สร้างบุษบกประดิษฐานพระโมคคัลลานะรับมอบพระกรุลำพูนอายุ๕๐๐-๗๐๐ ปี

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย :::เพชร:::, 13 มีนาคม 2008.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พระมหาโมคคัลลานเถระ
    http://www.dhammathai.org/monk/monk59.php

    ท่านมหาโมคคัลลานะ เป็นบุตรพราหมณ์ผู้เป็นนายบ้านชื่อว่า โกลิตะ มารดาชื่อนางโมคคัลลี แต่เดิมชื่อว่า โกลิตะ ตามโคตรแห่งบิดา และถูกเรียกชื่อเพราะ เป็นบุตรนางโมคคัลลีว่า โมคคัลลานะ พอเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาแล้ว พวกภิกษุเรียกกันว่า พระโมคคัลลานะ ทั้งนั้นท่านเกิดใน โกลิตคามไม่ห่างจากเมืองราชคฤห์ สมัยเป็นเด็กได้เป็นสหายที่รักใคร่กันกับอุปติสสมาณพ ผู้มีอายุคราวเดียวกัน และตระกูลของทั้งสองนั้นมั่งคั่ง สมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์และบริวารเท่า ๆ กัน มีความคุ้นเคยสนิทสนมกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เมื่อโกลิตมาณพเจริญวัยขึ้นก็ได้ำปศึกษาเล่าเรียนศิลปะด้วยกันกับอุปติสสมาณพ แม้จะไปเที่ยวหรือไปทำธุระอะไรก็มักจะไปด้วยกันอยู่เสมอ จนกระทั่งเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาก็บวชพร้อมกัน ต่างกันแต่ว่าได้ดวงตาเห็นธรรมครั้งแรกนั้นไม่พร้อมกัน เรื่องราวต่าง ๆ ก่อนอุปสมบทคล้าย ๆ กับพระสารีบุตรตามที่ได้บรรยายมาก่อนหน้านี้
    หลังจากอุปสมบทแล้ว ๗ วัน ได้ไปทำความเพียรอยู่ที่บ้านกัลลวาลมุตตคาม แขวงมคธ เกิดความอ่อนใจนั่งโงกง่วงอยู่ พระบรมศาสดาเสด็จไปที่นั่น ทรงสั่งสอน และแสดงอุบายสำหรับระงับความง่วง ๘ ประการ คือ
    ๑. โมคคัลลานะ เมื่อเธอมีสัญญาอย่างไร ความง่วงนั้นย่อมครอบงำได้ เธอควรทำในใจถึงสัญญานั้นให้มาก จะละความง่วงนั้นได้
    ๒. หากยังละไม่ได้ เธอควรตรึกตรองพิจารณาถึงธรรมตามที่ตนได้ฟังและได้เรียนมาแล้วด้วยใจของเธอเอง จะละความง่วงได้
    ๓. หากยังละไม่ได้ เธอควรสาธยายธรรมตามที่ตนได้ฟังและได้เรียนมาโดยพิสดาร จะละความง่วงได้
    ๔. หากยังละไม่ได้ เธอควรยอนหูทั้งสองข้างและลูบด้วยฝ่ามือ จะละความง่วงได้
    ๕. หากยังละไม่ได้ เธอควรลุกข้นยืน ลูบนัยน์ตาด้วยน้ำ เหลียวดูทิศทั้งหลาย แหงนดูดาวนักษัตรฤกษ์ จะละความง่วงได้
    ๖. หากยังละไม่ได้ เธอควรทำในใจถึงอาโลกสัญญา คือความสำคัญในแสงสว่าง ตั้งความสำคัญว่ากลางวันไว้ในใจ ให้เหมือนกันทั้งกลางวันและกลางคืน มีจิตใจแจ่มใสไม่มีอะไรห่อหุ้ม ทำจิตอันมรแสงสว่างให้เกิด จะละความง่วงได้
    ๗. หากยังละไม่ได้ เธอควรอธิษฐานจงกรม กำหนดหมายว่าจะเดินกลับไปกลับมา สำรวมอินทรีย์ มีจิตไม่คิดไปภายนอก จะละความง่วงได้
    ๘. หากยังละไม่ได้ เธอควรสำเร็จสีหไสยาสน์ คือนอนตะแคงเบื้องขวา ซ้อนเท้าเหลื่อมกัน มีสติสัมปชัญญะ ตั้งใจว่าจะลุกขึ้น พอเธอตื่นแล้วควรรีบลุกขึ้น ด้วยการตั้งใจว่าจะไม่ประกอบสุขในการนอน จะไม่ประกอบสุขในการเอนหลัง จะไม่ประกอบสุขในการเคลิ้มหลับ

    ครั้นตรัสสอนอุบาย สำหรับระงับความง่วงอย่างนี้แล้ว ทรงสั่งสอนให้สำเหนียกอย่างนี้ว่า "เราจักไม่ชูงวง (คือการถือตัว) เข้าไปสู้ตระกูล จักไม่พูดคำที่เป็นเหตุให้คนเถียงกัน เข้าใจผิดต่อกัน และตรัสสอนให้ยินดีด้วยที่นั่งที่นอนอันเงียบสงัด และควรเป็นอยู่ตามลำพังสมณวิสัยไ เมื่อตรัสสอนอย่างนี้แล้ว พระโมคคัลลานะกราบทูลถามว่า "โดยย่อข้อปฏิบัติเพียงเท่าไร ภิกษุชื่อว่าน้อมไปแล้วในธรรมที่สิ้นตัณหา มีความสำเร็จล่วงส่วนเกษมจากโยคะธรรม เป็นพรหมจารีบุคคลยิ่งกว่าผู้อื่น มีที่สุดกว่าผู้อื่น ประเสริฐสุดกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายไ พระบรมศาสดาตรัสตอบว่า "โมคคัลลานะ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ไดเสดับแล้วว่า ธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น เธอทราบชัดธรรมทั้งปวงด้วยปัญญาอันวิเศษ ย่อมกำหนดรู้ธรรมทั้งปวงได้ เธอได้ประสบเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสุขก็ดี เป็นทุกข์ก็ดี มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ดี เธอพิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยง พิจารณาเห็นด้วปัญญาเป็นเครื่องหน่าย เป็นเครื่องดับ เป็นเครื่องสละ คืนในเวทนาทั้งหลายนั้น เมื่อพิจารณาเห็นดังนั้น ย่อมไม่ยึดมั่น ถือมั่น สิ่งอะไร ๆ ในโลกไม่มีความสะดุ้งหวาดหวั่น ย่อมดับกิเลสให้สงบได้ด้วยตนเอง และทราบชัดว่า ชาตินี้สิ้นแล้ว พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว กิจที่จะต้องทำได้ทำสำเร็จแล้ว กิจอื่นที่จะทำอย่างนี้อีกมิได้มี ว่าโดยย่อข้อปฏิบัติเพียงเท่านี้แหละ ภิกษุได้ชื่อว่าน้อมไปแล้วในธรรมเป็นที่สิ้นตัณหา" ท่านพระโมคคัลลานะได้ปฏิบัติตามโอวาท ที่พระบรมศาสดาตรัสสั่งสอน ก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ในวันนั้น
    ครั้นได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว พระโมคคัลลานะได้เป็นกำลังสำคัญของพระบรมศาสดาในการดำเนินกิจการต่าง ๆ ตามที่พระองค์ทรงดำริให้สำเร็จเพราะท่านเป็นผู้มีฤทธิ์มาก จึงได้รับการยกย่องจากสมเด็จพระบรมศาสดาว่า "เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทางเป็นผู้มีฤทธิ์" และทรงยกย่องว่าเป็นคู่พระอัครสาวก คู่กันกับพระสารีบุตรในการอุปการะภิกษุผู้เข้ามาบวชในพระธรรมวินัย ดังกล่าวในประวัติพระสารีบุตรว่า สารีบุตรเปรียบเหมือนมารดาผู้ยังบุตรให้เกิด โมคคัลลานะเปรียบเหมือนนางนมผู้เลี้ยงทารกที่เกิดแล้ว สารีบุตรย่อมแนะนำให้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล โมคคัลลานะแนะนำให้ตั้งอยู่ในคุณเบื้องบน ที่สูงกว่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงมีคำยกย่องว่าพระสารีบุตรเป็นพระอัครสาวกฝ่ายขวา พระโมคคัลลานะเป็นพระอัครสาวกฝ่ายซ้าย พระธรรมเทศนา ของพระโมคคัลลานะไม่ค่อยจะมีที่เป็นโอวาทให้แก่ภิกษุสงฆ์มีเพียงแต่อนุมานสูตร ซึ่งว่าด้วยธรรมินทำให้คนเป็นผู้ว่ายากหรือง่าย ในมัฌิมนิกายกล่าวว่า ท่านพระโมคคัลลานะเข้าใจในนวกรรมคือการก่อสร้าง เพราะฉนั้นเมื่อนางวิสาขามหาอุบาสิกาสร้างบุพพาราม ในเมืองสาวัตถี พระบรมศาสดารับสั่งให้ท่านเป็นนวกัมมาธิฏฐายี คือผู้ควบคุมการก่อสร้าง
    ท่านพระโมคคัลลานะ ปรินิพพานก่อนพระบรมศาสดา มีเรื่องเล่าว่า ครั้งเมื่อท่านพำนักอยู่ ณ ตำบลกาฬศิลา แคว้นมคธ พวกเดียรถีย์ปรึกษากันว่า บรรดาลาภสักการะ ทั้งหลายที่เกิดขึ้นแก่พระบรมศาสดาในครั้งนั้น ก็เพราะอาศัยพระโมคคัลลานะ เพราะสามารถนำข่าวในสวรรค์และนรกมาแจ้งแก่มนุษย์ ชักนำให้ประชาชนเกิดความเลื่อมใส ถ้าพวกเรากำจัดพระโมคคัลลานะเสียได้แล้ว ลัทธิของพวกเราก็จะเจริญรุ่งเรืองขึ้น ลาภสักการะต่าง ๆ ก็จะมาหาพวกเราหมด เมื่อปรึกษากันดังนั้นแล้วจึงจ้างโจรผู้ร้ายให้ลอบฆ่าพระโมคคัลลานะ เมื่อโจรมาท่านพระโมคคัลลานะทราบเหตุนั้นจึงหนีไปเสียสองครั้ง ครั้งที่สามท่านพิจารณาเห็นว่ากรรมตามทันจึงไม่หนี พวกโจรผู้ร้ายจึงได้ทุบตีจนร่างกายแหลกเหลว ก็สำคัญว่าตายแล้ว จึงนำร่างท่าน ไปซ่อนไว้ในพุ่มไม้แห่งหนึ่งแล้วพากันหนีไป ท่านพระโมคคัลลานะยังไม่มรณะ เยียวยาอัตภาพให้หายด้วยกำลังฌานแล้วเข้าไปเฝ้าสมเด็จพระบรมศาสดา แล้วทูลลากลับปรินิพพาน ณ ที่เกิดเหตุ ในวันเดือนดับ เดือน ๑๒ หลังพระสารีบุตร ๑๕ วัน สมเด็จพระบรมศาสดาได้เสด็จไปทำฌาปนกิจแล้วรับสั่งให้นำอัฐิธาตุ มาก่อเจดีย์บรรจุไว้ ณ ที่ใกล้ประตูวัดเวฬุวัน

    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ประวัติแห่งอนุพุทธ ๘๐ พระองค์
    คณะตรีมิตร และ คณาจาริโย
    Ab15

    พระโมคคัลลานเถระ

    http://www.geocities.com/piyainta/ab15.htm
    ชาติภูมิ <O:p</O:p

    ท่านพระโมคคัลลานะ เป็นบุตรพราหมณ์ผู้เป็นนายบ้าน ชื่อว่า โกลิตะ มารดาชื่อว่านางโมคคัลลี เดิมท่านชื่อว่า โกลิตะ ตามโคตรแห่งบิดา อีกอย่างหนึ่งเขาเรียกตามความที่เป็นบุตรนางโมคคัลลีว่า โมคคัลลานะ ท่านเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาแล้ว พวกสพรหมจารีกเรียกท่านว่า โมคคัลลานะทั้งนั้น ท่านเกิดในตำบลบ้านไม่ห่างไกลจากกรุงราชคฤห์ ได้เป็นสหายที่รักใคร่กันกับอุปติสสมาณพ มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เพราะตระกูลทั้งสองนั้นเป็นสหายติดต่อกันมาแต่ครั้งบรรพบุรุษ และเป็นตระกูลที่มั่งคั่งสมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์และบริวารเสมอกัน ครั้นเจริญวัยขึ้นแล้วได้เล่าเรียนศิลปะด้วยกัน แม้จะไปไหนหรือทำอะไรก็ไปและทำด้วยกัน จนกระทั่งเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา ก็บวชพร้อมกัน ต่างกันแต่ว่า ได้ดวงตาเห็นธรรมครั้งแรกคนละคราว พึงทราบเรื่องราวตามที่กล่าวแล้วในประวัติของพระสารีบุตรเถระนั้น ในที่นี้จะกล่าวตั้งแต่อุปสมบทแล้วไปฯ
    <O:p</O:p
    เรียนอุบายระงับความง่วง<O:p</O:p
    จำเดิมแต่ท่านได้อุปสมบทในพระธรรมวินัยได้ ๗ วัน ไปทำความเพียรอยู่ที่บ้านกัลลวาลมุตตคาม แขวงมคธ อ่อนใจนั่งโงกง่วงอยู่ พระบรมศาสดาเสด็จไปที่นั้น ทรงสั่งสอนและแสดงอุบายสำหรับระงับความง่วง มีประการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
    ๑. โมคคัลลานะ เมื่อท่านมีสัญญาอย่างไร ความง่วงนั้นย่อมครอบงำได้ ท่านควรทำในใจถึงสัญญานั้นให้มากฯ
    ๒. ท่านควรตรึกตรองพิจารณาถึงธรรมตามที่ได้ฟังแล้ว และได้เรียนแล้ว ด้วยใจของท่านเอง
    ๓. ท่านควรสาธยายธรรมตามที่ตัวได้ฟังแล้ว และได้เรียนแล้วโดยพิสดารฯ
    ๔. ท่านควรยอนหูทั้งสองข้าง และลูบด้วยฝ่ามือฯ
    ๕. ท่านควรลุกขึ้นยืน ลูบนัยน์ตาด้วยน้ำ เหลียวดูทิศทั้งหลาย แหงนดูดาวนักขัตรฤกษ์ฯ
    ๖. ท่านควรทำในใจถึงอาโลกสัญญา คือ ความสำคัญในแสงสว่าง ตั้งความสำคัญว่ากลางวันไว้ในใจ ให้เหมือนกันทั้งกลางวันและกลางคืน มีใจเปิดเผยฉะนี้ ไม่มีอะไรหุ้มห่อ ทำจิตอันมีแสงสว่างให้เกิดฯ
    ๗. ท่านควรอธิษฐานจงกรม กำหนดหมายว่า จักเดินกลับไปกลับมา สำรวมอินทรีย์ มีจิตไม่คิดไปภายนอกฯ
    ๘. ท่านควรสำเร็จสีหไสยาสน์ คือ นอนตะแคงข้างเบื้องขวา ซ้อนเท้าเหลื่อมกัน มีสติสัมปชัญญะ ทำความหมายในอันที่จะลุกขึ้นไว้ในใจ พอท่านตื่นแล้ว ควรรีบลุกขึ้น
    <O:p</O:p
    ครั้นตรัสสอนอุบายสำหรับระงับความง่วงอย่างนี้แล้ว ทรงสั่งสอนให้สำเหนียกในใจอีกต่อไปว่า เราจักไม่ชูงวง (คือถือตัว) เข้าไปสู่ตระกูล เราจักไม่พูดคำซึ่งเป็นเหตุให้เถียงกัน เข้าใจผิดต่อกัน และตรัสสอนให้ยินดีด้วยที่นอนที่นั่งอันเงียบสงัด และควรเป็นที่อยู่ตามสำพังสมณวิสัย เมื่อตรัสสอนอย่างนี้แล้ว พระโมคคัลลานะกราบทูลถามว่า โดยย่อข้อปฏิบัติเพียงเท่าไร ภิกษุชื่อว่าน้อมไปแล้วในธรรมที่สิ้นตัณหา มีความสำเร็จล่วงส่วนเกษมจากโยคธรรม เป็นพรหมจารีบุคคลยิ่งกว่าผู้อื่นที่มีสุดดีกว่าผู้อื่น ประเสริฐสุดกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พระบรมศาสดาตรัสตอบว่า โมคคัลลานะ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ได้สดับแล้วว่า ธรรมทั้งปวงไม่ควรถือมั่น เธอทราบชัดธรรมทั้งปวงด้วยปัญญาอันวิเศษ ย่อมกำหนดรู้ธรรมทั้งปวงได้ เธอได้ประสบเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสุขก็ดี เป็นทุกข์ก็ดี มิใช่ทุกข์มิใช่สุขก็ดี เธอพิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยง พิจารณาเห็นด้วยปัญญา เป็นเครื่องหน่าย เป็นเครื่องดับ เป็นเครื่องสละคืนในเวทนาทั้งหลายนั้น เมื่อพิจารณาเห็นดังนั้น ย่อมไม่ถือมั่นสิ่งอะไร ๆ ในโลก ไม่สะดุ้งหวาดหวั่น ย่อมดับกิเลสให้สงบได้ด้วยตนเอง และทราบชัดว่า ชาตินี้สิ้นแล้ว พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว กิจที่จำจะต้องทำได้ทำสำเร็จแล้ว กิจอื่นที่จะทำอย่างนี้อีกมิได้มีว่าโดยย่อ ข้อปฏิบัติเพียงเท่านี้แล ภิกษุชื่อว่าน้อมไปแล้ว ในธรรมเป็นที่สิ้นตัณหา ท่านพระโมคคัลลานะ ปฏิบัติตามโอวาทที่พระบรมศาสดาตรัสสั่งสอน ก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ในวันนั้นฯ
    <O:p</O:p
    เอตทัคคะ<O:p</O:p
    ครั้นพระโมคคัลลานะ ได้สำเร็จพระอรหันต์แล้ว ท่านได้เป็นกำลังสำคัญของพระบรมศาสดา ในอันยังกิจที่พระบรมศาสดาทรงดำริไว้ให้สำเต็จ เพราะท่านเป็นผู้มีฤทธานุภาพมาก จึงได้รับยกย่องจากสมเด็จพระบรมศาสดาว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทางเป็นผู้มีฤทธิ์ และทรงยกย่องว่าเป็นคู่กันกับพระสารีบุตร ในอันอุปการะภิกษุผู้เข้ามาบวชในพระธรรมวินัยดังกล่าวแล้วในประวัติท่านพระสารีบุตรว่า สารีบุตรเปรียบเหมือนมารดาผู้ยังบุตรให้เกิด โมคคัลลานะเปรียบเหมือนนางนมผู้เลี้ยงทารกที่เกิดแล้ว สารีบุตรย่อมแนะนำให้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล โมคคัลลานะแนะนำให้ตั้งอยู่ในคุณเบื้องบนที่สูงกว่านั้น ด้วยเหตุนี้ จึงมีคำยกย่องพระสารีบุตรเป็นอัครสาวกฝ่ายขวา พระโมคคัลลานะเป็นอัครสาวกฝ่ายซ้าย พระธรรมเทศนาของพระโมคคัลลานะไม่ค่อยจะมี ที่เป็นโอวาทให้แก่ภิกษุสงฆ์ก็มีเพียงแต่ อนุมานสูตร ซึ่งว่าด้วยธรรมอันทำให้คนเป็นผู้ว่ายากหรือว่าง่าย ส่วนที่พระธรรมสังคาหกาจารย์ร้อยกรองไว้ในมัชฌิมนิกายกล่าวว่า ท่านพระโมคคัลลานะนั้นเข้าใจในการนวกรรมด้วย (นวกรรม – การก่อสร้าง) เพราะฉะนั้น เมื่อนางวิสาขา มหาอุบาสิกาสร้างบุพพารามในกรุงสาวัตถี พระบรมศาสดารับสั่งให้ท่านเป็นนวกัมมาธิฏฐายี คือ ผู้ควบคุมการก่อสร้างฯ
    <O:p</O:p
    นิพพาน<O:p</O:p
    ท่านพระโมคคัลลานะ ปรินิพพานก่อนพระบรมศาสดา มีเรื่องเล่าว่า ครั้งเมื่อท่านพำนักอยู่ ณ ตำบลกาฬศิลา แคว้นมคธ พวกเดียรถีย์ปรึกษากันว่า บรรดาลาภสักการะทั้งหลายที่เกิดขึ้นแก่พระบรมศาสดาในครั้งนั้น ด้วยอาศัยพระโมคคัลลานะ เพราะท่านสามารถไปนำข่าวในสวรรค์และนรกมาแจ้งแก่มนุษย์ ชักนำให้ประชาชนเกิดความเลื่อมใส ถ้าพวกเรากำจัดพระโมคคัลลานะเสียได้แล้ว ลัทธิของพวกเราก็จะรุ่งเรืองขึ้น เมื่อปรึกษากันดังนั้นแล้ว จึงจ้างโจรผู้ร้ายให้ลอบฆ่าพระโมคคัลลานะ ตามตำนานท่านกล่าวว่า เมื่อโจรมา ท่านพระโมคคัลลานะทราบเหตุนั้นจึงหนีไปเสียสองครั้ง ครั้งที่สามท่านพิจารณาเห็นว่า กรรมตามทันจึงไม่หนี พวกโจรผู้ร้ายทุบตีจนร่างกายท่านแหลก ก็สำคัญว่าตายแล้ว จึงนำร่างกายของท่านไปซ่อนไว้ในพุ่มไม้แห่งหนึ่งแล้วพากันหนีไป ท่านพระโมคคัลลานะยังไม่มรณะ เยียวยาอัตภาพให้หายด้วยกำลังญาณ แล้วเข้าไปเฝ้าสมเด็จพระบรมศาสดา ทูลลากลับมาปรินิพพาน ณ ที่เดิมในวันดับเดือน ๑๒ ภายหลังพระสารีบุตรปักษ์หนึ่ง (๑๕ วัน) พระศาสดาได้เสด็จไปทำฌาปนกิจแล้วรับสั่งให้นำอัฐิธาตุมาก่อนพระเจดีย์บรรจุไว้ ณ ที่ใกล้ประตูแห่งเวฬุวนารามฯ..
    <O:p</O:p
    ข้อควรกำหนด<O:p</O:p
    เวทนาปริคคหสูตร พระธรรมเทศนาที่พระศาสดาตรัสเทศนาแก่ทีฆนขปริพาชกได้ธรรมจักษุ และพระสารีบุตรได้สำเร็จพระอรหันต์นั้น ทีฆนขปริพาชกได้ทูลแสดงทิฐิของตนว่า “พระโคตมะ ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า สิ่งทั้งปวงไม่ควรแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ชอบใจหมด” พระศาสดาตรัสตอบว่า “อัคคิเวสนะ ถ้าอย่างนั้น ความเห็นอย่างนั้นก็ต้องไม่ควรแก่ท่าน ท่านก็ต้องไม่ชอบความเห็นอย่างนั้น” ตรัสตอบฉะนี้แล้วทรงแสดงสมณพราหมณ์มีทิฐิ ๔ จำพวกว่า “อัคคิเวสนะ สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง มีทิฐิว่าสิ่งทั้งปวงควรแก่เราเราชอบใจหมด พวกหนึ่งมีทิฐิว่า สิ่งทั้งปวงไม่ควรแก่เรา เราไม่ชอบใจหมด พวกหนึ่งมีทิฐิว่า บางสิ่งควรแก่เรา เราชอบใจ บางอย่างไม่ควรแก่เรา เราไม่ชอบใจ ทิฐิของสมณพราหมณ์พวกต้น ใกล้ข้างความกำหนัดรักใคร่ยินดีในสิ่งนั้น ๆ ทิฐิของสมณพราหมณ์พวกที่ ๒ ใกล้ข้างความเกลียดชังนั้น ๆ ทิฐิพวกสมณพราหมณ์พวกที่ ๓ ใกล้ข้างความกำหนัดรักใคร่ในของบ้างสิ่ง ใกล้ข้างความเกลียดชังในของบางสิ่ง ผู้รู้พิจารณาเห็นว่า เราจักถือมั่น ทิฐิอย่างหนึ่งอย่างใด กล่าวว่าสิ่งนี้แลจริง สิ่งเหล่าอื่นหาจริงไม่ ก็จะต้องถือผิดจากคน ๒ พวกที่มีทิฐิไม่เหมือนกับตน ครั้นความถือผิดกันเกิดมีขึ้น ความวิวาทเถียงกันก็มีขึ้น ความเบียดเบียนก็มีขึ้น ผู้รู้เห็นอย่างนี้แล้วย่อมละทิฐินั้นเสียได้ ไม่ทำทิฐิอื่นให้เกิดขึ้นด้วย ความละทิฐิ ๓ อย่างนี้ ย่อมมี ด้วยอุบายอย่างนั้น” ครั้นแสดงโทษแห่งความถือมั่นด้วยทิฐิ ๓ อย่างนั้นแล้ว ทรงแสดงอุบายเครื่องไม่ยึดมั่นต่อไปว่า “อัคคิเวสนะ กาย คือ รูปประชุมมหาภูตรูปทั้ง ๔ มีมารดาบิดาเป็นแดนเกิด เจริญขึ้นเพราะข้าวสุกและขนมสดนี้ ต้องอบรมกันกลิ่นเหม็นและขัดสีมลทินเป็นนิตย์ มีความแตกกระจัดกระจายไปเป็นธรรมดา ควรพิจารณาเห็นโดยความเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ อดทนได้ยาก เป็นโรค เป็นดังหัวฝี เป็นดังลูกศร โดยความยากลำบาก ชำรุด ทรุดโทรม เป็นของว่างเปล่าไม่ใช่ตน เมื่อพิจารณาเห็นอย่างนี้ ย่อมละความพอใจรักใคร่กระวนกระวายในกามเสียได้ อนึ่ง เวทนาเป็น ๓ อย่าง คือ สุข ทุกข์ อุเบกขา คือไม่ใช่ทุกข์ ไม่ใช่สุข ในสมัยใดเสวยทุกข์ ในสมัยนั้นไม่ได้เสวยสุขและอุเบกขา ในสมัยใดเสวยสุข ในสมัยนั้นไม่ได้เสวยทุกข์และอุเบกขา ในสมัยใดเสวยอุเบกขา ในสมัยนั้นไม่ได้เสวยสุขและทุกข์ สุข ทุกข์ อุเบกขา ทั้ง ๓ อย่างนี้ไม่เที่ยง ปัจจัยประชุมแต่งขึ้นอาศัยปัจจัยเกิดขึ้นแล้ว มีความสิ้นไป เสื่อมไป คลายไป ดับไป เป็นธรรมดา อริยสาวกผู้ได้ฟังแล้ว เมื่อเห็นอย่างนี้ ย่อมหน่ายทั้งใน สุข ทุกข์ อุเบกขา เมื่อหน่ายก็ปราศจากกำหนัด เพราะปราศจากกำหนัด จิตก็พ้นจากถือมั่น เมื่อจิตพ้นแล้ว ก็เกิดญาณรู้ว่าพ้นแล้ว อริยสาวกนั้นรู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว กิจที่จะต้องทำได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มีภิกษุผู้พ้นแล้วอย่างนี้ ไม่วิวาทโต้เถียงกับผู้ใดด้วยทิฐิของตน โวหารใดเขาพูดกันอยู่ในโลก ก็พูดตามโวหารนั้น แต่ไม่ถือมั่นด้วยทิฐิ”ฯ..<O:p</O:p




    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  3. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    พระรอดยอดพระสิบสอง เป็นพระองค์บนสุดที่อยู่เหนือเศียรองค์พระประธานของพระสิบสอง ซึ่งเป็นพระเครื่องที่สร้างขึ้นชุดเดียวกัน กับพระรอดกรุวัดมหาวัน พระคงและพระสกุลลำพูน มีทั้งแบบที่ตัดก่อนบรรจุกรุและที่นำพระสิบสองที่หักชำรุดมาตัดแต่งภายหลัง พระแตกกรุออกมาแล้ว นิยมเล่นหาแบบที่ตัดก่อนลงกรุมากกว่าพระที่นำมาตัดภายหลัง

    ชาวล้านนาเชื่อกันว่าองค์พระประธานของพระสิบสองหรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010523.JPG
      P1010523.JPG
      ขนาดไฟล์:
      257.4 KB
      เปิดดู:
      52
    • P1010524.JPG
      P1010524.JPG
      ขนาดไฟล์:
      263.5 KB
      เปิดดู:
      39
    • P1010527.JPG
      P1010527.JPG
      ขนาดไฟล์:
      257 KB
      เปิดดู:
      32
    • P1010138.jpg
      P1010138.jpg
      ขนาดไฟล์:
      326.5 KB
      เปิดดู:
      35
    • P1010139.jpg
      P1010139.jpg
      ขนาดไฟล์:
      270.2 KB
      เปิดดู:
      37
    • P1010137.jpg
      P1010137.jpg
      ขนาดไฟล์:
      344.3 KB
      เปิดดู:
      37
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เช้าวันนี้ผมได้จัดส่ง EMS ไปยังเพื่อนๆอีก ๗ ท่านนะครับ

    ๑) คุณ wirak EMS เลขที่ EG 1536 4766 4 TH
    ๒) คุณชวภณ EMS เลขที่ EG 1536 4767 8 TH
    ๓) คุณmanote EMS เลขที่ EG 1536 4768 1 TH
    ๔) คุณbht EMS เลขที่ EG 1536 4769 5 TH
    ๕) คุณaries2947 EMS เลขที่ EG 1536 4770 4 TH
    ๖) คุณdas999 EMS เลขที่ EG 1536 4771 8 TH
    ๗) คุณchodchoi EMS เลขที่ EG 1536 4772 1 TH
     
  5. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    Updated รายชื่อผู้ขอรับ CD+DVD ที่แจกเป็นธรรมทาน ๗๘ ชุด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม ผมจักโอนยอดในส่วนที่ 2 ครับ

    ประกอบด้วย 2,940.- ของผู้ร่วมบุญ ประมาณนี้ครับ
    และบุญธรรมทานของผม 3,000.-

    รวมเป็น 5,940.- บาท

    สำหรับปัจจัยจำนวน 9,000.- ผมยังไม่ได้มาถ้าได้จักโอนให้อีกคราครับ

    สาธุครับ
     
  7. dragonlord

    dragonlord เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +1,541
    พระต่างๆที่คุณเพชรลงสวยงามมากค่ะ ขอบคุณที่นำมาให้ชมนะค่ะ
     
  8. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    โมทนาบุญด้วยครับ อาจารย์น้อง chaipat วันพรุ่งนี้จะนำส่ง CD+DVD 2 ชุด พร้อมสิ่งของเพื่อมอบต่อผู้ร่วมบุญทุกท่าน ขาดเหลือยังไงรบกวนแจ้งพี่ด้วยละกันนะครับ
     
  9. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ขอบคุณครับคุณdragonlord ผู้ที่มีพระลำพูนส่วนมากไม่ค่อยนำมาให้ชมกันง่ายๆ ก็เป็นที่น่าเสียดายต่อการศึกษามากพอสมควร เพราะอ่านข้อความบรรยายยังไงก็นึกไม่ออกครับว่า พิมพ์ทรงเป็นอย่างไร อีกทั้งบางพิมพ์มีการสงวนลิขสิทธิ์ภาพไว้ copy ไว้ไม่ได้เลย ขนาดหนังสือพระเครื่องที่รวบรวมพระลำพูนโดยเฉพาะไว้ยังไม่ลงเนื้อเรื่อง และพิมพ์ทรงของพระกวาง พระกล้วย พระกาบปลี ฯลฯ ไว้เลย หรือพระลำพูนอีกหน่อยจะเป็นเพียงแค่ตำนานเท่านั้น
     
  10. naraiyana

    naraiyana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +628
    เมื่อวานนี้ได้รับพระธาตุพระโมคคัลลานะ, พระผงสมเด็จองค์ปฐม พระรอด พระเปิดโลก และ สิ่งมงคลอื่น ๆ ที่คุณเพชรได้มอบให้เพิ่มเติม พร้อมซีดี ดีวีดี แล้วครับ
    สวยงามมากทุกอย่าง มีพลังที่แปลกและหมุนวน เมื่ออธิษฐานและกำไว้ในมือ ตอนสวดมนต์

    ขออนุโมทนาบุญกับพี่เพชร และคณะทุกท่านที่ร่วมงานบุญครั้งนี้ครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  11. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ขอขอบคุณครับ น่าจะมาทัน วันสำคัญ

    วันนี้ไม่ได้ Defence งาน เขาเลื่อน

    จะขอติดตัวไปครับ ถ้าไม่รอด สงสัยคงกราบองค์พิเศษสักครา

    มิรู้เหมือนกัน ความเครียดพุ่งถึงจุดสุดยอดครับ

    ตอนนี้เบาแล้วครับ สังขารหายไปแล้ว

    สาธุครับ
     
  12. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    โมทนาและยินดีกับสัมผัสที่ได้รับครับ(y)
     
  13. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ติดสอย ติดตามไปเรื่อยๆ ก็ไม่ค่อยจะรู้ครับ สนใจอยู่ประมาณนี้ว่า

    พระท่านใด เป็นอย่างไร (พระภายใน)

    ธรรมในใจ

    การนำไปติดตัว เพื่อประโยชน์ ทางใจมุ่งหวัง สำเร็จผล
    ที่สำคัญคือ ใจครับสำคัญมาก + ศรัทธาเคารพบูชา + มิได้คิดเบียดเบียนใคร

    ขอขอบคุณที่ได้รู้จัก และพี่เยาะหยันอีกท่าน และหลายๆ คน

    คงเป็นทัพพีที่ยังไม่รู้รสกระมังครับ

    สาธุครับ
     
  14. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>chaipat, nongnooo, onimaru_u, sithiphong, ชวภณ </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- currently active users -->
    พูดถึงก็มาปั๊บครับ

    สาธุครับ
     
  15. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ว่าจะไม่พูดแล้วอดไม่ได้ครับ ลองคิดดูตามที่คุณเพชรว่าไว้นั่นถูกต้องทุกประการครับ ต้องยอมรับก่อนนะครับ ว่าไม่มีใครที่จะได้รับโอกาสที่ดีมากๆเท่าคุณ คุณได้ใกล้ชิดกับท่านที่เก่งที่สุด ซ้ำยังมีคนให้สอบถามอีกหลายท่าน คิดดีๆนะครับใครกันล่ะที่จะมีโอกาสเช่นนี้ ผมยังมีโอกาสดีไม่เท่าเลยครับ ส่วนพระภายในไว้ว่างๆผมจะมีนิทานเล่าให้ฟังอีกครับ
    nongnooo...
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    (y)
     
  17. Pichet-m

    Pichet-m เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +393
    ผมได้รับ พระธาตุพระโมคคัลลานะ, CD & DVD และวัตถุมงคล เมื่อวันอังคาร

    ขอบคุณสำหรับวัตถุมงคลที่มอบให้เพิ่มเติมครับ
     
  18. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    โมทนาบุญด้วยครับ อาจารย์น้อง chaipat วันพรุ่งนี้จะนำส่ง CD+DVD 2 ชุด พร้อมสิ่งของเพื่อมอบต่อผู้ร่วมบุญทุกท่าน ขาดเหลือยังไงรบกวนแจ้งพี่ด้วยละกันนะครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ขอขอบคุณครับ น่าจะมาทัน วันสำคัญ

    วันนี้ไม่ได้ Defence งาน เขาเลื่อน

    จะขอติดตัวไปครับ ถ้าไม่รอด สงสัยคงกราบองค์พิเศษสักครา

    มิรู้เหมือนกัน ความเครียดพุ่งถึงจุดสุดยอดครับ

    ตอนนี้เบาแล้วครับ สังขารหายไปแล้ว

    สาธุครับ
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    ศึกษาเพราะใจรักก่อน รักแรกคือรักองค์ผู้สร้างผู้เสกก่อน รักต่อไปคือประวัติศาสตร์สมัยนั้น มูลเหตุการสร้าง สร้างเพราะอะไร สร้างเมื่อไหร่ ปีนั้นๆมีความสำคัญอย่างไร กลการสร้างพระสมัยนั้น ทำไมระบุปีพ.ศ. ที่เราท่านในปัจจุบัน คิดให้หัวแตกก็นึกไม่ออกว่าทำไมระบุว่าเป็นปีนั้นปีนี้ ปัจจุบัน สร้างแจกวันเดือนปีไหน ก็ระบุกันไปเลยชัดๆ แต่สมัยก่อนนั้นไม่ใช่ครับ ต้องลองศึกษาคิดทบทวนกลับไปกลับมา จะเข้าใจที่มานั้นเอง การมีที่ปรึกษารอบกาย เป็นสิ่งที่ดี และไม่ดีคู่กัน หากขอความเห็นนำมาวิเคราะห์พิจารณาด้วยปัญญา และศรัทธาประกอบจะเกิดประโยชน์มากมาย หากไม่ขอความรู้ นี่เสียเวลาครับ หลายท่านเสียดายแทนครับ เพราะทั้งใกล้แหล่งข้อมูลทั้งตัวบุคคลที่สุด และข้อมูลองค์พระจริงของพระเครื่องมากที่สุด หยิบจับถ่ายภาพเองกับมือแบบนี้ แล้วบอกไม่รู้เรื่อง แบบนี้ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- / message -->
    มิได้มีเจตนาเยาะหยันครับ เพียงรู้สึกว่า หากถึงที่สุดแห่งพระภายนอก และพระภายใน จะดีที่สุด หากพึงพอใจเพียงระดับใด ก็คงเป็นไปตามวาระของแต่ละท่านครับ

    พระเปิดโลกอาจจะช่วยให้ทั้งเรา และคู่กรณีเห็นกรรมอะไรบางอย่างร่วมกัน เราเห็นเราปลงผลกรรม เขาเห็นเขาหยุดเหตุแห่งกรรม....
     
  19. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    <TABLE class=tborder id=post1068279 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] เมื่อวานนี้, 05:20 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#602 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>naraiyana<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1068279", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 05:51 PM
    วันที่สมัคร: Jun 2007
    ข้อความ: 21 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 41 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 206 ครั้ง ใน 22 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1068279 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เมื่อวานนี้ได้รับพระธาตุพระโมคคัลลานะ, พระผงสมเด็จองค์ปฐม พระรอด พระเปิดโลก และ สิ่งมงคลอื่น ๆ ที่คุณเพชรได้มอบให้เพิ่มเติม พร้อมซีดี ดีวีดี แล้วครับ
    สวยงามมากทุกอย่าง มีพลังที่แปลกและหมุนวน เมื่ออธิษฐานและกำไว้ในมือ ตอนสวดมนต์

    ขออนุโมทนาบุญกับพี่เพชร และคณะทุกท่านที่ร่วมงานบุญครั้งนี้ครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message -->
    </TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("1068279")</SCRIPT> [​IMG] </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls --><TABLE id=table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left><!-- Start Post Groan Hack -->[​IMG] <!-- End Post Groan Hack --></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ขอตอบรวมกันเลยครับ เพราะจะได้ไม่เป็นการสิ้นเปลืองพื้นที่ของความเห็นมากนัก

    พระสมเด็จองค์ปฐมที่มอบเพิ่มเติมให้กับทุกท่านนี้ ได้รับมาจากนายทหารชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ไม่เปิดเผยนามเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อพระราชพรหมยานหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้รวบรวมมวลสารต่างๆที่มีคุณค่า สร้างแจกเป็นพุทธบูชาโดยไม่คิดมูลค่า แต่มีคุณค่าที่สูงจริงๆ ด้วยความที่มีกลิ่นของมวลสารที่หอมมาก จึงมีผู้ทดลองนำไปกำหนดเป็นสมาธิในการขึ้นกรรมฐาน ปรากฎว่าเกิดอาการปิติทั้ง ๕ และเกิดความว่าง สงบ อย่างมาก อื่นๆขอให้ได้พบประสบการณ์ด้วยตัวท่านเองจะดีกว่าครับ กล่าวมากไป จะเป็นการชี้นำ และเกิดอุปทานทั้งด้านดี และไม่ดีคือหากไม่เกิดจะเกิดจิตตกได้ ทำไมเขาได้กัน แล้วเราไม่ได้ ไม่เกิด แบบนี้ครับ เมื่อผมได้รับมาเช่นนี้ จึงขอสานต่อเจตนารมณ์ของผู้สร้าง ผู้สมทบทุนการจัดสร้าง เทพเทวาที่โมทนาบุญการจัดสร้างทั้งปวง ขอผลการบูชาด้วยสัมมาทิฐินี้สำเร็จแก่ทุกท่านด้วยเทอญ...
     
  20. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    <TABLE class=tborder id=post1068359 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] เมื่อวานนี้, 05:48 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#607 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>nongnooo<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1068359", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 10:25 PM
    วันที่สมัคร: Nov 2006
    ข้อความ: 965 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 1,605 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 7,331 ครั้ง ใน 972 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 727 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1068359 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ chaipat [​IMG]
    ติดสอย ติดตามไปเรื่อยๆ ก็ไม่ค่อยจะรู้ครับ สนใจอยู่ประมาณนี้ว่า

    พระท่านใด เป็นอย่างไร (พระภายใน)

    ธรรมในใจ

    การนำไปติดตัว เพื่อประโยชน์ ทางใจมุ่งหวัง สำเร็จผล
    ที่สำคัญคือ ใจครับสำคัญมาก + ศรัทธาเคารพบูชา + มิได้คิดเบียดเบียนใคร

    ขอขอบคุณที่ได้รู้จัก และพี่เยาะหยันอีกท่าน และหลายๆ คน

    คงเป็นทัพพีที่ยังไม่รู้รสกระมังครับ

    สาธุครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ว่าจะไม่พูดแล้วอดไม่ได้ครับ ลองคิดดูตามที่คุณเพชรว่าไว้นั่นถูกต้องทุกประการครับ ต้องยอมรับก่อนนะครับ ว่าไม่มีใครที่จะได้รับโอกาสที่ดีมากๆเท่าคุณ คุณได้ใกล้ชิดกับท่านที่เก่งที่สุด ซ้ำยังมีคนให้สอบถามอีกหลายท่าน คิดดีๆนะครับใครกันล่ะที่จะมีโอกาสเช่นนี้ ผมยังมีโอกาสดีไม่เท่าเลยครับ ส่วนพระภายในไว้ว่างๆผมจะมีนิทานเล่าให้ฟังอีกครับ
    nongnooo...
    <!-- / message -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    หากนำอายตนะ ๖ มากำกับขณะตรวจสอบ(เหมือนตั้งใจว่ากำลังกำหนดหายใจ) หรือไม่ได้เจตนาตรวจสอบ(หมายถึงการหายใจแบบอัตโนมัติ)ก็ตาม ดูทั้งรูป และนาม จะเข้าใจหลักธรรมข้อนี้ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ จะวางนั้นวางอย่างไร หากสัมผัสได้ รู้สึกได้ อายตะ ๖ เกิดแล้ววาง หรือไม่ได้อายตะ ๖ แล้ววางนั้นต่างกันมาก สิ่งนี้คือรู้ว่ารู้ รู้ว่าไม่รู้ หรือว่า..ไม่รู้ว่าไม่รู้ ต่างกันมาก..

    หลวงปู่ชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง ได้แสดงธรรมข้อนี้ไว้อย่างชัดแจ้งว่า หากสามารถรู้อายตะ๖ เปรียบดั่ง ตาข่ายใยแมงมุมที่ชักใยรอเหยื่อ ตัวมันเองไปอยู่ตรงตำแหน่งศูนย์กลางแห่งสายใย การรู้ว่าเหยื่อเข้ามาใกล้ ไม่ต้องให้เหยื่อเข้ามาถึงตัว เพียงกระทบใย แมงมุมก็ "รู้" เพียงคร่าวๆ หากสนใจคงต้องค้นหามาอ่านกัน คำสั้นๆ แต่อรรถาธิบายเป็นเล่ม..
     

แชร์หน้านี้

Loading...