ห้องแมวยิ้ม สัพเพ เหระ อะไรก็เอามาลงกระทู้นี้ได้ครับ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย zalievan, 9 ธันวาคม 2018.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    วิธีการเก็บรักษาอาหารให้อยู่ได้นานๆ


    เผยแพร่เมื่อ 5 ก.พ. 2015
     
  2. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,613
    ค่าพลัง:
    +3,015

    อาการอย่างนี้ เค้าจะเรียกทางพระว่า จิตละเอียดขึ้น
    รับรู้สิ่งที่ละเอียดได้มากขึ้น
    รับรู้แม้กระทั่ง กิเลส ที่มันละเอียดๆ หรือ เบาบาง ได้
    ซึ่งไม่ก่อนทำไม่ได้ ก็เลยคิดว่า ตัวเองไม่มีกิเลส
    แต่ความจริง กิเลสเกิดขึ้นทุกวินาที
    แต่จิตของเราตามไม่ทัน จึงคิดว่า ไม่มี

    แต่เมื่อบรรลุธรรม ถึง โสดาบัน
    จิตก็จะจับ กิเลสที่มีอยู่อย่างเบาบางนั้นได้
    เป็น ปรกติวิสัย คือ สามารถเห็นได้เป็นประจำ
    จึงคิดไปว่า กิเลสเรามีมากขึ้น

    ความจริง กิเลสก็มีเท่าเดิมเหมือนกันทุกคน
    แต่เมื่อเราบรรลุธรรม ขั้นใดขั้นหนึ่ง ขึ้นไป
    เราถึงจะรับรู้ถึง กิเลส ได้บ่อยๆ มากขึ้นๆ
    จนบางครั่งเราคิดไปว่า การปฏิบัติของเราล้มเหลวแล้ว
    แต่ความจริงมันสำเร็จผล ต่างหาก ไม่ใช่ล้มเหลว

    หากจะวัดว่า สำเร็จ หรือ ล้มเหลว
    ก็ต้องมาดูว่า การปล่อยวาง ที่เราฝึกๆกันมา
    จะเอามาใช้ในช่วงนี้ คือ
    เมื่อไหร่ที่กิเลสเกิด ก็เริ่มจะปล่อยวางได้
    อย่างทันท่วงที ไม่มีการขบคิด ในวันที่สองอีก
    คิดแค่วันเดียว ก็ปล่องวางไป
    ปล่อยวางหมดเมื่อไหร่ ก็จบกิจ
    หมดสิทธิ์รับใช้กรรมอีก
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ครูบาชุ่มทำนายภัยพิบัติ จะเกิดวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ.2562


    โหรเก่งกาจ จงใจพระ
    สตรีมสดเมื่อ 15 ม.ค. 2019
    วันที่ครูบาบุญชุ่มทำนายไว้ดังนี้
    1. วันที่ 20 ส.ค 2562 ตรงกับอังคาร แรม 5 ค่ำ เดือน 9 จะเกิดภัยพิบัติ คนจะตายมากมาย
    2. วันที่ 14 ต ค. 2562 ตรงกับวันจันทร์ แรม 1 เดือน 11 เวลากลางคืน ฝนจะตกหนัก
    3. วันที่ 24 ต ค 2562 ตรงกับวันพฤหัส แรม 11 ค่ำ เดือน 11 โลกจะมืด 45 วัน ให้เตรียมอาหารการกินไว้ให้พร้อม และให้นั่งสมาธิภาวนา ห้ามทานเนื้อสัตว์
    4. วันที่. 3 ธ ค 2562 ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 1 ห้ามทำงาน ให้ถือศีลกินเจภาวนาอย่างเดียว แล้วจะหลุดพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวง สาธุๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2019
  4. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
  5. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    Rock end Role
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    การเตรียมตนเองและจิตวิญญาณเพื่อการผจญภัย

    knowing.jpg

    ลูกรักแห่งพ่อทั้งหลาย สิ่งแรกที่ลูกจะต้องเตรียมเครื่องยนต์แห่งกรรมก็คือ เตรียมปัจจัย (ที่จะใช้ในการดำรงชีวิต) ให้พร้อมทั้งเพื่อตนเองและสมาชิกในครัวเรือนของเจ้า

    สิ่งแรกก็คือ อาหาร คิดเองว่าจะเอาอะไร สิ่งที่สองคือ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องนุ่งห่มสำคัญมาก เพราะในช่วงเวลาในการชำระโลก อากาศจะหนาวเย็นมาก เพราะโลกจะคว่ำหัวลง ลูกเข้าใจไหม โลกจะคว่ำหัวตีลังกา และโลกนี้จะมีแต่ความมืดนั้น จะเกิดขึ้นจากหลายอย่าง
    1. เมฆมืด
    2. ส่วนโค้งของโลกบังดวงอาทิตย์ไว้ (โลกจะหยุดหมุนรอบตนเองชั่วคราว)
    3. เกิดจากนิวเคลียร์บอมส์ มันมีเป็นดอกเห็ดห่อหุ้มโลกของเจ้าไว้ ทำให้มองอะไรไม่เห็น
    เครื่องใช้ไม้สอย อะไรก็ได้ อย่างสุภาพสตรีมีของส่วนตัวหลายอย่าง ไม่ใช่เครื่องสำอางนะลูก ใช่ไหม ผู้หญิงต้องใช้ ผู้ชายไม่เท่าไหรหรอก มันแก้ผ้าเดินยังได้เลย (ใช่ไหม) เพราะตอนเกิดมามีไหมเสื้อผ้าอาภรณ์ ผู้ชายมีไหม ไม่มี ผู้หญิงทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะระหว่างชำระโลกนั้น คนชั่วยังเหลืออยู่ไหมล่ะ ก็เหลืออยู่ซิ ไปเที่ยวเปลือยๆ เดี๋ยวมันปล้ำเอาแล้วก็ยิ่งซวย 2 ต่อเลย มันต้องระวังนะ

    ที่อยู่อาศัย ที่อยู่อาศัยนี้ต้องคิดแล้ว ใครที่เคย ในโลกของเจ้านี่ พ่อเห็นแล้วเป็นเรื่องที่น่าขบขัน อีกอย่างหนึ่งเวลาซื้อที่ดินของพวกเจ้า ที่ดินระหว่างชายน้ำ ชายทะเล กับที่อยู่ในที่ธรรมดาๆ ในป่าลึกๆ เจ้าว่าที่ไหนแพงกว่ากัน (ชายน้ำ ชายทะเล) เจ้ารู้ไหม พวกที่ได้แผ่นดินที่อยู่ชายน้ำ ชายทะเล ไอ้พวกนี้คือพวกที่ถูกกำหนดมาให้มันไปอยู่ตรงนั้น มันตายง่ายกว่าไหมละลูก อย่าคิดนะว่าตอนแรกที่ผ่านมาโชคดี ที่กูไม่ได้ซื้อไว้ใช่ไหมละลูก

    คนที่อยู่ริมน้ำ อยู่ในที่ราบลุ่ม นั่นคือผู้ที่ถูกกำหนดให้มาเกิดที่ตรงนั้น เพื่อรอคอยการชำระความ ถูกกำหนดมา อย่างนี้เขาไม่เรียกว่าบุญส่ง เขาเรียกอะไรส่งล่ะลูก กรรมส่งมา นั่นคือสิ่งสำคัญ

    ที่อยู่อาศัยนั้นหมายความว่าถ้าบ้านเจ้าไปอยู่แถวน้ำ อยู่ที่ราบลุ่ม หรือที่อะไร เจ้าควรจะต้องหาที่เหมาะสมกว่านั้นแล้ว เจ้าต้องคิดแล้วใช่ไหม ว่าจะทำอย่างไร ไม่ใช่พอบอกให้รู้แล้วยังเสือก ว่าไม่เป็นไรหรอก ไม่ถึงที่ตายกูยังไงกูก็ไม่ตาย ไม่ตายแต่มึงทรมานไหมล่ะ ลำบากไหมล่ะ อยากลำบากหรือ อย่างนั้นเขาเรียกอวดอุตรินะ ต้องพูดให้ครบ ไม่งั้นพวกเจ้าหาว่าพ่อไม่สอนอีก

    ต่อไป ยารักษาโรค ยารักษาโรคก็คือยาสามัญประจำบ้าน และยาประจำตัวเฉพาะโรคของเจ้า จะต้องมีไว้เพราะถึงเวลาบัดนั้นขัดสนแล้ว เจ้าจะไปหาที่ไหน หมอกล้ามารักษาเจ้าไหม และเจ้ากล้าออกไปหาหมอไหม(ไม่) อัตตาหิ อัตโนนาโถ ท่องเอาไว้เลย ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ไม่ต้องพึ่งใคร ผัวของเรา เมียของเราอย่าไปคิดพึ่งมัน ถึงตอนนั้นมันก็สติจะแตกอยู่แล้ว มันก็ช่วยเราไม่ได้หรอก มันจะช่วยตัวมันเองยังไม่ได้เลย

    และสิ่งหนึ่งที่พ่อจะกล่าวให้เจ้าเตรียมไว้ ก็คือ ด่างทับทิม และ คาลาไมน์ ของกล้วยๆ ง่ายๆ ด่างทับทิมเอาไว้ล้างเท้า เอาไว้ล้างผักหญ้าที่เจ้าจะเอามาทำเป็นอาหาร เพื่อให้มันปลอดจากสารพิษและเชื้อโรค เจ้าสัตว์ตัวน้อยของพ่อ คาลาไมน์นั้นสำหรับทาแก้โรคผิวหนัง เป็นเม็ด ผด ผื่นคัน ไปรักษายาอะไรมันก็ไม่หายหรอกลูก เอาคาลาไมน์ทาทีเดียวหายเลย แต่นั่นหมายความว่า เจ้าจะต้องมีรหัสกรรมในเครื่องยนต์แห่งกรรมของเจ้าต้อง ไม่เกิน 30% คาลาไมน์กับด่างทับทิม ที่พ่อแนะนำเจ้าถึงจะศักดิ์สิทธิ์

    ต่อไปยานพาหนะ เอารถยนต์ดีไหมลูก รถเบนซ์เลย โรลส์รอยด์เลยดีไหมลูก เอาอะไรดียานพาหนะ เรือ ชูขีพ นี่ก็เป็นยานพาหนะใช่ไหม เวลาอยู่ในน้ำลอยตัวแล้วเอามือป๋อมแป๋มๆ มันเป็นยานพาหนะพาเจ้าไปได้หรือเปล่า จักรยานได้ไหมลูก (ได้) จักรยานก็ได้ ปั่นในน้ำไงลูก (แสดงว่า หันไปทางไหนก็มี น้ำชำระล้างโลก)

    เครื่องช่วยชีวิต เช่น ถ้าคนใกล้ตัวเราเป็นโรคหืดหอบ อะไรต่างๆ เหล่านี้ เขาสำนึกบุญแล้ว มันยังมีโอกาสรอด ตอนนั้นมันตกใจ หายใจไม่ทัน มีอ๊อกซิเจนกระป๋องให้มันบ้างไหม ยกตัวอย่างเครื่องช่วยชีวิต เครื่องผายปอด หรือเครื่องกู้ภัยเช่น กาละมังใหญ่ๆ เชือกเส้นยาวๆ เพื่อนเดือดร้อนนะ มีจิตสำนึกช่วยตัวเองได้แล้ว ช่วยเพื่อนบ้าง เหวี่ยงเชือกไปให้มัน ถ้ามันมีบุญเราเหวี่ยงมันจะตรงหัวมันพอดี ถ้ามันไม่มีบุญไปพาดก้านคอมันพอดี พี่ๆ น้องๆ เจ้ากรรมนายเวรจะเอาเหวี่ยงไปให้พันเอง และก็จะช่วยมัน ซึ่งเครื่องช่วยชีวิตและเครื่องกู้ภัยเหล่านี้ปรกติในบ้านเจ้ามีไหมล่ะ (ไม่มี) บิดาถึงย้ำให้เจ้าหาไว้ใกล้ตัว

    เครื่องให้แสงสว่าง ช่วงวิกฤตนั้นไฟฟ้าดับ ไฟฟ้าดับมืด เหมือนอย่างที่อีสานที่เจ้าอ่านข่าวหนังสือพิมพ์เห็นไหม ต้องใช้อะไรลูก เทียนไข จุดดีๆ นะลูก ไม่งั้นเผาบ้านตัวเองอีก อย่างนี้เขาเรียกว่าซวยกลางน้ำ คนอื่นเขาซวยกลางแดด พวกเจ้าจะซวยทางน้ำระวังให้ดี เทียนไขแต่ถ้าไม่งั้นก็ใช้อะไร ตะเกียงน้ำมันใช่ไหม ตะเกียงน้ำมันที่มีฝาแก้วครอบและมีน้ำมันก๊าดใส่ไว้ มันเปลืองไหมล่ะนั่น จุดทั้งคืนยังเปลืองไม่ถึงลิตรเลย ให้แสงสว่างได้ไหม (ได้) ไฟฉายได้ไหมลูก (ได้) เอาไว้ส่องดูหน้าเจ้ากรรมนายเวร

    แล้วในช่วงระยะต้นๆ ใหม่ๆ ที่ชำระโลก สังคมยังปั่นป่วน เศรษฐกิจเริ่มพังพาบ แบงค์ทำงานไม่ได้ ปัจจัยยังสำคัญอยู่ไหม (สำคัญ) อย่าอวดรวยนะลูกเดี๋ยวผู้ร้ายยังอยู่นะ แต่ต้องมีเก็บไว้เพื่อเอาไว้แลกเปลี่ยนใช่ไหม มีบ้างไม่มีเลยคงแย่

    เมื่อเตรียมไว้ในบ้านเรียบร้อยแล้วในสิ่งเหล่านี้ ขอให้พวกเจ้าทุกคน บอกสมาชิกทุกคนในครัวเรือนให้รู้ว่าเก็บอะไรไว้ที่ไหน เข้าใจหรือเปล่า ไม่ใช่กูแอบเก็บไว้กูคนเดียว คนในบ้านไม่มีใครรู้ พอถึงเวลากูละจะซวย เพราะเฮ้ยมึงเอาไฟฉายให้กูหน่อย แล้วมึงไม่บอกกูว่าอยู่ไหน มันเสือกกัดกันก่อนตาย ไม่ใช่ตัดก่อนตายนะลูก กัดกันก่อนตาย หรือกัดกันจนตาย ต้องบอกเขาว่าอะไรอยู่ตรงไหน และแค่นั้นยังไม่พอ บอกรู้แล้วว่าไฟฉายอยู่ตรงนี้ แต่ ๆ ๆ ที่เปิดมันอยู่ไหน เสือกไม่สอนเขาอีก ใช่ไหมไปซื้ออย่างดีมา สวิทซ์มันพิเศษพิศดารใช่ไหม

    เหมือนห้องน้ำ บางคนเข้าห้องน้ำที่นี่ ที่หลังเวทีเข้าห้องน้ำ มันบอกอะไรว่ะก๊อกบ้าที่นี่ไม่มี หัวก๊อกไม่มีสวิทซ์เลย มันใช้อย่างไงนี่ จะให้กูเอาปากอมหรือดูดออกหรือไง ไม่สอนมันนี่ใช่ไหม ไม่เขียนป้ายสอนไว้ ถ้าคนไม่มีปัญญาญาณซวยไหมล่ะ ใช้น้ำได้ไหม(ไม่ได้) คนไม่มีปัญญาญาณกับคนไม่ซุกซน รับรองใช้น้ำที่นี่ไม่ได้ ห้องน้ำนั่นนะ เพราะมันมีแต่หัวก๊อก ตัววาล์วไม่มีใช่ไหม ยอมรับไหมว่าเจ้าตอนแรกเข้าไปก็งงเหมือนกัน เหมือนกับไปพักโรงแรมต่างจังหวัด ถามบ๋อยว่าผ้าห่มอยู่ไหน เสือกนอนทับผ้าห่มอยู่ มันบอกผ้าห่มอยู่ไหน นี่ทีเรื่องโง่ๆ ล่ะฉลาดนัก ทีเรื่องฉลาดแล้วโง่จริงๆ ต้องเปลี่ยนใหม่นะลูก

    เตรียมอย่างที่สอง เตรียมสุขภาพร่างกายไว้ให้พร้อม ไม่ใช่ตอนนี้รู้ว่าใกล้ชำระโลกแล้วยังเสือกทำตัวเจ็บป่วย ปล่อยให้ตัวเองเจ็บป่วยนี่ร่างกายอ่อนแอไหมล่ะลูก (อ่อนแอ) ถ้าร่างกายอ่อนแอ อะไรจะอ่อนแอตามไปด้วย จิตใจของเจ้าจะอ่อนแอตามไปด้วยเมื่อใดเมื่อเจ้าป่วย เมื่อนั้นเจ้าจะติดต่อกับจักรวาลไม่ได้ทันทีเลย เพราะพลังอำนาจไม่เพียงพอ เข้าใจไหม เพราะฉะนั้นทำร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ไว้

    พ่อคงไม่ต้องสอนเจ้าหรอก ทำยังไงให้แข็งแรงสมบูรณ์ เพราะแต่ละคนบางทีก็อ้วนลงพุงเหมือนเครื่องยนต์แต่กรรมนี้ และสิ่งที่จะต้องทำก็คือ กินแต่น้อยและถ่ายแต่น้อย เจ้าว่าจริงไหม อย่าดันเห็นแก่กินอยู่ กินเยอะถ่ายเยอะ ตอนนั้นไม่มีที่จะถ่าย กินแต่น้อยเพื่อให้อยู่ท้องนาน ๆ ไม่ใช่กินทางปากออกทางโน้นเลย แล้วเก็บปฎิกูลของตัวเองไหวไหมล่ะลูก ไหวไหม (ไม่ไหว) นี่ดีนะพวกเจ้าจะตกใจจนสุดขีดเวลาตกใจขี้ไปอยู่ไหนล่ะลูก บางส่วนมันไปอยู่สมอง เลยช่วยเจ้าส่วนหนึ่ง ทำให้ท้องผูก ธาตุปั่นป่วน กินเข้าไปไม่รู้ออกทางไหน ไม่มีที่จะให้ออก มันหายไปอยู่บนนี้หมดแล้ว

    ประการที่สาม คอยสังเกตสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า คือเจ้าจะต้องฝึกตัวเองให้หูไว ตาไว ก่อนที่ภัยจะถึงตัว เช่นขณะนี้เจ้าว่ามันใกล้ตัวเจ้ามาหรือยัง (ใกล้แล้ว) น้ำเหนือ กำลังมาใช่ไหม ตอนนี้ปากน้ำโพกำลังเดือดร้อน ศรีอยุธยาของเจ้า เขาเรียกกรุงศรีอยุธยาใช่ไหม จะเดือดร้อน เดือดร้อนแล้วอีกไม่นานก็ถึงเจ้า ถึงคิว

    ทีนี้ถึงคิวที่เจ้าจะอัศจรรย์ก็คือ ไม่ใช่น้ำเหนือมาอย่างเดียวนะลูก น้ำเหนือจริงๆ(น้ำฝน) เหนือลงมาด้วย เหนือนี่เหนือจริงไหมลูก เหนือนั้นนะไหลมาแบบเหนือๆ ไหลมาแบบปลอมๆ แต่เหนือนี่หนักหน่อยนะลูก แล้วพอมันลงมาเยอะๆ แล้วมันจะไปไหนล่ะลูก ไปไหนได้ไหม (ไม่ได้) น้ำไปไหนไม่ได้ ก็ไม่ต่างจากเจ้าออกจากบ้านไม่ได้เหมือนกัน

    หูไวตาไว เห็นแล้วมันกำลังมาใกล้ตัว แต่ประมาท พ่อกำลังบอกว่าอย่าประมาท เห็นรู้แต่ประมาท คำว่าประมาทแปลว่า ฮึคงไม่มั้ง คงไม่หรอกน่ะ ท่วมแล้วเดี๋ยวเดียวก็ลดละน่ะ หลับเผลอไปนอนบนเตียง ตอนนี้เหลือแค่คืบเดียว ฮึ เดี๋ยวมันคงลดน่ะ หลับไป พอตื่นอีกที เตียงกูก็ลอยหาย ตัวกูก็หาย

    เจ้ารู้ไหมเป็ดที่เจ้าเลี้ยงไว้ มันยังตกใจเลย เคยไหมน้ำมาเร็วขนาดเป็ดตกใจ เคยไหม เคยรู้ เคยเห็นไหม แต่ต่อไปนี้แหละจะได้เห็น เป็ดชอบเล่นน้ำใช่ไหมลูก แต่มันมาเร็วขนาดที่เป็ดหลับๆ อยู่ ป้าปๆ ๆ ๆ ตกใจ เป็ดตกใจ พอลืมตา เฮ้ยที่นี่มันที่ไหน เป็ดจำไม่ได้ว่านี่กูมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง แล้วบ้านกูที่กูนอนอยู่มันอยู่ตรงไหน อย่าว่าแต่พวกเจ้าเลย เป็ดยังตกใจ นี่คือสิ่งที่เจ้าจะต้องเตรียมตัวเอาไว้


    (คัด ลอกบางส่วนมาจากเทปคำบรรยาย จิตจักรวาลอ่านโลก ครั้งที่ 76 โดย อ.ปริญญา ตันสกุล ณ.ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันที่ 15-16 กันยายน พ.ศ.2545 )
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    เทพธิดาน้อย เปิดเผยความลับสวรรค์

    %88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1-11.jpg
    ปี ค.ศ. 1988 (หมินกั๋วปีที่เจ็ดสิบเจ็ด) สถานธรรม "จงซิน" อีโป มาเลเซีย วันที่ 27 มกราคม เวลา 22.20 น. ขณะที่ "ซันไฉ" ทั้งสามกำลังฝึกสมาธิ "ลู่ถง" (พระองค์เซียนกวาง) ก็ได้นำเทพธิดาน้อยในหมวดอักษร "อวิ๋น" จากพระโพธิสัตว์อนุศาสส์ประทับทรงลงมา และนี่เป็นการประทับทรงครั้งแรกของเธอ เทพธิดาน้อยจึงมีอาการเก้อเขิน อยากรู้อยากเห็น แต่ก็คล่องแคล่วน่าเอ็นดูยิ่งนัก เธอเล่าความเป็นมาของตัวเองให้ฟังว่า เมื่อสองชาติก่อน เธอเกิดเป็นหญิงบำเพ็ญอยู่ในเพศชีด้วยความลำบากยากยิ่งตลอดชีวิต ตั้งใจรักษาศีลบริสุทธิ์และเคร่งครัด แต่หลังจากตายไปแล้วเธอก็ยังไม่อาจบรรลุสู่นิพพานได้

    ด้วยเหตุที่เธอเคยสร้างบุญร่วมกับพระอรหันต์จี้กงมาช่วงหนึ่ง ฉะนั้น ในปีหมินกั๋วที่ยี่สิบกว่า เธอจึงได้เกิดใหม่ที่มณฑลซานตงในหมู่บ้านตระกูล "กัน" มีชื่อว่าเด็กหญิงเสี่ยวอวิ๋น พออายุได้สองขวบ ก็ได้พบกับพระธรรมาจารย์กงฉัง (พระภาคจุติของพระอรหันต์จี้กง) พระองค์ได้โปรดทำพิธีถ่ายทอดเบิกธรรมให้ด้วยพระองค์เอง ไม่นานต่อมาเธอก็กลับคืนสู่ความเป็นอมตะร่วมอยู่ในกลุ่มเซียน หมวดอักษร "อวิ๋น" เบื้องบนทรงโปรดประทานอริยฐานะเป็น "อวิ๋นไฉ่เซียนจื่อ" สำหรับคืนนี้เธอได้รับพระโองการจากพระอนุตตรธรรมมารดา และพระเมตตาจากพระอาจารย์จี้กงให้ประทับทรงลงที่สถานธรรมจงซิน เพื่อจะบอกเล่าให้เราทั้งหลา่ยได้รู้ถึงสภาพอันน่าเวทนาสยองขวัญ ตามกำหนด "เจ็ดเจ็ดสี่สิบเก้า" เพื่อให้ศิษย์นักธรรมของพระอาจารย์จี้กงในธรรมกาลยุคขาวนี้ได้รู้ว่า "จะพ้นจากมหันตภัยในยุคสุดท้ายนี้ได้ให้สร้างสมบุญกุศล" เป็นสัจธรรมที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่โบราณกาลมา จากคำบอกเล่าเสียงเจี้ยวแจ้วของ อวิ๋นไฉ่เซียนจื่อ ไม่อาจปิดบังความรู้สึกสลดใจ เจ็บปวดและหวาดกลัวต่อสภาพมหันตภัยที่ได้พบเห็นมาได้

    ทั้งหมดที่เธอเล่า ประมวลความรวมเป็นหัวข้อสำคัญได้ 9 ข้อ อีกทั้งเรื่องราวของ "ฟ้าดินใหม่" (โลกพระศรีอาริย์) ที่เธอเปืดเผยอะไรบางอย่างก็ได้นำมาเรียบเรียงไว้ ณ ที่นี้ด้วย

    1. ก่อนหน้า "เจ็ดเจ็ดสี่สิบเก้า" วันฟ้าดินมืดมิดสองสามวันบรรยากาศของโลกดูสงบเงียบไปทั่ว เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ความเงียบสงัดก่อนพายุฝนจะกระหน่ำ มักจะเป็นความเงียบที่น่ากลัวเสมอ แล้วทันใดนั้น ท้องฟ้าก็เปลี่ยนจากสีฟ้าสว่างเป็นแดงฉาน และกลายเป็นสีเทาขาว จนกระทั่งมืดมิดลง ลมมหาประลัยทำลายสิ่งปลูกสร้าง คน และสัตว์ทั้งหมดให้กลายเป็นจุล มหาจุล ลงในพริบตา

    2. โลกทั้งโลกตกอยู่ในความมืดมิด จนมองไม่เห็นสิ่งใดเลย ไม่มีแสงสว่างจากดวงไฟใด ๆ ทั้งสิ้น พลังงานไฟฟ้าจากเครื่องมือวิทยาศาสตร์ทุกอย่างใช้การไม่ได้หมด ต่อจากนั้นก็จะเกิดพายุและลมฝน เสียงฟ้าร้องและสายฟ้าฟาดไม่ขาดสาย ห่าฝนเม็ดสีแดงจะเทลงมาจากฟากฟ้า โลกจะตกอยู่ในความมืดมิดของรัตติกาลนานถึงสี่สิบเก้าวัน

    3. มีเพียงโคมไฟสามดวงในพุทธสถานเท่านั้น ที่ให้แสงสว่างได้ รอบนอกสถานธรรมได้ถูกห่อหุ้มปกป้องด้วยรัศมีสีม่วงโดยทั่ว เมื่อนั้น คนที่บำเพ็ญโดยแท้จริง และคนดีที่ยังไม่ได้รับการถ่ายทอดวิถีธรรม ก็จะได้รับการดลใจชักนำให้เข้ามาหลบภัยในพุทธสถาน ในที่นั้นหากมีท่านธรรมอธิการอาวุโส (เฉียนเหยิน) หรืออาจารย์ผู้ถ่ายทอดเบิกธรรมอยู่ด้วย ก็อาจจะช่วยชี้ธรรมให้คนเหล่านั้นได้ คนที่มีกุศลบารมีสูงก็จะได้รู้แจ้งในทันที และนั่นอาจจะเป็นแสงอาทิตย์ลำสุดท้ายที่จะโปรดสัตว์ในธรรมกาลยุคขาวก็ว่าได้ คนที่ไม่เคยร่วมบุญกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์ใดมาก่อนเลยเกรงว่าจะต้องตายด้วยภัยพิบัตินั้นทันทีทีเดียว หรือถึงแม้จะรอดพ้นไปได้ แต่วิถีอนุตตรธรรมก็สิ้นสุดวาระการถ่ายทอดเสียแล้ว

    4. ส่งเสริมให้ญาติธรรมทั้งหลายสร้างพุทธสถานกันมาก ๆ แม้จะมีไว้เพียงเพื่อตนเองจะได้กราบเช้าเย็นก็ยังดี หนึ่ง เพื่อให้ทุกบ้านเป็นสถานแห่งพุทธะสมดังพุทธปณิธานโดยเร็ว สอง เมื่อถึง "วันสุดท้ายฯ" พุทธสถานจะได้มีไว้เป็นที่หลบภัยของสาธุชนกันให้มาก ๆ เพราะพุทธสถานจะเป็นเสมือน "เมืองในม่านเมฆ" สำหรับผู้ใฝ่ธรรม

    5. สภาพโลกภายนอกของพุทธสถาน คือ ภูเขาถล่มแผ่นดินแยก เจ้ากรรมนายเวรของคนทั้งหลายที่เป็นหนี้ติดค้างกันถึงหกหมื่นปีมาแล้วจะลุกฮือกันออกมาเอาชีวิต วิญญาณทวงหนี้กัน แม้ผู้คนจะพ้นจากมหันตภัย แต่ก็อาจต้องตายด้วยเจ้ากรรมนายเวร สภาพนั้นจึงเป็นมหาโหด มหาวิปโยค เสียงร่ำไห้กู่ร้องครวญคราง เสียงผีสาง เทพ พรหม ระงมก้องไปทั่ว เป็นที่น่าเวทนายิ่งนัก

    6. เหล่าภูตสางนางไม้ในป่าเขาในบาดาล เหล่าพญามาร อสูรทั้งหลาย ก็จะแปลงกายเป็นพระศรีอาริย์ เป็นพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์กวนอิม เป็นพระอาจารย์จี้กง หรือพระอริยเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย สำแดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เรียกลมเรียกฝน เสกหว่านเมล็ดถั่วให้กลายเป็นกองทัพ ฯลฯ จะอวดอ้างศักดานุภาพว่าจะสามารถพาผู้คนให้พ้นจากลมมหาประลัย มุ่งคืนไปสู่สุทธาวาสเบื้องบนได้ สิ่งเหล่านี้มีมาเพื่อหลอกล่อผู้ปฏิบัติธรรมโดยเฉพาะ เมื่อถึงเวลานั้น ให้เราทั้งหลายจงตั้งมั่นอยู่ในศรัทธาจิตเช่นเดิม อย่าได้โลภหลงตามไปเป็นอันขาด พอขยับใจไขว้เขวแม้เพียงขณะจิตหลงตามไป บุญกุศลที่สร้างมาก็จะหมดไป

    ดังคำที่ว่า "ใกล้จะบรรลุธรรมยามเที่ยง แต่มาเพลี่ยงพล้ำเสียก่อนเมื่อตอนสาย" จะขึนหรือลงจึงอยู่ที่หัวเลี้ยวหัวต่อตรงนี้ ที่แอบอ้างตัวว่าเป็นพระบรรพธรรมาจารย์ มาเก็บงานธรรมอยู่ในขณะนี้นั้นเป็นเพียงมารเล็ก ๆ เท่านั้น ไม่น่าแปลก ต่อเมื่อวันที่มหันตภัยเกิดแล้วนั่นแหละจะน่ากลัว เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงพระองค์ต่างมุ่งอยู่แต่งานช่วยคนให้พ้นภัยพิบัติ ไม่มีเวลาที่จะมาแสดงอิทธิฤทธิปาฏิหาริย์ล่อใจใครให้กราบไหว้ได้เช่นนั้น พระพุทธะตรัสไว้ว่า "แรงแห่งมารหาญกล้สกว่าพุทธะ" พระอาจารย์จี้กงก็ตรัสไว้ว่า "พระอาจารย์ปลอมมีอิทธิฤทธิปาฏิหาริย์แกร่งกล้ากว่าพระอาจารย์จริงเสียอีก หวังว่าหญิงชายทั้งหลายจะได้ร่วมกันบำเพ็ญธรรม อย่าลืม อย่าลืม คนที่บำเพ็ญด้วยความจริงใจ เมื่อถึงเวลานั้น หากจะสงบใจพิจารณาด้วยปัญญา ก็จะเห็นแจ้งว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงหรือปลอม" จะเห็นใบหน้าสีเขียวเขี้ยวโง้งของปีศาจในร่างพุทธะได้โดยไม่ต้องเทียบเคียง

    7. วันที่ทรมานที่สุด จะมีสองช่วง

    1. วันที่ 24 , 25 , 26 ของช่วง "เจ็ดเจ็ดสี่สิบเก้าวัน" เพราะช่วงนั้นอาหารที่สะสมไว้จะหมด คนที่กินเจจะยังอดทนต่อความหนาวเหน็บ ส่วนคนที่กินเนื้อสัตว์จะทรมานมาก

    2. ช่วงนี้จะอยู่ระหว่างวันที่ 50 ถึง 70 เพราะสรรพสิ่งทั้งหลายจะถูกเคลือบด้วยพิษของ กัมมันตภาพรังสี ซากศพเกลื่อนกลาด คนเคราะห์ดีก็ยังมีชีวิตอยู่ยังจะต้องทำหน้าที่ฝังศพ คนที่กินเจจะยังมีกำลังอยู่ได้ ส่วนคนที่กินเนื้อสัตว์จะอยู่ได้อย่างไร ดังนั้น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จึงได้ประทานพระโอวาทคำเตือนไว้นานมาแล้วว่า "หลังจากมหันตภัยกวาดล้างโลกนี้ กลายสภาพเป็นตมไปแล้ว จะเหลือแต่พระอรหันต์เดินดินที่ไม่กินเนื้อสัตว์" เป็นคำเตือนที่ชัดเจนแน่นอนที่สุดทีเดียว

    8. หลังจากกวาดล้างแล้วก็จะเป็นการสร้างบ้านสร้างเมืองใหม่ มนุษยชาติจะเริ่มเบิกวิถีด้วยอารยธรรมใหม่ นั่นคือ มีคุณธรรมและมีคุณสัมพันธ์ระหว่างกันเพื่อจดจำบทเรียนที่ได้รับจากภัยพิบัติ ปรัชญาความคิดของท่านบรมครูขงจื้อและเมิ่งจื้อจะเป็นที่เทิดทูนศรัทธาทั่วโลก ความจริงใจรักใคร่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันจะเป็นปฏิญญาที่ทุกคนรักษาไว้ร่วมกัน สำหรับผู้บำเพ็ญอนุตตรธรรมที่บุญกุศลไม่เพียงพอ หรือศาสนิกของศาสนาต่าง ๆ จะคงอยู่เป็นเผ่าพันธุ์ของโลกใหม่ในธรรมกาลยุคขาวต่อไป ส่วนผู้บำเพ็ญอนุตตรธรรมที่บุญกุศลสูงส่ง และศาสนิกชนของศาสนาต่าง ๆ ที่บำเพ็ญได้ดียิ่ง สิ่งศักดิ์สิทธิ์และทูตสวรรค์จะมาต้อนรับคืนสู่อนุตตรแดนนิพพาน ร่วมงานฉลองอริยะ "หลงฮว๋า" เสวยสุขแห่งชาวสวรรค์ร่วมกัน

    9. พระศรีอริยเมตไตรยจะเสด็จสู่โลกมนุษย์อีกครั้งหนึ่งในศุภวาระนี้ จะทรงเปิดเผยให้เห็นฉากสำคัญอันศักดิ์สิทธิ์ของพระอรหันต์แห่งธรรมกาลยุคขาวนี้ จะทรงประทานอริยฐานะตามระดับมรรคผลกุศลบุญ จากนี้โลกแห่งสันติสุขเยี่ยงสมัยพระเจ้า "เหยาซุ่น" หรือโลกพระศรีอาริย์ก็ได้เบิกวิถี ณ บัดนั้น

    ที่มา http://www.nakdham.org/webboard/index.php?topic=3810.0
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    สภาพวันสุดท้ายของโลก

    tsar-bomba-06.jpg

    วันที่ 30 มกราคม เวลา 17.10 น. เอี้ยนอี๋ (ดรุณีน้อยเทียนไฉ) ปวดท้องจึงขึ้นไปนอนพักบนเตียง จิตก็ได้ออกจากร่าง ติดตามพระอาจารย์ขึ้นไปเหนือเมฆ มองดูภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า สภาพอันน่าเวทนาเมื่อเวลาระเบิดนิวเคลียร์ระเบิดขึ้น ระเบิดนิวเคลียร์ลูกหนึ่ง ได้ยิงไปตกลงยังเมือง ๆ หนึ่ง หัวระเบิดได้ระเบิดขึ้นกลางอากาศ เกิดเปลวไฟและแสงสว่างอันแรงกล้า แล้วทันใดนั้นมันก็ทำลายสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่ทั้งหมดลงชั่วพริบตาพร้อมกับเสียงดังกัมปนาทและแรงสะเทือนอย่างรุนแรงจากแรงระเบิด ความกดอากาศเปลี่ยนแปลงทันที คนและสัตว์ทั้งหลายบาดเจ็บและล้มตายลงนับจำนวนไม่ถ้วน ทุกหนทุกแห่งเห็นแต่ภาพน่าอนาถ กลุ่มควันที่เหมือนเมฆสีดำรูปดอกเห็ดขยายตัวขึ้นสู่ท้องฟ้าสีดำมืด และมีกลิ่มเหม็นอย่างร้ายกาจ อากาศในขณะนั้นให้ความรู้สึกอึดอัดเหมือนกำลังจะขาดใจตาย บริเวณที่ได้รับความเสียหายกว้างไกลออกไปไกลถึงร้อยกว่ากิโลเมตร ส่วนกัมมันตภาพรังสีนั้น ครอบคลุมไปไกลถึงหลายร้อยกิโลเมตร คนที่ไม่ตายด้วยไฟและแสงหรือจากแรงระเบิด ก็วิ่งพล่านกระเจิดกระเจิงไป เสียงเรียกพ่อเรียกแม่ กรีดร้องก้องฟ้าเป็นที่น่าเวทนาหาที่เปรียบไม่ได้เลย

    ทันใดนั้น เมฆบนท้องฟ้าก็เคลื่อนไหวม้วนตัวอย่างรวดเร็ว ท้องฟ้าเปลี่ยนจากสีแดงเรื่อ ๆ เป็นแดงคล้ำ แล้วกลับกลายเป็นสีเทาขาว แล้วในทันทีก็เปลี่ยนเป็นสีเทาดำและดำมืด ถึงตอนนั้น แม้จะชูมือขึ้นตรงหน้าก็มองไม่เห็นนิ้วมือทั้งห้าได้ คนที่ยืนอยู่ต่อหน้ากันก็มองไม่เห็นกัน พระอาจารย์ตรัสไว้ว่านั่นคือ "เจ็ดเจ็ดสี่สิบเก้า" วันอันยาวนานที่รัติกาลมาสู่โลก เวลาอันน่าสะพรึงกลัวเริ่มแล้ว ณ บัดนี้ วันที่ 30 มกราคม เวลาเช้า 9.00 น. อันเป็นเวลาฝึกสมาธิ ดรุณีน้อยเอี้ยนอี๋ ก็ได้ถอดจิตติดตามพระอาจารย์จี้กงไปดูสถานที่เกิดเหตุมหันตภัยต่อไป ขณะนั้น ลมมหาประลัย โหมมาทั้งสี่ทิศพร้อมกันตึกใหญ่ ๆ ที่ยังไม่ได้พังทะลายทั้งหมด ท่ามกลางแรงระเบิด และแสงไฟโชติช่วงได้พังครืนลงมาหมด เสียงดังสนั่นหวั่นไหว แม้แต่ต้นไม้ใหญ่ขนาดสิบคนโอบรอบ ก็ถอนรากถอนโคนล้มลงระเนระนาด ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในสายตาล้วนเป็นสภาพที่น่าเวทนายิ่งนัก แล้วเธอก็ได้พบเห็นหมู่บ้านใหม่แห่งหนึ่งตรงกลางเป็นพุทธสถาน บ้านเรือนที่อยู่ในรัศมีโดยรอบหลายร้อยเมตร ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีม่วงเรืองรอง ผู้คนที่อยู่ในพุทธสถานและภายใต้การห่อหุ้มของแสงสีม่วงพ้นภัยโดยทั่วกัน

    ส่วนที่อยู่ห่างไกลออกไปแต่เป็นคนมีจิตใจดี ดูเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะดลใจให้เขาวิ่งเข้ามาหลบภัยในพุทธสถานด้วย โลกภายนอกมืดมิดไปทั่ว ไม่มีแสงสว่างจากไฟฟ้า หรือดวงไฟจากสิ่งใดเลย สายฟ้าแลบพร้อมกับฟ้าคะนอง หยดน้ำสีแดง ๆ เหมือนสายฝน แต่มิใช่ โกรกลงมาจากฟ้า แต่ละหยดมีน้ำหนักเหมือนเศษแก้ว กลิ่นเหม็นเอียนจัดเหมือนยาพิษร้ายแรง มันทะลุผ่านอิฐ หิน ปูนเหล็กกล้าและทุกอย่าง แต่ที่น่ามหัศจรรย์ก็คือ เมื่อมันหยดลงมาบนรัศมีครอบที่เป็นสีม่วง มันจะสลายตัวหายไปจนหมดสิ้น ในตำหนักพระมีพุทธประทีป 3 ดวง บนแท่นบูชาสาดส่องประกายไฟอยู่สว่างไสว ไม่นานต่อมา เธอก็แลเห็นพื้นดินแยกออกเป็นร่องลึกใหญ่ทั่วไป ผีนรกทั้งหลายกรูกันออกมาจากรอยแยกเหล่านั้น ทุกคนดูกระเหี้ยนกระหือรือ พอเห็นศัตรูคู่อาฆาตลูกหนี้ในชาติก่อนของเขา ก็ฉุดกระชากลากตัวลงไปในร้่องลึกใต้ดินทันที โดยไม่มีการพูดจาต่อรองใด ๆ เป็นภาาวะที่ผีครวญคร่ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ร่ำร้องโดยแท้ สยองขวัญยิ่งนัก พระอาจารย์บอกหนูเอี้ยนนอี๋ว่า นั่นคือการหักล้างบัญชีครั้งใหญ่ ในรอบหกหมื่นปีที่ผ่านมา


    วันที่ 31 มกราคม เวลาบ่าย คณะผู้ปฏิบัติธรรม กำลังเดินทางโดยรถยนต์จะไปยังพุทธสถานที่คาเมรอน ไฮแลนด์ ดรุณี "ซันไฉ" ทั้งสามก็ร่วมเดินทางไปด้วย เวลา 14.50 น. ระหว่างการเดินทาง เทพธิดาน้อย "อวิ๋นไฉ่เซียนจื่อ" ก็ประทับทรง แล้วพระอาจารย์จี้กงก็นำหนูเอี้ยนอี๋ไปดูเหตุการณ์วันมหาวิปโยคที่ยังค้างอยู่ ต่อไป ...ทันใดนั้น เธอก็เห็นสถานที่แห่งหนึ่ง ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีม่วงเหมือนกัน แต่รัศมีรอบวงค่อนข้างมัวหมองเหมือนถ้ำ และเหมือนบ้านเก่า ๆ ภายในบริเวณไม่มีแท่นที่บูชาพระ มุมหนึ่งในบริเวณนั้นมีไหวางเรียงอยู่หลายใบ ไหทุกใบมีฟองเหมือนน้ำและเหมือนน้ำมันปุดขึ้นจนล้นออกมาฟองเหล่านั้นมีแสงเรื่อ ๆ ให้ความรู้สึกที่ไม่สบา่ยใจเลย บนผนังบ้านติดยันต์ไปหมด ดูอึมครึมน่ากลัว

    พระอาจารย์บอกว่า "ที่นั่นเป็นเมืองในม่านเมฆจอมปลอม เป็นถ้ำมาร ที่ปีศาจมารร้ายจำแลงไว้ล่อใจคนโลภหลงให้เข้าไปติดกับ ไม่นานนักเธอก็แลเห็นพระศรีอาริย์ลอยลงมาจากฟากฟ้าหัวร่อร่าร้องเรียกผู้บำเพ็๋ญอนุตตรธรรมและคนทั้งหลายที่ยังไม่ทันได้เข้าไปหลบภัยในพุทธสถานที่แท้จริงว่าให้ติดตามเรามา เจ้าจะหลบเลี่ยงภัยพิบัติได้ อีกทั้งแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ให้แสงสีม่วงห่อหุ้มพวกคนให้พ้นจากการทำลายของฝนพิษได้ เท่านั้นยังไม่พอ ยังมาตะโกนเรียกผู้บำเพ็ญอนุตตรธรรมที่หลบภัยอยู่ในตำหนักพระภายใต้ครอบแสงสีม่วงให้ตามไป จะได้ยกระดับและมอบหมายตำแหน่งงานธรรมขั้นสูงให้ ใครก็ตามที่หลงเชื่อตามไปในครั้งนี้ ก็จะไม่มีวันได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป โดยแท้จริงแล้ว คนที่เข้าสู่พุทธสถานแล้ว ภัยพิบัตินั้นมิอาจเข้ามาทำลายได้เลย เมื่อถึงเวลานั้น คนที่บำเพ็ญอนุตตรธรรมจงพึงระวังตัวไว้ให้รอบครอบทีเดียว เพื่อให้รู้แน่ว่าพระศรีอาริย์องค์ไหนจริงหรือปลอมอย่างไร พระอาจารย์จี้กงสอนให้หนูเอี้ยนอี๋สงบใจ แล้วพระองค์ก็ใช้พัดวิเศษโบกไป พระศรีอาริย์นั้นก็เผยโฉมเดิมให้เห็นทันที กลายเป็นร่างผอมเกร็งเหมือนผีดิบ นันย์ตาโปนเหมือนปลาทอง ลูกใหญ่เท่ากระดิ่ง จมูกมีแต่รูโหว่ ผมตั้งซัน เขี้ยวโง้งออกมาจากปากกว้างสีเลือด มือหนึ่งถือมีดปลายแหลมอันยาว อีกมือหนึ่งถือยันต์ หน้าตาท่าทางน่ากลัว เห็นชัดว่าไม่ใช่พระศรีอาริย์องค์มหาเมตตาธรรมแน่ ๆ

    วันที่ 3 กุมภาพันธ์ เวลาบ่ายสองโมงโดยประมาณ พระอาจารย์จี้กงพาหนูเอี้ยนอี๋ ไปดูเหตุการณ์วันมหาวิปโยค ต่อไป แม้จะผ่านช่วงสี่สิบเก้าวันอันยาวนาน และน่าสะพรึงกลัวไปได้แล้วก็ตาม แต่โลกก็ยังตกอยู่ในความมืดมิด ต่อมา จึงค่อย ๆ สว่างขึ้นทีละน้อย เห็นศพเกลื่อนกลาดกองพะเนิน มีแต่หัวขาด ขาขาด แขนขาด หรือตัวขาดเป็นท่อน จนแทบไม่มีศพเต็มร่างเลย โลหิตสีดำคล้ำท่วมนองไหลมารวมกันจนเหมือนแม่น้ำเลือด กลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้งไปทั่วจนอยากอาเจียน พูดได้ว่า มันคือนรกในโลกมนุษย์จริง ๆ พระอาจารย์จี้กงของเราเจ็บปวดรวดร้าวใจ น้ำตาไหลจนชุ่มอกจีวรที่ขาดวิ่นของพระองค์ ไม่นานต่อมา แสงสีม่วงที่ครอบพุทธสถานก็ค่อย ๆ จางไป ญาติธรรมทั้งหลายพากันออกมาภายนอกได้แล้ว

    โลกทั้งโลกเงียบสงัดสัตว์ที่หลงเหลืออยู่ได้มีเพียงประเภทเดียว คือสัตว์ที่กินหญ้า หรือกินผักเป็นอาหาร คือกระต่าย แพะ แกะ วัว ควาย และม้าเท่านั้น จากนี้คือความทุกข์ยากหลังจากเกิดมหันตภัย วันที่ห้าสิบถึงเจ็ดสิบ คนที่ไม่ได้ถือศีลกินเจมาก่อน ยากที่จะผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้ เพราะทุกแห่งในโลกล้วนอาบไปด้วยพิษของกัมมันตรังสี พืชพันธุ์ธัญญาหารไม่มีอะไรเหลือเลย ผู้ืที่ทนความอดอยากไม่ได้ ผู้ที่กินเจเฉพาะวัน หรือไม่ได้กินเจ แต่โชคดีที่รอดพ้นสี่สิบเก้าคืนมาได้ ภายในร่างกายของเขายังมีสิ่งสกปรกหลงเหลืออยู่ อีกทั้งอารมณ์โหดจะเกิดขึ้น พวกคนเหล่านี้จะฉีกเนื้อกระต่าย แพะ แกะ วัว ควาย หรือม้ากินดิบ ๆ ได้ และไม่นานต่อมา เขาก็จะต้องตายเพราะสารพิษ พระอาจารย์ได้โปรดเมตตาบอกว่า มีแต่คนที่กินเจเท่านั้นที่จะอยู่รอกดจากความอดอยากหลังจากภัยพิบัติใหญ่แล้วจริง ๆ

    วันที่ 5 กุมภาพันธ์ เวลาเที่ยง พระอาจารย์ก็ได้โปรดนำหนูเอี้ยนอี๋ ไปดูเหตุการณ์วันมหาวิปโยคต่อไป ขรธนั้นท้องฟ้าสว่างแล้ว ทุกสิ่งบนพื้นโลกมีแต่ซากที่ถูกทำลายล้าง แผ่นดินที่แยกออกปิดเข้าหากันแล้ว เหลือแต่รอยแยกเป็นทาง ๆ แม่น้ำเลือดที่ไหลนองก็แห้งลง และซึมลงไปในดิน ทุกอย่างที่เห็นน่าสะอิดสะเอียน น่าสมเพชเวทนา น่าอนาถใจ คนถือศีลกินเจทั้งหลายเริ่มจะลงมือเก็บฝังหรือเผาซากศพกันอย่างเป็นการเป็นงาน เมื่อหิวกระหายก็เพียงแต่ใช้นิ้วจุ่มน้ำทิพย์ที่บูชาแตะลงที่ปลายลิ้น แล้วคนเหล่านั้นก็ประทังชีวิตอยู่กันต่อไปได้อย่างไม่เดือดร้อน คนที่ยังไม่เคยกินเจตลอดเสมอมา จะไม่กล้าเดินออกนอกตำหนักพระเลยแม้สักก้าวเดียว พระอาจารย์เห็นสภาพเช่นนี้แล้วน้ำตาที่เหมือนสายเลือดก็ไหลท้วมท้นออกมาอีก

    วันที่ 8 กุมภาพันธ์ เวลาเที่ยง หนูเอี้ยนอี๋ก็ติดตามพระอาจารย์ไปดูเหตุการณ์วันมหาวิปโยคฉากสุดท้าย ต่อไป ขณะนั้น ทั้งการเก็บฝังและเก็บเผาซากศพจะแล้วเสร็จไปเสียส่วนใหญ่ แสงสีม่วงนอกจากจะปกป้องรอบ ๆ อาณาบริเวณพุทธสถานแล้ว ยังรวมทั้งต้นไม้ใบหญ้าและสิ่งปลูกสร้างในวงรอบรัศมีอีกด้วย ส่วนรอบนอกนั้นราพนาสูรไม่เหลืออะไรเลย ความเจริญทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมดถูกทำลายหมดสิ้นและใช้การอะไรไม่ได้อีกเลย จากนั้น ฟ้าดินก็ค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาวะของธรรมชาติตามปกติ ตะวัน เดือน ออกมาส่องแสงเช่นเดิม มีลมมีฝน แม่น้ำลำคลองก็เต็มไปด้วยน้ำใสไหลล่อง ผู้คนเริ่มสร้างบ้านเรือนเป็นที่พักอาศัยหลบฝน และเริ่มงานทำไร่ไถนากันอย่างขะมักเขม้น เช้าก็ออกไปนา เย็นก็กลับมาบ้าน ชีวิตแม้จะไม่ว่างทางแรงกาย แต่ก็มั่นคงเป็นสุขใจ ผู้คนต่างอยู่ร่วมกันด้วยอัธยาศัยไมตรี ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่มีการวิวาทบาดหมาง แย่งชิง โลกทั้งโลกเต็มเปี่ยมด้วยพลังของชีวิต และเป็นระเบียบแบบแผนอันดีงามเหมือนโลกใหม่โดยแท้


    ที่มา http://www.nakdham.org/webboard/index.php?topic=3810.0
     
  9. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    เขากะลา เตือนภัยระเบิดนิวเคลียร์


    เผยแพร่เมื่อ 15 ธ.ค. 2014
     
  11. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    วันนี้24มีนา...วันเลือกตั้ง แต่ประชาชนน่าจะได้ "เลือก" อย่างเดียวนั่นแหละ...ส่วน "ตั้ง" นี้คนที่ถูกเลือกเขาจัดการกันเอง

     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    เตรียมรับมือ! หมอดูตาบอดทำนายระทึก ปี 2562 ซึนามิจะถล่มเอเซีย


    เผยแพร่เมื่อ 3 ม.ค. 2019
     
  13. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    IMG20190325121159.jpg
    ไปช่วยทำห้องน้ำที่วัดบนเขา...มันก็จะเหนื่อยและร้อนหน่อยนะช่วงนี้...
     
  14. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,268
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ตกลงการเมืองไทยป่นปี้ เพราะพรรคเพื่อทักษิณ หรือ ป่นปี้ เพราะพรรค กลัวทักษิณกันแน่ ที่ทำทุกวิถีทาง เพื่อที่จะทำให้ ฝ่ายทักษิณไม่กลับมามีอำนาจ ตอนนี้การเมืองไทยน่าเบื่อมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2019
  15. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    งง. ไรจั๊บ

    หากยังไม่ถึง. วันที่ 9. พ.ค.
    ก้อย่าพึงเสพข่าว การเมือง

    การรวม. พรรคพวก. ไม่มีผล
    เพราะ. ตัวเลขจำนวน. สส ยัง
    เคลื่อนไหวได้

    แล้วยังมี หมากปะลิง. บัตรปลอม. จำนวนมาก
    บัตรเสีย. ก้มาก. ขานบัตรผิด.

    การจะ. ชง ให้การเลือกตั้งเปน. โมฆะ
    ง่ายเหมือน. มะม่วงสุก. ที่พร้อมปลิดจากขั้ว

    หาก พรรคไหนทะลึ่ง. ใช้..เองูอิหนู...ช่วงนี้
    ดึง. สส

    เสียเปล่า. หาใหม่ไม่ทัน. เอาดื้อๆ
     
  16. TheKunKeng

    TheKunKeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2015
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +919
    การเมืองก็เหมือน เป็นเกม เกมหนึ่ง ถ้าเราหลงติดกับ เข้าไปในของเกมการเมือง ก็เหมือนเราได้เข้าไปเล่นเกม เกมนี้...และเราก็คงเป็นได้แค่เบี้ย(ล่าง) ไม่ได้เป็นหมาก ตัว(ละคร)หลักของพวกเค้าหรอกอะนะ =..=
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    คำทำนายนางสงกรานต์ ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ น่ากลัวสุดๆ !!!

    Post_005-1.jpg

    วันมหาสงกรานต์ ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน เวลา 15 นาฬิกา 14 นาที 24 วินาที จันทรคติตรงกับ วันอาทิตย์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือนห้า(๕) ปีกุน

    นางสงกรานต์นามว่า นางทุงสะเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกทับทิม อาภรณ์แก้วปัทมราช(ทับทิม) ภักษาหารอุทุมพร(ผลมะเดื่อ)
    หัตถ์ขวาทรงจักร หัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จนั่ง มาเหนือหลังครุฑ เป็นพาหนะ


    เกณฑ์พิรุณศาสตร์ ปีนี้ พฤหัสบดี เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 500 ห่า ตกในเขาจักรวาล 200 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 150 ห่า ตกในมหาสมุทร 100 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 50 ห่า

    เกณฑ์ธาราธิคุณ ชื่อ ปฐวี(ธาตุดิน) น้ำอุดมสมบูรณ์ดี

    เกณฑ์นาคราชให้น้ำ ปีกุน นาคราชให้น้ำ 5 ตัว ทำนายว่า ฝนต้นปีงาม กลางปีน้อย แต่ปลายปีมากแล ฯ

    เกณฑ์ธัญญาหารชื่อ วิบัติ ข้าวกล้าในไร่นา จะเกิดกิมิชาติ คือ มีด้วงแมลงรบกวน ข้าวกล้า จะได้ผล 1 ส่วน เสีย 5 ส่วน

    บ้านเมืองจะเกิดยุทธสงคราม จะฆ่าฟันกัน จะนิราชจากกัน จะฉิบหายเป็นอันมากแล ฯ

    วันอาทิตย์ เป็นวันมหาสงกรานต์ : ไร่นาเรือกสวน เผือกมัน มิสู้แพงแล ฯ
    วันจันทร์ เป็นวันเนา : เกลือจะแพง นางพระยาจะร้อนใจ มักจะเกิดความไข้ต่าง ๆ
    วันอังคาร เป็นวันเถลิงศก : อำมาตย์มนตรีทั้งปวงจะอยู่เย็นเป็นสุข แม้จะต่อยุทธ์ด้วยปัจจามิตร ณ ที่ใด ๆ ก็จะมีชัยชนะทุกเมื่อแล ฯ
    นางสงกรานต์ นั่ง : จะเกิดความเจ็บไข้ ผู้คนล้มตายและเกิดเหตุเภทภัยต่างๆ


    ที่มา https://www.myhora.com/ปฏิทิน/ประกาศสงกรานต์-พ.ศ.2562.aspx
     
  18. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,268
    ค่าพลัง:
    +5,219
    คำทำนายนางสงกรานต์ดูเข้ากับสถานการณ์มาก หวาดเสียวว่าอาจจะกิดสงครามกลางเมืองเพราะปัญหาความขัดแย้งในช่วงนี้
     
  19. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,268
    ค่าพลัง:
    +5,219
    มีต้นโพธิ์ งอกที่บ้านผมอีกละ ผมควรมั่นใจได้แล้วใช่มั้ยว่าตัวเองปรารถณาพุทธภูมิ มาก่อน จริง ๆ
     
  20. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391

แชร์หน้านี้

Loading...