ความหมายของจิตคือพุทธะเสมอเหมือนกันที่วิมุติ (พระสูตร)

พอผละจาก ไซทนี้ ไป ไซร์ซอกโน้น เอ๊อะ !! มีคนโพส "ของกลาง" ซะงั้น

ไหนๆ ก็ไหนๆ จัดไปให้ สะเทือนถึง ดวงดาว

<quote>
พุทธวจน

อานนท์ ! ถ้าเมื่อภิกษุนั้น... จิตน้อมไปเพื่อการนอน , เธอก็ นอนด้วยการตั้งใจว่า
“บาปอกุศลธรรมทั้งหลาย กล่าวคือ อภิชฌาและโทมนัส
จักไม่ไหลไปตามเราผู้นอนอยู่ด้วยอาการอย่างนี้” ดังนี้ :
ในกรณีอย่างนี้ ภิกษุนั้น ชื่อว่า เป็นผู้มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อมในกรณีแห่งการนอนนั้น.
</quote>

 

เล่าให้ฟังเล่นๆ

ข้อมูลจาก Wikipedia
เอตคัคคะ มีทั้ง
ภิกษุ ๔๑ ภิกษุนี ๑๓ อุบาสก ๑๐
อุบาสิกา ๙
รวมกันแล้วเนี่ย ๗๓ ท่านในหลายๆด้าน
ที่คล้ายคลึงกันก็มี

ถ้าเป็น Fc พระอานนท์
ก็ควรต้องรู้จัก นางขุชชุตตรา

เป็นFc พระสารีบุตร
ก็ควรต้องรู้จัก พระเขมาเถรี
พระราหุล พระมหากัจจายน
พระราชเถระ พระพาหิยะฯ

เป็น Fc พระโมคคัลลานะ
ก็ควรต้องรู้จัก พระอุบลวรรณาเถรี
รู้จักพระนางยโสธรา
พระปิณโฑลภารทวาช
พระจูฬปันถก พระมหาโกฎฐิ
พระโสภิต
พระภัททกาปิลานี


เป็น Fc พระอนุรุทธ
ควรต้องรู้จัก พระสกุลาเถรี

หรือชอบทางเตโชธาตุ
ก็ควรจะต้องรู้จัก
พระสาคตเถระ


และ เอตทัคคะอีกฯลฯ
ชอบใครแสดงว่าจิตพอมีเชื้อ
พูดง่ายๆว่ามีแววจะไปได้เร็ว

แต่มีเชื้อถ้าทิ้งไม่เป็น
หมายความว่า มีความชอบ ยังเผลอยึดอยู่
ก็จะทำให้เป็นไปตาม จริต
วิสัย หรือ วิบากอย่างหนึ่งอย่างใดได้อยู่
ก็ตามอัธยาศัย และเหตุปัจจัยส่วนตนครับ

ปล แต่แปลกใจว่า. สายปี๋แปะ
ดัดแปลงตำรา แปลมั่วซั่ว
ยกตำราเข้าตัว ปฎิเสธคำสาวก
กับ สายสัญญา ทิฐิ สติ เห็นต่างคนอื่น
ที่บอกว่ารับเงินสงฆ์ ป้องกันพระอาบัติ
ที่พระทำอะก็ไม่เหมาะสม
ยังมีวกเวียนสร้างวิบากกรรมหมู่
ตามสื่อต่างๆ
อยู่เรื่อยไป
ประหลาดเนาะ


สมมุตินะ
พูดแบบให้คิด
ก่อนจะกล่าว
อ้างอะไรที่ไม่ควรกล่าว

ถ้าผมบอกว่า
เป็น Fc พระโมคคัลลานะ
เอะอะอ้างท่านตลอดหรือ
กล่าวถึงท่านตลอด พูดถึงให้ชาวโลกฟัง
ประหนึ่งว่ารู้จักท่านดี แล้วมีคนมาถามว่า
พี่เคยได้ยินชื่อ พระปิณโฑลภารทวาชไหม
แล้วผมตอบว่าท่านเป็นใครวะ
กรือมีคนมาถามว่า พี่พระมหาโกฏฐิ
ท่านเด่นด้านไหนพี่ แล้วผมตอบว่า
ตรูไม่รู้ ท่านเป็นใครหรือ?

หรือเมื่อวันหนึ่งดัน
มีพวกชอบทางด้าน
ความสามารถพิเศษ
ด้านสัมผัสต่างๆมาถามว่า
พี่รู้จักไหมว่า พระโมคคัลลานะ
บุคคลิก รูปร่าง หน้าตา
สีผิวเป็นอย่างไร แล้วผม
ดันตอบไม่ได้
คิดว่าจะเป็นไงหละ


ก็เป็นแค่พวก ขี้อ้างโม้แบบกระจอก
ที่ชอบพูดให้คนอื่นๆเข้าใจว่าตนชอบ
เพื่อสื่อว่าตรูมีเชื้อทางสายท่านนะ
แต่ความจริงไม่ได้มีเชื้อส้นบาทา
อะไรเลยคนหนึ่งเท่านั้นหละครับ

ไม่ได้ว่าใครนะครับ ยกตัวอย่าง
ด่าตัวเองโชว์ให้ดูครับ

ผมไม่ชอบที่อยู่ดีๆจะไป
หักหน้าใครหรอกครับ
ถ้าไม่มาโม้มาก ทำตัวพูดแสดง
เหมือนเก่งมาก และ
อ้างมากเพื่อยกเสริมตน
แล้วเอาไว้ข่มท่าน.

ถ้าพูดเพื่อประโยชน์
สาธารณะ ประโยชน์ทางธรรม
พูดแล้วมันเกิดประโยชน์ต่อผู้อื่น
มีแต่จะคอยชมและยกย่องครับ

แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง

 

เด๋วนะท่าน ก่อนที่จะไปไกล
ที่ผมบอกว่าชอบพระอานนท์เนี่ย
เพราะอ่านพระสูตร แล้วเจอแต่พระอานนท์บ่อยมากๆ
และท่านถามได้โดน ถามได้ตรงใจในสิ่งที่ผมอยากรู้อยู่แล้ว
ท่านจะเป็นเอกตัคคะด้านพหูสูตร ท่านก็เป็นไป
ผมไม่ได้หวังจะเหมือนท่านหรอก ขอแค่สัก 1/20 ท่านก็พอแล้ว
เพราะผมก็มีนิสัยชอบถาม ชอบค้น ชอบตั้งคำถามแปลกๆ
แต่จะให้ไปรอเป็นพระสาวก เลขา พระพุทธ ผมไม่เอาหรอกครับ
เบื่อเวียนว่ายตายเกิดแล้ว
ตั้งจิตอธิฐาน ไว้ตลอดเวลา ถ้าไม่สำเร็จอรหันต์ก่อนสิ้นชีวิต
ก็ขอไปอยู่ในภพเทวดา อีกภพเดียวพอ

มันจะได้/ไม่ได้ตามที่อธิฐานขอไว้ ก็ช่าง
รู้แต่ว่าเบื่อเวียนว่ายแล้ว แล้วการอธิฐานในทางกุศล
ย่อมดีกว่าอธิฐานในทางอกุศล หรือขอให้รวย ขอให้สวย
ถึงแม้อาจจะไม่สำเร็จตามที่หวัง ขอไว้ก็ตาม

แต่ตอบไว้ให้เลยว่า นางขุชชุตตรา ผมไม่สนใจเลย.....


เด๋วจะไปคนละประเด็น
เพราะเป็นแค่ความชอบส่วนตัวผมเอง ........

 

หรือ ยกตัวอย่าง หลวงปู่ หลวงตาในสมัยนี้
ผมก็"ไม่"เคยคลั่งไคล้ใครเลยสักคน
มีแต่รู้สึกแค่ว่า เออ ท่านนี้ดี , เออ ท่านนี้ไม่ชอบ
ยกตัวอย่างท่านพุทธทาส ผมโดนใจหนังสือตัวกูของกูท่านมาก
แต่ก็ไม่เคยออกตัวเลย ว่าเป็นศิษย์ท่าน เป็น FC ท่าน

แต่ผมกลับชอบจริยาพระสงฆ์ ในพระไตรปิฏกมากกว่า
เพราะอย่างน้อย สุด ๆ มั่นใจได้เลยว่าพระพุทธเจ้ารับรองแล้ว
ไม่ต้องมโน หรือไม่ต้องไปลองภูมิท่านเพื่อให้ตัวเองศรัทธา
หรือต้องเสียค่าน้ำมันไปหา ว่ามีของดีจริงไหม
หรือเชื่อตาม ๆ กันมา เพราะกระแส เพราะความดัง

บางทีอ่านพระไตรอยู่ดีๆ ปิติมันเกิด น้ำตาไหลก็บ่อย ๆ
ซึ้งในธรรม

จึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปขวนขวายหาอะไรอีก

เล่าให้ฟังนะครับ

 

อันนี้ความเห็นส่วนตั๊วส่วนตัว

ถ้าชอบท่านไหน
ก็ดูว่าท่านสอนยังไง
ไม่จำเป็นต้องรู้จักสีผิวหน้าตาจมูกปาก
ต่อให้เกาะชายผ้าท่านก็ไม่ชื่อว่าใกล้ท่าน
ปฏิบัติตามท่านสอนให้ได้ ก็พอแล้ว

 

เอิ่ม

สังเกต ลักษณะ ของ อุปาธิ การสำคัญในสัญญา..

มีตนในสัญญา
ในสัญญามีตน
และ สัญญาเปนตน

ไว้ด้วยเลย หน่าคร้าบ

ปัญหา "หญ้าปากคอก" ที่เด่ที่สุดเนี่ยะ

ทำเอา บางคนต้องเอาผ้าขาวไปถูกระได
อยู่นานสองนาน รโชหะรนัง ระชังหาราติ

เทวดาคราวเดียว ข้าวเหนียวนึ่งสังสาคาราซัง

 

แต่ทีนี้ บางคนอ้างว่า ไปหาท่าน
เพราะทำบุญกับอรหันต์ ได้บุญมาก
แสดงว่ายังขาดการสดับ

พระพุทธเจ้าพูดเอง
ทำสังฆทาน ที่มีแค่สงฆ์ธรรมด๊า ธรรมดา
เป็นประทาน
มีอานิสงค์มากกว่าทำกับท่านเอง 100 ครั้ง

หรือบริจาคเงินให้ตูนบอดี้ แสลม เอาไปสร้างวิหารทาน
สร้างสิ่งสาธารณะ สร้างโรงพยาบาล
ก็มีอานิสงค์ มากกว่า ทำกับพระพุทธเจ้า

 

ยังชิว ๆ อยู่

สตาบั๊ก สักแก้วป่าว เดี๋ยวเลี้ยง ?

 

ฮั่นแน่......

แอบไปแอ่ว ราชรี มา


ปล. ผีหลอกเป่าหว่า เหนแวบๆ
จับได้แระ นี่แหนะ นี่แหนะ

ฮิวววววส์

 

ไปหาพระมา

ท่านให้คีย์เวิร์ด

"ไม่หวั่นไหว"
...

 

ของแสลงครับ

มะอยากไป ส.น. สายน้ำผึ้ง

 

คนละพระ

แต่ตัวเดียว กันเบย ได้มาตอน ปี 49 โน้น
ตอนส่งการบ้าน ด้นสด ครั้งแรก

ครั้งที่สอง ไปขู่เอาสังคมนักภาวนาเปนตัวประกัน
ให้ท่านกุดหัวเสีย ท่านบอก เรื่องของ มะอึง (จริง
พูดเพราะก่านี้)

ครั้งที่สาม พอจะถาม ไม่ละ เหนใจมันมาอ้อนเล่นๆ เสียดายท่านเทศนาให้ยาว แต่จิตมันปิด
ไม่ได้ยินสักคำ แป่ว!!

เลย ไม่ได้ฟังและ ดูมันส่ายเอว ส่ายเอว ไปเรือยๆ


ปล. ถ้าไปอีกที่ สงสัยโดนขวานเล่มที่อาจมีคนพนะฝากไว้ แหงๆ

 

ว่าแต่ว่า

ไปหาพระมานี่ นั่งห่างๆ หรือ เข้าไปนวด อะฮับ

จะได้ กอปปี้บุญ โมทานาตามดื้อๆ

 

องค์นี้สนิทกันฮับ ท่านสอนมาตั้งแต่เด็กโน่น

ติ๊งจบ

 

๕๕ แค่พูดพอฮา.
ผมพอดูคนออกบ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง
คุณไม่ใช่พวกขี้โม้
ชอบอ้างยกตนข่มตนท่าน
หรือโชว์หรอก

ผมถึงด่าตัวเองไง
เพื่อว่าตัวเองจะได้สำเนียก ระมัดระวัง
ในการเอาท่านโน้นนี่นั่นมาอ้างบ้าง
ส่วนใหญ่พออ้างมักจะเสริม
ความคิดตนเข้าไปแทรก
ในแบบที่ไม่มีประโยชน์และยกตัวเอง
เป็นนัยๆ หรือเสริมว่า ที่ตนถ่ายทอดนั่นใช่
แล้วบางที่ยังเอาไปทับถมคนอื่นๆเพื่อยกตน
เชิงขาดตรรกะ

ถ้าเอามาพูดเพื่อประโยชน์สาธารณะ
หรือจะบอกว่าตนชอบใคร หรือปฎิบัติตามท่านใดมันเป็นสิทธิ
ส่วนบุคคลครับ


แต่ถ้าเอาธรรมท่านมาอ้าง
พูดเอาท่านมาอ้าง
แล้วประหนึ่งว่าตนเข้าใจ
มีสภาวะเทียบเท่ากับท่าน
ก็ต้องเจ๋งพอตัวหละครับ
โดยเฉพาะพวกที่ชอบตั้งชื่อ
เทห์ๆเป็นระดับสูงทั้งหลาย
พอดีผมชอบกวนบาทา
คนประเภทนี้ด้วย
ไม่รู้เป็นไรแก้ไม่หาย(นิสัยไม่ดี)
เห็นแล้วอยากลองของ
ลองวิชาซะหน่อย
ประมาณว่ามีความสามารถแน่จริง
อย่างที่เอาท่านมายกเทียบตัวเองไหม
เท่านั้นหละไม่มีไรหรอก
พอขำๆ ^_^

 

นี่ ๆ ไม่ต้องด่าตัวเองหรอก

จะเหน็บผม ก็พูดตรงๆแค่นั้นแหละ

แต่ทีนี้ มันไม่ใช่เรื่องนะ ที่ผมบอกจะพิมพ์เล่น ๆว่า
ชอบพระอานนท์ FC
ในนี้ มีแต่คนบอกว่าศิษย์คนนู้น คนนี้ทั้งนั้น
ยกตัวอย่าง ท่านปราบ ก็ชอบเอาธรรมหลวงพ่อพุธ

แต่ทีนี้ ผมไม่เคยพูดเลยว่าผมชอบใครในใจ จริงๆ
( ถ้าเจอว่าผมเคยพูดอ้างอิงมาให้ดูด้วย
ไม่นับท่านพุทธทาสนะที่เคยพูดถึงท่าน 2-3 รอบ)

พอผมพูดขึ้นมาทีนึง แป่ว!!!

กลายเป็นว่าโดนเหน็บ ยกตน จะบอกคนอื่นกลายๆว่าเก่งเหมือนพระอานนท์
นี่ขนาดยกคนในพระไตรมา
เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีใครคิดว่าผมกล้าไปเทียบระดับเอกทัคคะแบบนั้น
ยังไม่วายโดน

จะกวนผม ก็กวนได้ครับ
ยังมิได้เป็นอรหันต์อะไร โทสะ ปฏิฆะ ยังมี
ก็เป็นคนธรรมดาเหมือนคุณ


นิสัยผมก็เป็นคนไม่ค่อยยอมใครด้วย.....

*** คือผมก็พยายามหลีกเลี่ยงมาหลายโพส
หลายกระทู้แล้วไง แต่ถ้ามันมากไป ผมก็ต้องพูดบ้างละนะ

 

แต่ทีนี้ ต่อให้ผมอ้างอิงจริง
กล่าวอ้างท่านจริง เพราะชอบท่าน
คนในโลกนี้มีหลายแบบ หลายจริต
เอกทัคคะด้านต่าง ๆ ยังมีตั้ง 70 กว่าแบบ


ถ้าการที่จะมีคนอ้างอิงใคร ชอบใคร
แล้วอยากเป็นแบบนั้น ก็ควรจะปล่อยเขา
และอนุโมทนากับเขา
ขอให้เขาสมหวังในอนาคตกาล

มันเรื่องของเขา .....


มันใช่เรื่องไหม ที่จะมากวนทีน
ในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ?

 

ผม"รับ"ครับ

แต่ขอถามเงื่อนไข ว่าจะลอง ๆ อะไร
ถ้าจะลองอภิญญา ผมบอกเลยว่าไม่มี
ถ้าคุณมี คุณโผล่มาหาผมที่บ้านคืนนี้เลย

หรือไม่ได้ลองเรื่องอภิญญา จะลองเรื่องอะไร?
ทำไมถึงต้องไปเจอ บอกด้วย

แต่ทีนี้ คนท้า ก็ต้องอำนวยความสะดวกให้คนรับคำท้าด้วย

มาแถวบ้านผม เด๋วไปลองแถว ๆข้าง สน แถวบ้านผม
แถว ๆแฟลต ตำรวจ เงียบ ๆ
เพราะผมก็ต้องกันตัวเองโดนกระทืบไว้ก่อน


อยากโชว์อะไร โชว์มาให้ผมเห็นเลย ถ้าดีจิง
อยากเช่นเสกใบไม้เป็นทองได้จริง

เด๋วผมมาตั้งกระทู้บอกเล่าประสบการณ์ที่เจอกับคุณนพเอง
ว่่าคนที่ท้า "เจ๋ง" ยังไง

เพราะว่าคนที่แน่จริง ๆ ต้องทำได้ในระดับลืม ตา
แบบสิว ๆ อยู่แล้ว คงไม่ต้องไปเจออะไรในแบบที่เป็น
ป่าเงียบสงบ ห่างไกลผู้คน นั่งสมาธิ 4-5 ชม
ถึงจะมีของออกมา



บอกเงื่อนไขมาครับ ตรงนี้
แล้วเสร็จแล้ว ค่อยนัดแนะวันกัน คิดว่าวันเสาร์
คุณหลังไมค์เรื่องเวลามา เด๋วผมหลังไมค์ให้ ว่า
สน อะไร ที่จะให้ไปเจอ

 

อ่านอีกรอบดีๆ อีกรอบเป็น
การฝึกสติเราเองครับ
ประโยคเดิมบางส่วน

“๕๕ แค่พูดพอฮา.
ผมพอดูคนออกบ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง
คุณไม่ใช่พวกขี้โม้
ชอบอ้างยกตนข่มตนท่าน
หรือโชว์หรอก”
......
“ถ้าเอามาพูดเพื่อประโยชน์สาธารณะ
หรือจะบอกว่าตนชอบใคร หรือปฎิบัติตามท่านใดมันเป็นสิทธิ
ส่วนบุคคลครับ”

..........
“แต่ถ้าเอาธรรมท่านมาอ้าง
พูดเอาท่านมาอ้าง
แล้วประหนึ่งว่าตนเข้าใจ
มีสภาวะเทียบเท่ากับท่าน
ก็ต้องเจ๋งพอตัวหละครับ
โดยเฉพาะพวกที่ชอบตั้งชื่อ
เท่ห์ๆเป็นระดับสูงทั้งหลาย
พอดีผมชอบกวนบาทา
คนประเภทนี้ด้วย
ไม่รู้เป็นไรแก้ไม่หาย(นิสัยไม่ดี)
เห็นแล้วอยากลองของ
ลองวิชาซะหน่อย
ประมาณว่ามีความสามารถแน่จริง
อย่างที่เอาท่านมายกเทียบตัวเองไหม
เท่านั้นหละไม่มีไรหรอก
พอขำๆ ^_^

ประเด็นแรก แค่ชื่อ ไม่น่าใช่แล้วนะ

ยอมรับเรื่องใจจริงๆ
ไม่มีความสามารถแต่กล้ารับคำท้า
ต่างกับพวกที่โม้ว่าตัวเองเก่ง
คุยทับถมผม พอท้ากลับไม่มีใครกล้ารับ

ว่าแต่ใช้
ตัวใหญ่จัง
๕๕๕๕๕
กินรังแตนมาหรือ
น่าจะเข้าใจผิดนะ
ผมไม่ได้ว่าเจตนาว่าคุณนะครับ
คุณควรอ่านรายละเอียด
ปลีกย่อยดีๆ
ก่อนนะครับ. อ่านดีๆนะครับ
ในเรื่องเกี่ยวกับการอ้างนะครับ
ก็คือไม่ได้ว่าคุณ
เข้าใจเนาะ

ปกติผมจะด่าใคร อ่านดูก็ชัดครับ
ชอบด่าตรงๆไม่อ้อมเหมือนกันครับ
ภาษาไทยก็บอกไปชัดเจนแล้วนะครับ
หรือที่เขียนไปยังไม่ชัดเจนพอครับ
และผมไม่พูดไพเราะด้วยครับเวลาว่าใคร


เรื่องคุณจะยอมไม่ยอมใคร
มันไม่ทำให้ผมสกิดใจ
หรือทำให้ผมรู้สึกอะไรได้หรอกครับ
เพราะคุณแค่เข้าใจผิด
และคิดเชิงอกุศลไปหน่อยนะ
ประเด็นนี้ช่างมัน

เพราะคุณเองไม่ได้มี
ความสามารถทำอะไรได้
และเพราะคุณ
ไม่ได้ขี้โม้ ทับถม กล่าวหาผม
ผมจะท้าคุณแสดง
ความสามารถเพื่ออะไร
แล้วผมไม่มีความจำเป็น
จะต้องไปทำให้ใครรู้ว่าผมทำอะไรได้
ทำเพื่ออะไร เพื่อให้คนที่มันมาว่า
ยอมรับนะหรือ มันไม่เชื่อก็ช่างหัวญาติมัน
เราทำอะไรได้ตัวเราเองรู้ดีที่สุด


แต่ถ้าคุยว่าเก่ง ว่าผมกะจอก
แล้วว่าผมนอกคอก
อย่างนี้ค่อยมาลองเจอกัน
ต่อหน้าพระเกจิ
เข้าใจนะ
ให้เลือกเองด้วยก็ได้
หรือผมเลือกก็ได้
ดังนั้นไม่ต้องกลัวหรอกครับ
ว่าคุณจะไม่ปลอดภัย
อย่าคิดอกุศลแบบนั้น


แล้วมาแสดงกันเลย
ว่าใครทำได้แค่ไหน หลักการง่ายๆ
ผมเอาไว้ท้า พวกขี้โม้
ที่ยกตัวเองทับถมผม
แล้วกล่าวหาผมต่างๆนาๆ
ประเด็นนี้เข้าใจเนาะ
ย้ำอีกรอบเผื่ออาจรอบแรกไม่เกท



ปล พอดีผมไม่ได้หาเรื่องคุณ
เพราะบอกไปแล้วคุณไม่ใช่พวกขี้โม้
ชอบยกตนเองข่มคนอื่นๆ(นี่คือชมนะ)
ยังไงไปอ่านอีกรอบนะ
อย่าให้ความคิดฝ่ายอกุศลมันไหล
ออกมามากเกินไป เพียงเพราะ
อ่านภาษาไทย ไม่รอบคอบ
เข้าใจนะครับ. ^_^

 

เห่อเขียนตัวใหญ่เท่าบ้านตอนรับคำท้า
เวลา 22.31
ตอบเวลา 23.18 ห่างกันไม่ถึงชั่วโมง
เวลานี้ 00.47 ทั้งส่งข้อความส่วนตัวแล้ว
ปรากฏว่า ยังเงียบอยู่
เข้ามาซะ จะรู้ว่า การปฎิบัติของตนเอง
โดยเฉพาะเรื่องสติทางธรรม
รวมทั้งการควบคุมความคิดเชิงอกุศล
เป็นอย่างไร

เอาบ้างวะ ตัวใหญ่เท่ห์ดี