว่า"ถูก"ในความหมายนี้ หมายความถึง"ถูก" ในสายตาของผู้ที่ได้ศึกษาอย่างดีแล้ว และมีของจริงในมือ อีกทั้งต้องมีกำลังทรัพย์ และดูเป็น ดังนั้นผู้ที่นอกเหนือคุณสมบัตินี้จึงอาจจะรู้สึกท้อ และอาจจะเปลี่ยนความตั้งใจเดิมไปค้นหาพระกรุอื่นแทนที่เข้าใจได้มากกว่า มีข้อมูลที่เปิดเผยกันมากกว่า) ดังนั้นจึงอาจจะสร้างความสงสัยให้เกิดขึ้นในใจกับผู้ที่สนใจอยู่บ้าง

แต่...ท่านจะหายสงสัยแน่

หากกิจของการสร้างบุษบกประดิษฐานพระโมคคัลลานะนี้จบลงเมื่อไหร่ ก็จะไม่ได้เห็นพระกรุลำพูนชุดนี้ทั้งหมดปรากฎให้เห็นอีก ให้ได้บูชากันอีกต่อไปในกระทู้นี้อย่างแน่นอน และหลังจากนี้หากมีผู้สนใจก็ตาม หรือหายสงสัยแล้วก็ตาม ก็ไม่สามารถที่จะนำมาให้ร่วมบุญกันได้เนื่องจากจบกิจ หมดวาระ ขาดวาสนาเกี่ยวเนื่องกันแล้วนั่นเอง ขอนำไปสงเคราะห์ยังสถานที่อื่นตามวาระโอกาสต่อไป แต่คงจะอีกนานมาก กว่าที่จะนำมาเผยแพร่กันอีกครั้ง

มีพี่ท่านหนึ่งโทรศัพท์มาจากพิพิธภัณฑ์วัดพระธาตุหริภุญไชย(ชัย) ขณะได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ในช่วงเช้าซึ่งมีความตั้งใจในการเดินทางไปกราบพระตามวัดต่างๆที่ลำพูนโดยวิธีโดยสารรถไฟ น้ำเสียงที่โทรศัพท์เข้ามาเมื่ออยู่ต่อหน้าพระกรุลำพูนในพิพิธภัณฑ์เป็นน้ำเสียงที่ตื่นเต้นมากๆ แจ้งว่า พระที่นำมาให้ชมตามรหัส และพระบูชาขนาดใหญ่ปรากฎอยู่ในพิพิธภัณฑ์ในวัดพระธาตุหริภุญไชย(ชัย)ทั้งหมดแล้ว เพียงแต่เจ้าหน้าที่เขาไม่สามารถจะนำกุญแจมาไขให้ท่านได้หยิบชม หยิบส่องตามสะดวกเท่านั้นเอง และที่สำคัญที่สุดของการชมของเก่า ของโบราณในพิพิธภัณฑ์ทุกแห่งคือ ห้ามการถ่ายภาพ ถ่ายภาพวีดีโอทุกอย่าง แถมมีตาแมวส่องจับดูความเคลื่อนไหวภายในพิพิธภัณฑ์ จึงทำให้เกิดสภาวการณ์ที่ว่า มีผู้ที่ดูแลรักษา แต่ก็ไม่ได้เผยแพร่เป็นทางการ ส่วนผู้ไม่มี แต่อยากได้ไว้บูชา ไปชมก็ไม่สามารถจะนำข้อเท็จจริงมาบอกเล่าได้ทั้งภาพ และเสียง ก็เป็นความลำบากของการศึกษาพระกรุลำพูน และกรุอื่นๆอย่างมาก

เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีท่านหนึ่งมีโอกาสได้รับพระกรุลำพูนชุดนี้ไป ได้นำไปตรวจสอบด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ในองค์กรของท่าน(ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบประมาณ ๑๐,๐๐๐ บาท) ค่า half life เพื่อบอกอายุของวัตถุได้แสดงค่าโดยประมาณที่ ๗๐๐ ปี การประมาณอายุที่ ๕๐๐ ปี จึงเป็นตัวเลขที่ดูไม่เกินความจริงเลย ถือเป็นตัวเลขขั้นต่ำด้วยซ้ำไป

ผมได้พยายามเรียบเรียงข้อมูล และตั้งใจนำข้อมูล เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาร่วม ๗๐๐-๑,๓๐๐ ปี มาในลักษณะของการสืบสานเรื่องราวที่ขาดหายไป ซึ่งบางท่านทราบมาบ้างแล้ว บ้างกำลังเริ่มต้นเดิน บางท่านมีความรู้มากกว่าผมก็จับจ้องมองว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ การศึกษาพระกรุนี้จึงดูที่ทรงพิมพ์แบบเดียวไม่ได้ ดินเผาที่ถูกความร้อนเป็นพันองศาขึ้นไป การอมความร้อน การคลายความร้อน ร่วมๆ ๗๐๐-๑,๓๐๐ ปีที่ซ่อนอยู่ใต้ดิน(ความลึกที่ ๑.๕ เมตร ถึง ๓ เมตรลึกลงไป) ข้างกำแพง(ซึ่งปัจจุบันแนวกำแพงได้เปลี่ยนไปจากเดิมมากแล้ว ดังที่เคยนำเรื่องราวมานำเสนอ) ในกรุเจดีย์ตามวัดต่างๆบ้าง อีกทั้งความชื้น ความร้อนสลับกันไปมา เหล่านี้เป็นสิ่งที่อยู่เหนือการคาดเดาของมนุษย์ด้วยสติปัญญา และภูมิความรู้ ดังนั้นการบิดตัว ขณะถูกความร้อน การคลายตัวของเนื้อดินเผา ขณะความร้อนลดลง จึงเป็นไปได้ทั้งนั้น ยังไม่รวมถึงมวลสารบางอย่างที่เราเองก็ไม่เคยได้เห็น ไม่เคยได้ยินในปัจจุบัน หากจะศึกษาพระโบราณอายุมากกว่า ๗๐๐ ปีนี้ จึงต้องใช้จินตนาการ + ไม่เบื่อในการศึกษาประวัติศาสตร์ + เรียนรู้วัฒนธรรมการดำรงชีวิต + เข้าใจวิธีคิดของคนสมัยนั้นว่าเขาคิดอะไร? ทำอะไร? ผมจะลองให้ข้อสังเกตบางประการ เราลองสังเกตง่ายๆว่า พระพิมพ์ในปัจจุบัน ทำไมถึงสร้างในรูปพิมพ์สี่เหลี่ยม(ยังไม่รวมถึงกระแสจตุคามฟีเวอร์) เป็นเพราะความนิยมในพิมพ์พระสมเด็จวัดระฆังหรือไม่ เป็นเพราะเกิดความศรัทธาในองค์สมเด็จโตอย่างมากหรือไม่ หรือเพราะความสะดวกในการเลี่ยมกรอบพระ ความสะดวกของการบรรจุกล่องพลาสติก พระลักษณะหัวธนูในสมัยโบราณ สืบเนื่องจากเป็นการสร้างเพื่อระลึกถึงภารกิจ หรือเป้าหมายของการสร้างเมืองหริภุญไชย(ชัย) เกิดอุปสรรคคราใด ยกขึ้นจรดหน้าผากระลึกถึงพระฤาษีทั้ง ๕ ที่เป็นผู้สร้างพระนี้ จะเกิดหนทางของการแก้ไขปัญหาอุปสรรคนั้น การสร้างพระเครื่องพิมพ์นี้ ไม่ได้เกิดจากความมุ่งหมายไปทางการมุ่งทำลายล้างศัตรูแต่อย่างใด...

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat colSpan=2>ข้อความส่วนตัว: ขอรับพระธาตุเจ้าแม่กวนอิม</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- post # --><TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date --> วันนี้, 02:49 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>babekids<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
สมาชิก

เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 02:49 AM
วันที่สมัคร: Apr 2008
ข้อความ: 9 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 91 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 28 ครั้ง ใน 6 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0


</TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ขอรับพระธาตุเจ้าแม่กวนอิม
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ขอรับด้วยคนครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

No.1 guawn
No.2 คุณ das999
No.3 คุณ tatra
No.4 คุณ ชวภณ
No.5 คุณ พุทธันดร
No.6 คุณ chaipat
No.7 คุณ ศิษย์ต่างแดน
No.8 คุณ Supattara
No.9 คุณ thanyaka
No.10 คุณ ต้นแก้ว
No.11 คุณ นว
์No.12 คุณ aries2947
No.13 คุณ dragonlord<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->No.14 คุณ manote
No.15 คุณ atha<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message -->No.16 คุณ onimaru_u
No.17 คุณ kittipongc
No.18 คุณ hippobankza
No.19 คุณ jairlinethai
<!-- / message --><!-- sig -->No.20 คุณ Specialized
No.21 คุณ naraiyana
No.22 ถวายหลวงพี่เอ
No.23 คุณแดงลูกศิษย์หลวงพี่เอ
No.24 พี่แอ๊ว
No.25 คุณหนูดี
No.26 น้องแอ้ม
No.27 คุณสุพิตรา
No.28 คุณbabekids

ก็อีกเพียง ๘ ท่านเท่านั้นครับ คาดว่าในวันนี้น่าจะครบทั้ง ๓๖ ท่าน ก็ขอให้ท่านที่ยังไม่ได้แจ้งชื่อที่อยู่ได้โปรดส่ง PM แจ้งชื่อที่อยู่มาให้ผมด้วยนะครับ ผมจะส่งไปตามลำดับก่อนหลัง

 

ผมขอเวลาในการเตรียมการมอบพระกรุลำพูน พิมพ์พระฤาษีวาสุเทพ และองค์พระสุกกทันตฤาษี โดยเฉพาะให้แก่ผู้ที่ร่วมบุญกับมูลนิธิพระดาบส โดยพระราชดำริขององค์ในหลวง ทั้งนี้เป็นการร่วมบุญโดยเสด็จพระราชกุศลกับทั้ง ๒ พระองค์ โดยท่านสามารถร่วมบุญกับทางโครงการพระดาบสได้โดยตรง และผมก็จะไม่ไปตรวจสอบว่าท่านได้โอนเงินไปทำบุญจริงหรือไม่ เพียงแจ้งทาง PM ถึงชื่อที่อยู่ก็เพียงพอแล้วครับ ทั้งใบเสร็จรับเงิน หรือใบอนุโมทนาบัตรจากทางโครงการพระดาบสก็ไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องมาแจ้ง หรือ post ให้ผมดูเป็นหลักฐานทั้งสิ้น ทั้งนี้ผมถือหลักการว่า ผมทำหน้าที่ของผม ท่านทำหน้าที่ของท่านแบบนี้ สบายใจครับ นอกเหนือจากนี้ คือมหาบุญ มหากุศล และมหาบาป มหานรก..






<CENTER>[SIZE=+3]ความเป็นมาของโครงการพระดาบส [/SIZE]</CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER>[SIZE=+1][/SIZE] </CENTER>

[SIZE=+1]ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระราชดำริว่า ขณะนี้ยังมีบุคคลอีกจำนวนมากที่มีความตั้งใจจริง มีศรัทธา ขวนขวายหาความรู้เป็นวิชาชีพใส่ตน แต่ประสบปัญหาไม่มีความรู้พื้นฐาน และไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอที่จะเข้าศึกษาต่อ ในสถาบันการศึกษาวิชาชีพระดับต่างๆได้ หากมีช่องทางช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้ ให้มีความรู้วิชาชีพที่เขาปรารถนา ย่อมจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติได้ ในการช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้ ได้ทรงรำลึกถึงวิธีการประสิทธิ์ประสาทวิชา ของครูบาอาจารย์ในโบราณกาล เช่น พระดาบส ฯลฯ ว่าในยุคสมัยนั้น ผู้ที่ต้องการเป็นลูกศิษย์ของพระดาบส จะต้องเป็นผู้ที่มีความตั้งใจศรัทธาอย่างแท้จริง เพราะพระดาบสนั้นจำศีลภาวนาอยู่ในป่าดงพงไพรกันดาร ผู้ที่จะไปหาจะต้องขึ้นเขา ลงห้วย บุกป่า ฝ่าดง ด้วยความลำบากแสนเข็ญ เมื่อไปพบพระดาบสจึงเข้าไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ก่อนที่พระดาบสจะรับตัว เข้าเป็นลูกศิษย์ ท่านจะทดสอบความศรัทธาความอดทนอีกหลายประการ จนเป็นที่แน่ใจว่า ผู้ที่มาสมัครเป็นลูกศิษย์นั้นมี ความตั้งใจอยากได้วิชาจริง ท่านจึงรับไว้เป็นลูกศิษย์ ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ให้ตามที่ท่านถนัด โดยไม่คิดค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น แต่ลูกศิษย์นั้นจะต้องปรนนิบัติรับใช้ เมื่อศิษย์นั้นมีความรู้เพียงพอ จึงกราบลาพระอาจารย์กลับบ้านกลับเมือง เพื่อนำความรู้ศิลปศาสตร์ที่พระอาจารย์ถ่ายทอด ไปใช้ประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่นต่อไป ดังเรื่องจักรๆ วงศ์ๆ ของ ไทย เช่น จันทโครพ พระอภัยมณี เป็นต้น[/SIZE]
[SIZE=+1] [/SIZE]​

[SIZE=+1]พระดาบสดังกล่าวจะมีคุณลักษณะประจำตัว คือ มีจิตใจเปี่ยมไปด้วยเมตตา กรุณา มีกุศลศรัทธาที่จะถ่ายทอดศิลปศาสตร์ให้แก่ลูกศิษย์ โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆทั้งสิ้น บางอาศรมอาจจะมีพระดาบสจำศีลภาวนาอยู่หลายรูป แต่ละรูป อาจมีความรู้ในศิลปศาสตร์แตกต่างกัน บางรูป จำศีลภาวนาอยู่เป็นเอกเทศ
[SIZE=+1]ดังนั้น หากนำเอาวิธีการประสิทธิ์ประศาสตร์วิชาการ ของพระดาบสมาประยุกต์ใช้ โดยจัดเป็นรูปการศึกษานอกระบบแล้ว นอกจากจะช่วยให้ผู้มาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ได้ความรู้เป็นวิชาชีพแล้ว ยังช่วยให้ผู้นั้นเป็นผู้ที่มีศีลธรรมจรรยา มีน้ำใจ ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาสังคมส่วนรวมได้ผลยิ่งขึ้น แต่ในปัจจุบันนี้ ป่าธรรมชาติที่เป็นที่พำนักอาศัยของพระดาบสนั้นนับว่าจะน้อยลงไป จึงจำเป็นต้องใช้ป่าสังเคราะห์หรือป่าคอนกรีต เป็นที่ตั้งสำนักพระดาบสแทน[/SIZE]
[SIZE=+1]แนวกระแสพระราชดำริดังกล่าว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานให้ พลตำรวจตรี สุชาติ เผือกสกนธ์ รับไปดำเนินการทดลองเปิดอบรมวิชาช่างไฟฟ้า-วิทยุขึ้นก่อน โดยใช้สถานที่ของสำนักพระราชวัง ณ บ้านเลขที่ 384/386 ถนนสามเสน ตรงข้ามหอสมุดแห่งชาติ ท่าวาสุกรี แล้วเปิดรับบุคคลที่มีความตั้งใจจริงที่จะหาความรู้ใส่ตน โดยไม่จำกัดเพศ อายุ และความรู้ รวมทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ที่ผ่านศึก และทุพพลภาพได้เข้าเรียน สำหรับครูหรือพระดาบสอาสาสมัครนั้น จะเป็นผู้มีความรู้ ความศรัทธาอาสาสมัครโดยเสด็จพระราชกุศล และมีคุณลักษณะพิเศษ คือ มีความยินดีเสียสละให้ความรู้ของตนเป็นวิทยาทาน โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น[/SIZE]
[SIZE=+1] [/SIZE]
[SIZE=+1]การทดลองได้เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2519 โดยมีผู้เข้าอบรม 9คน ในขั้นแรก ได้กำหนดระยะเวลาการฝึกอบรมไว้1ปี ผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรม จะสามารถซ่อมเครื่องรับวิทยุธรรมดาได้ แต่เมื่อปฏิบัติจริงแล้ว ปรากฏว่าใช้เวลาเพียง 9 เดือน เท่านั้น ระหว่างการฝึกอบรม นอกจาก วิชาช่างไฟฟ้าวิทยุ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติแล้ว ยังมีการอบรม ศีลธรรมจรรยาและให้เคารพรักครูบาอาจารย์ ชาติ ศาสนา มีความ จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ เมื่อผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ความ เข้าใจทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติพอสมควรแล้ว สำนักงานโครงการฯ ได้เปิดบริการรับซ่อมเครื่องไฟฟ้าวิทยุและรับงานติดตั้ง ไฟฟ้าภายในอาคาร ภายใต้การควบคุมดูแลของพระดาบส อบรม เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ประสบการณ์มากยิ่งขึ้น ทั้งเป็นการหารายได้ให้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมในรูปสหกรณ์[/SIZE]
[SIZE=+1]การดำเนินงานตามโครงการนี้ระยะแรกๆ ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สนับสนุนประมาณเดือนละ5,000.00บาท เมื่อเสร็จสิ้นการฝึกอบรมตามหลักสูตรแล้วได้ทำการทดสอบวัดผลปรากฏว่า สอบได้7คน นับได้ว่า ได้ผลดีเกิดคาด และเป็นไปตามกระแสพระราชดำริทุกประการ เพราะผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรมหลายคนมาจากครอบครัวที่ยากจน มีพื้นฐานความรู้ต่ำ ไม่สามารถเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาวิชาชีพต่างๆ ได้ บางคนมีปัญหาชีวิตประจำวัน หากปล่อยทิ้งไว้จะเสียคนเป็นปัญหาของ สังคมเช่น ติดยาเสพติด เป็นอาชญากร ฯลฯ อย่างแน่นอน แต่เมื่อเข้ารับการฝึกอบรมในโครงการนี้แล้วสามารถกลับเนื้อกลับตัวได้ จึงเชื่อว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกคนได้รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ประกอบกับมีศรัทธาที่จะได้รับความรู้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงได้ตั้งอกตั้งใจศึกษาเล่าเรียนอย่างจริงจัง นับว่ากระแสพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้บังเกิดเป็นความจริงขึ้นแล้ว โครงการนี้โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า [/SIZE]โครงการพระดาบส
[SIZE=+1]หลังจากเปิดการฝึกอบรมแล้ว1รุ่น และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ สำนักงานโครงการฯ จึงได้ทดลองเปิดอบรมหลักสูตรช่างไฟฟ้า วิทยุชั้นกลางขึ้น ซึ่งผู้สำเร็จการฝึกอบรมตามหลักสูตรช่างไฟฟ้าวิทยุในชั้นกลางปรากฏว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจเช่นกัน จึงได้ เปิดการฝึกอบรมรุ่นต่อๆ ไปขึ้น กับได้เปิดการฝึกอบรมหลักสูตรช่างเครื่องยนต์ขึ้นอีกหลักสูตรหนึ่ง ต่อมาสำนักงานโครงการฯ ได้พิจารณา เห็นว่า การเข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรช่างไฟฟ้าวิทยุก็ดี ช่างเครื่องยนต์ก็ดี ก่อนที่จะเข้ารับการฝึกอบรมมีความ รู้พื้นฐานทางช่างทั่วไปก่อน จึงได้เปิดการฝึกอบรมหลักสูตรเตรียมช่างขึ้นใช้ระยะเวลา3เดือน หลักสูตรนี้นอกจากจะให้ความ รู้พื้นฐาน ทางช่างแล้วยังเป็นโอกาสที่จะทดสอบความตั้งใจ ความศรัทธา อดทน ของผู้เข้ารับการอบรม และพระดาบสอาสา สมัครที่ทำหน้าที่ฝึกอบรมในแต่ละสาขาวิชาจะได้มีโอกาสพิจารณาคัดเลือกลูกศิษย์เข้ารับการฝึกอบรม ในหลักสูตรที่คนมีใจรัก และสติปัญญาของตนจะอำนวยให้ ศิษย์คนใดสติปัญญาไม่อำนวย เฉลียวฉลาดไม่เพียงพอที่จะศึกษาอย่างลึกซึ้งในหลักสูตร ที่ค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อนมีการคิดคำนวณมาก เช่น ช่างวิทยุ พระดาบสก็จะพิจารณาคัดเลือกให้ไปศึกษาในหลักสูตรที่ ไม่ต้องใช้สมองมาก เช่น ช่างเดินสายไฟฟ้าภายในอาคาร ช่างเชื่อม ช่างเคาะ พ่นสี เป็นต้น[/SIZE]
[SIZE=+1] [/SIZE]
[SIZE=+1]การจัดการศึกษานอกระบบ ในลักษณะโครงการตามกระแสพระราชดำรัส จึงนับได้ว่า เป็นโครงการที่นำร่องให้มีการพัฒนาระบบ การศึกษาของประเทศเป็นรูปการศึกษานอก โรงเรียนขึ้น ตั้งแต่นั้นมา โดยที่ลักษณะงานของโครงการนี้คล้ายคลึงกับงานของมูลนิธิ ส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษในพระบรมราชินูปถัมภ์ จึงได้ทรงพระ กรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผนวกโครงการพระดาบสไว้เป็นส่วนหนึ่ง ของมูลนิธิดังกล่าวตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2521 เป็นการชั่วคราว[/SIZE]
[SIZE=+1]เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.2523ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้มีคณะกรรมการจัดหาทุน โครงการพระดาบสขึ้น โดยมีคุณหญิง วัลลีย์ พงษ์พานิช เป็นประธานกรรมการ คณะกรรมการดังกล่าว ได้ติดต่อประสานงานเชิญชวนและจัดกิจกรรม พิเศษเพื่อจัดหา เงินและสิ่งของ โดยเฉพาะข้าวสาร โดยเสด็จพระราชกุศลตลอดมา[/SIZE]

[SIZE=+1]เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2524ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติหน้าที่ ช่วยเหลือกำกับดูแลโครงการพระดาบสอีกทางหนึ่ง โดยที่การฝึกอบรมตามโครงการนี้ จะได้ผลต่อเมื่อ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมต้องเข้าพักอาศัยในสำนักงานโครงการตลอดการฝึก อบรมซึ่งเกิดปัญหาสถานที่พักอาศัยไม่เพียงพอ เมื่อปี พ.ศ.2527 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้สำนักงานโครงการฯ ดำเนินการก่อสร้างอาคารเรียนและหอพักเพิ่มเติมอีก 1 หลัง โดยใช้เงินของโครงการฯ ในวงเงิน 1.8 ล้านบาทเป็นการแก้ไขปัญหา อาคารหลังนี้ได้รับความร่วมมือจากกรมโยธาธิการออกแบบรายการก่อสร้างสำนักงานทรัพย์สิน ส่วนพระมหากษัตริย์ได้ให้ความอนุเคราะห์ดำเนินการตามขั้นตอน[/SIZE]
[SIZE=+1] [/SIZE][SIZE=+1]เมื่อปี พ.ศ. 2528 คณะกรรมการจัดหาทุนฯ ได้พิจารณาเห็นว่าโครงการพระดาบส กำลังประสบปัญหาเรื่องอาคารเรียน สมควรจะให้มีอาคารเรียน ถาวร ในการนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัท นนท์ตรึงใจสถาปนิก จำกัด และสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ออกรูปแบบรายการและ ประมาณราคากลางไว้ในวงเงิน5ล้านบาท อาคารหลังนี้ คณะกรรมการ จัดหาทุนฯ ได้กำหนดน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย เนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา60พรรษา คณะกรรมการจัดหาทุนฯ ได้จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อหารายได้มา สมทบทุนอาคารเรียนนี้อีกหลายครั้ง อาทิ การเดินเพื่อสุขภาพ การจัดจำหน่ายสินค้าราคาถูกจากโรงงาน การจัดแฟชั่นผ้าไหมไทย จัดโบว์ลิ่งการกุศล เป็นต้น จนกระทั่งการก่อสร้างอาคารดังกล่าวได้แล้วเสร็จสมบูรณ์ตามวัตถุประสงค์[/SIZE]
[SIZE=+1]อาคารดังกล่าวเป็นอาคารตึก 3 ชั้น มีห้องเรียน 6 ห้อง ห้องประชุม 1 ห้อง ห้องประกอบพิธีตามศาสนา 1 ห้อง ในการก่อสร้างได้รับ ความอนุเคราะห์จากกองทัพบกอนุญาตให้กรมทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ กองทัพภาคที่ 1 เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง[/SIZE]
[SIZE=+1]นอกจากอาคารเรียนดังกล่าวแล้ว ยังได้ทำการก่อสร้างอาคารบ้านพักแบบ 2 ห้องนอน 1 หลัง สำหรับเป็นที่พักอาศัยของอาจารย์ผู้ ปกครองโรงเรียน[/SIZE]
[SIZE=+1]ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2532 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จดทะเบียนเป็นโรงเรียน ผู้ใหญ่พระดาบสกรมการศึกษานอกโรงเรียนและเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระ บรมราชานุญาตให้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นมูลนิธิพระดาบสขึ้น ซึ่งได้มีการจดทะเบียนตามกฎหมายเสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2533 โดยมีคณะกรรมการมูลนิธิ ณ ปัจจุบันประกอบด้วย[/SIZE]

[SIZE=+1]พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว[/SIZE][SIZE=+1]​

ทรงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมูลนิธิกิตติมศักดิ์
และ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
ทรงดำรงตำแหน่ง รองประธานกรรมการมูลนิธิกิตติมศักดิ์[/SIZE]​

[SIZE=+1]
[/SIZE][/SIZE]

• [SIZE=+1]หม่อมหลวง จิรายุ นพวงศ์ -------------- ประธานกรรมการ [/SIZE]
• [SIZE=+1]พลอากาศตรี กำธน สินธวานนท์ ------ กรรมการ [/SIZE]
• [SIZE=+1]คุณหญิง วัลลีย์ พงษ์พานิช--------------- กรรมการ [/SIZE]
• [SIZE=+1]นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา -------- กรรมการ [/SIZE]
• [SIZE=+1]หม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี--------- กรรมการ [/SIZE]
• [SIZE=+1]นายแก้วขวัญ วัชโรทัย ------------------- กรรมการ เหรัญญิก [/SIZE]
• [SIZE=+1]พลตำรวจตรี สุชาติ เผือกสกนธ์ -------- กรรมการ เลขาธิการ [/SIZE]

<CENTER></CENTER>
[SIZE=+1]ในปี พ.ศ. 2536 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สร้างอาคารเรียน เพิ่มเติมขึ้นอีก 1 หลังที่บริเวณ โรงช้างเดิม ท่าวาสุกรี อาคารหลังใหม่นี้เป็นอาคาร 3 ชั้น ชั้นบนจัดไว้เป็นที่พักของนักเรียน ชั้นกลางมีห้องเรียน2ห้อง ห้องพักครู1ห้อง และชั้นล่างเป็นห้องปฏิบัติการช่าง
[SIZE=+1] [/SIZE]
[SIZE=+1]อาคารนี้ได้เริ่มทำการก่อสร้างเมื่อ เดือนมกราคม พ.ศ.2537 และแล้วเสร็จ ในเดือนมกราคม พ.ศ.2538 (ที่ล่าช้าเพราะผู้รับเหมาก่อสร้างเดิม ละทิ้งงาน จึงต้องหาผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหม่)[/SIZE]
[SIZE=+1]ใช้ค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 4,560,000 บาท[/SIZE]

[/SIZE]

<CENTER>[SIZE=+1][SIZE=+2][SIZE=+3]แนวความคิดในการดำเนินงาน[/SIZE] [/SIZE]

• [SIZE=+1]การดำเนินงานตามโครงการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์จะไม่จัดเป็นรูปแบบงานธุรกิจ โดยให้จัดเป็นรูปแบบการศึกษานอกระบบและงานสาธารณกุศลอย่างแท้จริง ดังนั้น หากผู้ใดมีความตั้งใจจริงที่จะขวนขวายหาความรู้ เป็นวิชาชีพใส่ตนแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์และหรือหาสถานที่ศึกษาไม่ได้ เมื่อมีความประสงค์ที่จะสมัครเข้ารับการฝึกอบรมใน หลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่ง ทางมูลนิธิพระดาบสยินดีจะถ่ายทอดความรู้ให้โดยเจ้าตัวไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แต่มีเงื่อนไขว่าในระหว่างที่เข้ารับการฝึกอบรมจะต้องปรนนิบัติครูบาอาจารย์หรือพระดาบสเป็นการตอบแทนบุญคุณที่ท่านได้ถ่ายทอดความรู้ให้ด้วยความเต็มใจ เพื่อให้เป็นไปตามกระแสพระราชดำริ [/SIZE]​

• [SIZE=+1]ผู้ที่จะสมัครเข้ารับการฝึกอบรมตามโครงการนี้ไม่มีข้อจำกัดเรื่อง เพศ วัย และคุณวุฒิ ขอเพียงให้อ่านออกเขียนบวก ลบ คูณ หารได้ และมีควมตั้งใจศรัทธาอยากได้ความรู้เป็นวิชาชีพใส่ตนเท่านั้น โดยปกติจะพิจารณาคัดเลือกผู้ที่มาจากครอบครัว ที่ยากจนมีปัญหาชีวิต ประจำวัน ขาดแคลนทุนทรัพย์และความรู้พื้นฐานที่จะเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาวิชาชีพระดับ ต่างๆ ได้ ถ้าปล่อยไว้จะเสีย อนาคต เกิดเป็นปัญหาแก่สังคมส่วนรวม เช่น ติดยาเสพติด เป็นอาชญากร ฯลฯ นอกจากนี้ทาง มูลนิธิฯ ยังยินดีช่วยเหลือฝึกอบรม ให้แก่ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ซึ่งทุพพลภาพในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกัน ประเทศชาติที่สามารถช่วยตัวเองได้พอสมควร ตามประเด็นดังกล่าว ข้างต้นมูลนิธิพระดาบส ขอซ้อมความเข้าใจว่าโครงการนี้มิใช่สถานที่ดัดสันดานเด็กหรือรับเลี้ยงดู คนพิการ ผู้ปกครองบางท่านไม่สามารถ ว่ากล่าวอบรมเคี่ยวเข็ญบุตรหลานให้เข้าเรียนได้ มักจะนำมาฝากไว้ให้อบรม ซึ่ง มูลนิธิฯไม่สามารถ จะรับตัวไว้ได้ เพราะเจ้าตัวไม่มีความ สมัครใจศรัทธาที่จะได้รับความรู้ใส่ตนอย่างใด [/SIZE]​

• [SIZE=+1]เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ในการที่จะทำงาน มูลนิธิฯ มีแผนงานที่จะรับงาน บริการ เช่นงานซ่อมเครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ งานซ่อมเครื่องไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เตารีดไฟฟ้า พัดลม ฯลฯ งานติดตั้งไฟฟ้า ภายในอาคาร งานซ่อมรถยนต์ เครื่องยนต์ เป็นต้น แล้วให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่มีความรู้ภาคทฤษฎี และ ปฏิบัติพอสมควรแล้ว ดำเนินการภายใต้การควบคุมของพระดาบสที่ประสิทธิ์ประสาทความรู้ เพื่อหารายได้ให้แก่ผู้เข้ารับ การฝึกอบรมโดยจัดเป็นรูปสหกรณ์ [/SIZE]​

• [SIZE=+1]ผู้ที่จะอาสาสมัครเป็นพระดาบสช่วยสอน โดยเสด็จพระราชกุศลตามโครงการนี้ จะต้องมีคุณลักษณะพิเศษประจำตัว คือ มีจิตใจเปี่ยมไปด้วยเมตตากรุณาทั้งศรัทธาที่จะเสียสละถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ของตนเองให้เป็นวิทยาทานโดยไม่ หวังผลตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น [/SIZE]​

• [SIZE=+1]วิชาชีพที่จะถ่ายทอดให้แก่ลูกศิษย์นั้น ไม่จำเป็นต้องเจาะจงว่าจะเป็นวิชาช่างไฟฟ้าวิทยุ หรือ วิชาช่างเครื่องยนต์เท่านั้น ในโอกาสต่อไปจะเปิดการฝึกอบรมวิชาแขนงอื่นๆ เช่น ภาษาต่างประเทศ ประวัติศาสตร์ ฯลฯ ก็ได้ [/SIZE]​

• [SIZE=+1]หากบุคคลใดมีจิตศรัทธาที่จะถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ของตนในสาขาวิชาการต่างๆ เป็นวิทยาทาน โดยเสด็จพระ ราชกุศลตามโครงการนี้ อาจดำเนินการด้วยตนเองเป็นเอกเทศ ณ บ้านพักของตนเอง หรือสถานที่แห่งหนึ่งแห่งใดก็ได้ โดย ไม่จำเป็นต้องมาทำการสอนที่มูลนิธิพระดาบสเสมอไป เพราะการปฏิบัติทำนองนี้ย่อมบังเกิดกุศล เป็นการส่งเสริมบารมีแก่ ตนเอง และถือได้ว่าเป็นการสนองกระแสพระราชดำริและโดยเสด็จพระราชกุศลเช่นกัน [/SIZE]​

<CENTER>
[SIZE=+2]http://www.dabos.or.th/total1.htm[/SIZE]</CENTER>[/SIZE]</CENTER>

 

ภาพนักขุดพระบริเวณลานวัดมหาวัน ที่สมัยนั้นยังไม่มีการประมูลพื้นที่ขุดกัน กำลังส่องพระที่ตนขุดขึ้นมา ภาพนี้ถ่ายก่อน ปี 2508

http://www.dvthai2.com/lumpoon0123.htm

 

จะร่วมบุญกับมูลนิธิพระดาบส ต้องทำอย่างไรบ้าง ช่วยแนะนำด้วยค่ะ

 

ขอเวลาซักนิดนะครับ ยังไม่พร้อมครับ

 

ผมโอนแล้ว 19,000.- บาท = 38 องค์

ตอนนี้มีปัจจัยที่ผม 800.- บาท ยังไม่ได้โอนครับ รออีก 2,000.- บาท

หากรวมทั้งหมด 19,000 + 800 + 2,000.- บาท = 21,800 บาท

= 43.6 องค์

ยืนยัน 39.6 องค์แน่นอนครับ

การบรรจุที่ว่าจากการตรวจสอบ

1. พระเจดีย์ที่ 1 4 องค์
2. พระเจดีย์ที่ 2 3 องค์
3. พระเจดีย์ที่ 3 5 องค์
4. พระเจดีย์ที่ 4 4 องค์
5. พระเจดีย์ที่ 5 5 องค์
6. พระเจดีย์ที่ 6 5 องค์
7. พระเจดีย์ที่ 7 5 องค์
8. พระเจดีย์ที่ 8 5 องค์
9. พระเจดีย์ที่ 9 3 องค์

= 39 องค์ ถูกต้องครับ

อีก 4 องค์ที่จะเพิ่มรอปัจจัยก่อนครับ

สาธุครับ

 

คุณเพชรคะ.......

มีชื่อคุณ Pukky_Ka #864 ขอรับพระธาตุพระแม่กวนอิมด้วย แต่ในยอดสรุปไม่มีชื่อนี้ ไม่ทราบว่าตกหล่นหรือเปล่าคะ

 

คุณเพชรครับ

ผมขอรับไว้ 1 องค์ ผมจะอัญเชิญไปบรรจุที่พระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง

โมทนาสาธุครับ

.

 

ขอบคุณพี่อ้อยมากครับ ผมทำตกหล่นจริงๆด้วยครับ

No.1 guawn
No.2 คุณ das999
No.3 คุณ tatra
No.4 คุณ ชวภณ
No.5 คุณ พุทธันดร
No.6 คุณ chaipat
No.7 คุณ ศิษย์ต่างแดน
No.8 คุณ Supattara
No.9 คุณ thanyaka
No.10 คุณ ต้นแก้ว
No.11 คุณ นว
์No.12 คุณ aries2947
No.13 คุณ dragonlord<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->No.14 คุณ manote
No.15 คุณ atha<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message -->No.16 คุณ onimaru_u
No.17 คุณ kittipongc
No.18 คุณ hippobankza
No.19 คุณ jairlinethai
<!-- / message --><!-- sig -->No.20 คุณ Specialized
No.21 คุณ naraiyana
No.22 คุณ Pukky_ka
No.23 ถวายหลวงพี่เอ
No.24 คุณแดงลูกศิษย์หลวงพี่เอ
No.25 พี่แอ๊ว
No.26 คุณหนูดี
No.27 น้องแอ้ม
No.28 คุณสุพิตรา
No.29 คุณbabekids

 

ขอบคุณพี่อ้อยมากครับ ผมทำตกหล่นจริงๆด้วยครับ

No.1 guawn
No.2 คุณ das999
No.3 คุณ tatra
No.4 คุณ ชวภณ
No.5 คุณ พุทธันดร
No.6 คุณ chaipat
No.7 คุณ ศิษย์ต่างแดน
No.8 คุณ Supattara
No.9 คุณ thanyaka
No.10 คุณ ต้นแก้ว
No.11 คุณ นว
์No.12 คุณ aries2947
No.13 คุณ dragonlord<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->No.14 คุณ manote
No.15 คุณ atha<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message -->No.16 คุณ onimaru_u
No.17 คุณ kittipongc
No.18 คุณ hippobankza
No.19 คุณ jairlinethai
<!-- / message --><!-- sig -->No.20 คุณ Specialized
No.21 คุณ naraiyana
No.22 คุณ Pukky_ka
No.23 ถวายหลวงพี่เอ
No.24 คุณแดงลูกศิษย์หลวงพี่เอ
No.25 พี่แอ๊ว
No.26 คุณหนูดี
No.27 น้องแอ้ม
No.28 คุณสุพิตรา
No.29 คุณbabekids
No.30 คุณsithiphong เพื่อบรรจุพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง

 

ขอรับพระธาตุพระแม่กวนอิมด้วยครับเป็นลำดับที่ 31

 

ขอบคุณพี่อ้อยมากครับ ผมทำตกหล่นจริงๆด้วยครับ

No.1 guawn
No.2 คุณ das999
No.3 คุณ tatra
No.4 คุณ ชวภณ
No.5 คุณ พุทธันดร
No.6 คุณ chaipat
No.7 คุณ ศิษย์ต่างแดน
No.8 คุณ Supattara
No.9 คุณ thanyaka
No.10 คุณ ต้นแก้ว
No.11 คุณ นว
์No.12 คุณ aries2947
No.13 คุณ dragonlord<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->No.14 คุณ manote
No.15 คุณ atha<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message -->No.16 คุณ onimaru_u
No.17 คุณ kittipongc
No.18 คุณ hippobankza
No.19 คุณ jairlinethai
<!-- / message --><!-- sig -->No.20 คุณ Specialized
No.21 คุณ naraiyana
No.22 คุณ Pukky_ka
No.23 ถวายหลวงพี่เอ
No.24 คุณแดงลูกศิษย์หลวงพี่เอ
No.25 พี่แอ๊ว
No.26 คุณหนูดี
No.27 น้องแอ้ม
No.28 คุณสุพิตรา
No.29 คุณbabekids
No.30 คุณsithiphong เพื่อบรรจุพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง
No.31 คุณixy

อีกเพียง ๕ ท่านเท่านั้นที่จะได้รับมอบพระธาตุพระแม่กวนอิม เมื่อครบจำนวน ๓๖ องค์ จะไม่มีการมอบให้อีก<!-- / message --><!-- sig -->

 

ผมขอรับไว้ 1 องค์ครับ

 

กราบขอขมาและขออภัยนะคะที่นับลำดับพลาดเองค่ะ

 

หลังจากที่ท่านได้รับพระธาตุพระแม่กวนอิมแล้ว ขอให้ท่านตั้งจิตอัญเชิญก่อนเข้าเคหะสถานว่า

ข้าพเจ้าขอกราบขอขมาพระแม่กวนอิมหากข้าพเจ้าได้เคยปรามาสด้วยกาย วาจา หรือใจก็ดี ขอพระแม่กวนอิมได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ และขอน้อม...ใจอัญเชิญกระแสบารมีของพระแม่กวนอิมโพธิสัตว์เสด็จมาสงเคราะห์แก่ปวงข้าพเจ้ายังเคหะสถานเพื่อการสักการะของข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอความเป็นมงคล และความปรารถนาทั้งทางโลก และทางธรรมที่เป็นสัมมาทิฐิจงสัมฤทธิ์ผลด้วยน้ำทิพย์ของพระแม่กวนอิมด้วยเทอญ...

ขณะกล่าวอัญเชิญเข้ายังเคหะสถานให้จินตาการเห็นภาพ และรังสีสีทองก่อน เนื่องจากสภาวะความเป็นทิพย์ของแต่ละท่านไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงต้องใช้กระบวนการสร้างภาพในใจขึ้นมาก่อน เมื่ออารมณ์เป็นทิพย์จะเกิดภาพในใจขึ้นมาเอง โดยไม่ต้องกำหนด...