สอบถามอาการสมาธิ ไม่ทราบว่าหลงทางหรือเปล่า

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ชั่งเถอะ, 29 ธันวาคม 2017.

  1. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339
    ขอเรียนถามท่านที่มีประสพการณ์ เรื่องการนั้งกรรมฐานนี้ครับ
    เริ่มจาก เข้าสู่สมาธิ ผ่านทั้ง 4 ฌาน จน ลมหายใจดับไป แต่ยังรู้สึกได้ว่ามีอยู่ เสียงยังพอได้ยินแว่ว ๆ แต่ไม่รู้ว่าเสียงอะไร ความรู้สึก จมดิ่งไม่มีความรู้สึกอะไร พอได้สักพัก จึงถอนออกโดยการเริ่มกำหนดลมหายใจใหม่ บริกรรมพุทธโธ
    หลังจากนี้จึงเข้าสู่การพิจารณา ธาตุ 4 ขันธ์ 5 หลังๆ มานี้จะเริ่มแทน ร่างกายเป็น สัตว์เลี้ยง เหมือนสุนัข จิตเป็นเจ้านาย หากมันหิว ก็ให้อาหาร ตายก็จบ คือมันเป็นแค่สัตว์เลี้ยง ไม่ใช่ตัวเรา ประมาณนี้
    ช่วงหลังๆ มานี้ จะมีบางครั้งรู้สึก ว่าตนเองบรรลุโสดาบันแล้วแน่ๆ บางครั้งในตอน พิจารณา ธาตุ 4 ขันธ์ 5
    ครั้งแรกที่เป็นนั้นเป็นอยู่ เกือบ 3 วัน มันไม่มีความรู้สึก รู้สาใดๆ เจ้านายด่า ก็ไม่โกรธ รู้สึกสงสารเขาแทน กินข้าวก็ไม่อร่อย หลังจากนั้นจึงรู้ตัว ว่าไม่ใช่ละ มีบางอย่างไม่ถูกต้อง โดนหลอกแล้ว แน่นอน หลอกตัวเอง ตอนเย็นวันที่ 3 อาการที่รู้สึกว่าสำเร็จแล้วเริ่มเบาลง และรู้แน่ชัดว่าหลอกตัวเอง
    ก็นั้งกรรมฐานมาเรื่อยๆ ตามเดิมครับ แต่พักหลังๆ นี้จะมีอาการแบบรู้สึกว่าตัวเอง ได้บรรลุโสดาบันบ่อยๆ แต่หลังจาก ออกจากกรรมฐานก็ มานั้ง วิเคราะห์ ตัวเองใหม่ ว่ามันไม่ใช่ หลอกตัวเองเรื่อยเลย แต่ความรู้สึกตอนนั้นมันเด่นชัดมาก
    ผมวิเคราะว่า อาการเหล่านี้มาจากการเข้าฌานลึกเกินไปรึเปล่า ทำให้ติดอยู่ใน อุเบกขา ปล่อยไม่ออก ทำให้จิตคิดว่า เราตัดร่างกาย หรือ ยอมตายได้แล้ว
    เป็นอาการหลงผิด หรือไม่ ต้องกลับหลังแล้วเดินทางใหนต่อ เราคิดว่าปฏิบัติตาม จาก ครูบาอาจาร์ย ท่านเทศสั่งสอน เคยไปถามที่วัดป่าธรรมยุตร หลวงพ่อท่านก็ว่าเราบ้า มันไม่มีหลอก เข้าฌานอะไร อย่าไปคุยกับพระรูปอื่นอีก ให้นั้งสมาธิเมื่อรู้สึกว่าจิตสงบ แล้วก็ พิจารณาเลยไม่ต้อง เข้า ฌาน เพ้อเจ้อ
    วันนั้นรู้เลย ว่าพระแต่ละที่นั้นท่าปฏิบัติไม่เหมือนกัน ไม่ควรถามจนกว่าจะแน่ใจ แต่ที่ๆ เราแน่ใจว่าถามได้ก็อยู่ไกล เหลือเกินจากที่เราทำงานอยู่ ไปวันเดียวกลับนี้ คงจะไม่ได้อะไร
    ผมทำงานอยู่ที่พัทยาครับ บ.อสังหา ทำคอนโด ให้นายฝรั่ง ทำงานแต่ละวันนี้ก็ล้ามากแล้ว จนจิตตกเริ่มไม่อยากไปทำงานอยากนอนอยู่บ้านเฉยๆ แต่ว่าเรายังมีภาระอยู่เมียบ้านรถยังต้องทำงานอยู่ จนต้องมาอาศัย นั้งกรรมฐานช่วยให้ จิตไม่ตก ก็กลับมาเป็นปกติ เมื่อก่อนก็ ปฏิบัติมาบ้าง ทำๆ หยุดๆ แต่ตอนนี้ทำทุกวัน ครับ เริ่มนั้งประมาณ 2 ทุ่มนิดๆ จะเข้าได้เร็วมาก จากเริ่มต้น ขณิก จะถึงฌาน 4 เต็ม ที่ บางครั้ง เริ่มบริกรรมหายใจเข้าแค่พุทธ ยังไม่ทั้นหายใจออก โธ เลย มันก็ไหลดิ่งวูบลง ไปเรื่อยๆ จนจบฌาน 4 โดยส่วนตัวแล้วคิดว่ามันเร็วมาก หายใจเข้าไม่ถึง 4 ครั้ง แต่ ได้เต็มที่ไม่เกิน 1 ชั่วโมง น้อยๆ ก็ 20 นาที จิตเริ่มเคลิ้มจะหลับก็เลิก นอน ตื่นอีกที ประมาณ ตี 4 ก็ลุกมานั้งอีกที อันนี้จะได้นานครับ แต่มันจะเข้ายากกว่า ต้องมีเกิน 2 3 ร้อยลมหายใจ ถึงจะจบได้ที่ ฌาน 4 จนนาฬิกาปลุกตอนเช้า 7 โมงเช้า ก็ออกกรรมฐาน อาบน้ำแต่ตัวไปทำงาน

    ท่านใดมีประสพการณ์ ช่วยวิเคราะห์ให้ผมด้วยครับ ผมบ้าตามพระท่านว่า รึว่าหลงทาง ควรจะกลับมาเริ่มต้นใหม่อย่างไรดี

    หลงมาแล้วก็หลงไป
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ผมอ่านดูแล้วก็เหมือนอย่างที่พระท่านว่านะคับ ท่านยังไม่ได้ฌานสี่

    คนที่ได้ฌานสี่จริง. อย่างแรก ไม่หลง ไม่มีฟุ้งซ่านหรอก

    สอง ถ้าได้จริง ย่อมสามารถ ใช้อิทฤทธิได้จริง. ตัว จขกท. ทำอะไรได้บ้างคับ ถามจริงๆๆ. หูทิพทย์ ตาทิพท์. ดูอดีตชาติ หรือรู้อนาคต ได้ไหม. เรียกนิมิตขึ้นมาได้ไหม. อื่นๆอีกมากมายให้พิสูจน์ นอกจากที่ยกมาก็อีกมาก นี่แค่ยกตัวอย่างเล็กๆน้อยๆ

    สาม แค่อุปจารสมาธิ นี่ก็จะเริ่มใช้งานได้แล้ว จขกท ทำอะไรได้บ้าง คับ

    สี่ ลมหายใจดับไป ไม่ได้หมายความว่าได้ฌานสี่. คือ จขกท อานานปานสติ อยู่ การที่ปฏิบัติ จนรู้ จนถึงขั้นลมหายใจไม่มีหายใจ แค่พื้นฐานเริ่มต้นขั้นแรกๆเท่านั้น แค่เพียงทำได้แค่ให้ร่างกายสงบจนถคงขั้นไม่ได้ใช้ปอดหายใจเฉยๆครับ. ก็เหมือนเด็กที่อยู่ในท้องเฉยๆแค่นั้นครับ. แค่ขั้นหยาบๆ ที่ไม่มีลมหายใจหยาบๆ

    ห้า. ตอนที่จมดิ่งอยู่นั้น จิตกำลังเริ่มที่จะเปลี่ยนจากหยาบไปละเอียด จิตกำลังจะเข้าสมาธิ. แต่ๆๆ จขกท กลับถอนออกมาก่อนเพราะ จิตยังไม่ได้สงบจริงๆจนถึงฐานของจิต จนจิตเป็นสมาธิ จนจิตเห็นตัวจิตเดิมแท้ ครับ. ลิงถามตัวเองดูครับ. ว่า จิตเห็นจิต เป็นอย่างไร จิตเดิมแท้เคยเห็นหรือไม่ เป็นอย่างไร. ถ้าไม่เข้าใจไม่รู้ว่าคืออะไร ก็แสดงว่ายังไม่เข้าไปเห็นตัวจิต ยังไม่ได้ฌานสมาธิ

    หก คุณบอกว่ากลับมาลมหายใจ พุธโธใหม่ นี่ก็ทำให้รู้ว่า คุณปฏิบัติมาทาง พุธโธ. ถ้าคุณเคยอ่านศึกษาคู่มือ หรือตามเว็บต่าง คุณก็จะหาอ่านรู้ได้ว่า กรรมฐานพุธโธ นั้น สูงสุดคือ สมาธิ กำลังสมาธิ คับ. ถ้าไม่รู้วิธีที่จะปรับเปลี่ยนเข้าให้ได้สูงกว่าขึ้นไป.

    เจ็ด คุณว่ากลับมาพิจารณาธาตุสี่ ขันต์ห้านั้น. ผมก็ว่าคุณคงพิจารณาแบบความรู้ ที่ได้อ่าน ได้ฟังมาแบบโลกๆ ไม่ใช้ปัญญาที่รู้ที่เกิดจากสมาธิ ใช้ไหมครับ. ก็เพราะว่า. จิตคุณยังไม่ได้เข้าสมาธิ. จิตยังไม่เป็นสมาธิ. ก็เลยไม่ใช้ปัญญาที่เกิดจาก ภาวมยปัญญา นั้นเอง. เพราะ ตัวจิตคุณไม่ได้เป็นผู้สอนเอง คุณเพียงแค่ พิจารณาจากความรู้คุณเคยฟังคนอื่นมาเคยท่องจำมา ครับ

    แปด.

    ผมพิมพ์ในโทสศัพท ไว้ผมใช้คอมเมื่อไหร่ เดี๋ยวจะมาพิมพ์ต่อครับ. คาดว่าน่าจะได้ถึง 20 ข้อ.

    เอาคร่าวท้ายสุดก็คือ คลิ้มๆจะหลับ อาการง่วงนอน ไม่มีทางเกิดได้หรอก. ถ้าจิตทรงสมาธิ ทรงฌานอยู่ เพราะการที่จะทรงเข้าฌานได้นั้น นิวรณ์ 5 ต้องไม่มี เป็นพื้นฐานพื้นๆอยู่แล้วคับ. มันเกิดนิวรณ์ไม่ได้หรอก คร่าวๆแค่นี้

    อ่านแล้วก็อย่าจิตตกหวั่นไหว กำลังใจตก ถือว่าสนทนาธรรม กันตามที่ผมรู้มากันคับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2017
  3. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339

    การได้อภิญา นี้ต้องมาจากการฝึกกสินทั้งหลายนะครับ ตาทิพย์ ก็มาจาก อาโลกสิน เตโชกสิน โอทาตกสิน ฌาน 4 แค่ฌานครับท่าน แค่จิต ที่ตกลงในสมาธิที่ลึกกว่า อุปจารสมาธิ
    ผมได้ฌาน 4 มานาน มากๆ แล้ว ตั้งแต่อายุ 16 ตอนนั้นบวชเณร 1 พรรษา หลวงพ่อคำแพง ที่วัดหนองบัวลำภู ท่านเป็นอาจาร์ยผม แต่ท่าน มรณะภาพไปแล้ว ไม่มีครูบาอาจารย์อื่นให้ผมสอบถามได้ตาม นิสัยของผมอีก ตอนนี้ผม จะ 40 แล้วครับ เอาเป็นว่าผม ไม่หลง เรื่องฌานแล้ว มันจะอยู่ฌานไหน รึแค่ ขณิกก็ช่างมัน มันแนบแน่นกับผมมานานแล้ว มีทั้งเสื่อมและเจริญ เอาเป็นว่า ฌานเป็นเรื่อง ของบุคคลที่ทราบได้เอง ไม่ต้องพูดถึงอีก

    แต่ เรื่องที่ไม่ทราบนี้คือ ที่ผมหลงอยู่นี้ จะทำยังไงให้ตอนที่เราพิจารณาอยู่ ไม่ให้หลงเรื่องเห็นธรรมแล้ว คิดว่าสำเร็จแล้ว มากกว่า เพราะตอนนี้นั้งทีไรก็ยังมีความรู้สึกแบบนี้อยู่

    อีกเรื่องคือ สมาธิ อุปจาร นั้นยังมีนิวรณ์ 5 เข้ามาเจืออยุ่เนืองๆ มันใช่ได้ครับแต่ใช้ไม่ดี มันรบกวนตอนเราพิจารณา ทำให้พิจารณาได้ไม่เต็มที่ครับ

    ฌาน 4 นี้แค่ โลกีย์ ฌานคับ ยังรัก โลภ โกรธหลง อยู่เหมือนเดิม แค่ตอนที่ถอนจากฌาน 4 ออกมา แล้ว อุเบกขาฌาน จะติดออกมากับเรานานแค่ไหน

    ฌาน 4 นี้ยังไม่ได้บรรลุนะครับ จะได้ไม่หลงเลย หรือท่านว่า อย่างไรครับ

    พระเทวทัต ท่านบรรลุ ได้ถึง ธรรมขั้นสูง เหาะได้ แปลงกายได้ ท่าน ยังหลงทางแบบนั้น รูปฌาน 4 หรือ อรูปฌาน 4 ก็ยังหลงอยู่ครับท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2017
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    คิดมากไป ทิ้งๆไปเหอะสมาธิอย่างนั้น
    เอาแค่เราดีขึ้น และอยู่ร่วมกับสังคมได้ดีขึ้นไหม
    เป็นตัวชี้วัดก็พอครับ ระดับฌาน ๔ ไม่ใช่อย่างที่คุณ
    เข้าใจครับ และจะไม่เป็นอย่างที่คุณเป็นครับ ยังไงค่อยๆพิจารณานะครับ

    ปล ถามเล่นไปนะ ๑ เข้าฌาน ๔ ครั้งแรกจิตอยู่ไหน?
    ๒ ยังมีปิติอยู่มันฌานไหน?
    ๓ ถ้าเข้าฌาน ๔ ได้อีก ต่อไปจิตเป็นไง?
    ๔ และเข้าได้อีก จิตไปต่อยังไง ?
    ประกันว่าไม่ใช่แบบที่คุณเข้าใจไปเองหรอกครับ
    ปล ฌาน ๔ จิตไม่ผูกกาย ไม่ผูกทรงจำในอดีตและความคิดแล้วครับ แม้มีสัมผัสมันก็เป็น สัมผัสใหม่
    ไม่ใช่สัมผัสเดิมที่เคยเป็นมาก่อน เข้าใจที่สื่อนะครับ
    ค่อยๆเป็นค่อยไปนะครับ
     
  5. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    ระหว่างทาง ก็ต้องเจออะไรต่างๆมากมาย แต่ควรรู้เป้าหมายให้ชัดครับ จับปลายให้ได้

    ศีล 5 กรรมบท10 พรหมวิหาร 4 สังโยชน์ 3

    ถ้าตั้งใจจริง มองไปที่ สังโยชน์ 3 ครับท่าน
     
  6. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339
    ถือว่าผม ไม่ได้ถามเรื่อง ฌาน ใดๆ ก็แล้วกันครับ เนื่องด้วย ผมไม่มีครูบาอาจาร์ยเหลือแล้ว ไม่ทราบจะไปสอบถามใคร ถามใครก็ว่าบ้า เพราะอะไรไม่ทราบ เรื่อง การเข้า ฌาน นี้เป็นเรื่องต้องห้ามในการพูดคุย และปรามาส กัน มันจะเป็นบาป ไปเปล่า ๆ
     
  7. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    แสดงว่าถามผิดที่ คับ. ถ้าท่านถามทางสายพระป๋า ถ้าเป็นคนนอกวงนอก จะแค่เรื่องสมาธิ กับคาวาส ถ้าวงใน พระด้วยกัน ก็มีสอนฝึกฌานตามแต่ครูบาอาจาย์ครับ

    ถ้าอยากสอบถามเรื่องพวกนี้ ต้องครูบาอาจารย์สายหลวงปู่ปาน ครับ
     
  8. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    ไม่ได้บ้าหรอกครับ
    โทสจริต ควรฝึก วัณณกสิณ และ พรหมวิหาร ครับ
     
  9. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339
    1. มันนานมากแล้วครับ 20 กว่าปีแล้ว จำไม่ได้แล้ว จิตมันก็อยู่กับเราในตัวเรานี้ละครับ ไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้ส่งจิตออกนอก
    2 ปิตินี้ผมติดอยู่นานสมัยนั้น เป็นเดือน มีครบหมด ที่ฌาน 2. ครับ หัวโต ตัวโต มือเท่าใบพาย อุ้มตุ่ม กรดหมุ่น ตัวโยก หัวทิ่มพื้น ตัวเบา ฯลฯ กว่าจะหลุดมาได้นั้นทรมาณมาก บางครั้งปวดหัวเหมือนหัวจะระเบิด ผ่ามาได้พอขึ้นฌาน 3 ดีใจมากจนร้องไห้ มีความสุขที่สุด ตอนที่นั้ง ยอมตายได้ตอนนั้น ผมเชื่อใน พระรัตนไตร สุดใจ ตอนนั้น ฌาน 3 เมื่อได้ครั้งแรกจำไม่ลืม ไม่เหมือนฌาน 4 มันไม่มีความทรงจำให้จำตอนเข้าได้ครั้งแรกเป็นยังไง จำได้แต่ ว่าหลังจากวันนั้น ผมรู้สึก เหมือนเฉย ไปหมด ไม่หิว ไม่อะไรเลย เป็นอยู่ 3 4 วันแล้วก็หาย

    ข้อ 3.และ 4. ขอตอบรวม ครั้งที่ 2 มันนานมากแล้ว รู้แต่ตอนนี้ คือ อยู่ต่อหน้า จิตผมรวมที่นี้ ไม่ได้ส่งออกนอก ผมรู้สึกว่ามันว่างเปล่าไปหมด บางครั้งความรู้สึกว่าจิตจะหายไป มันเวิ้งวาง ไปหมด
     
  10. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339
    ขอบคุณมากครับ จะลองไปตามทางท่านว่าครับ
     
  11. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339
    ถามเยอะเหลือเกินครับ พิมพ์ตอบในโทรศัพย์ไม่ไหว ข้อแรกๆ ตอบไปให้แล้ว ขอตอบข้ามมาข้อ 8 เลยนะครับ
    ฌาน 4 นั้น ใช้พิจารณาใดๆ ไม่ได้ครับ ไม่มีความคิด ความรู้สึกทางร่างกาย ใจก็ดับ ปัญญาไม่เกิดครับ เมื่อก่อนต้องถอนออกจนเหลือแค่ อุปจารสมาธิ จึง ใช้ปัญญา ที่ได้มาพิจารณาครับ มันเกิดเอง ไม่ได้คิด ครับ เพียงแต่ผมพิจารณา เรื่อง ธาตุ 4 ขันธ์ 5 นี้มานานแล้วครับ ไม่ได้พิจารณาอย่างอื่นเลย จึงไม่ต้อง ตั้งจิตไว้ตอนแรกแล้ว

    เดี๋ยวนี้ก็เริ่มจากเมื่อเข้าฌาน 4 แล้ว สักพัก พักใจไว้ตรงนั้นให้เราเริ่มมีกำลังใจ ผ่อนคลาย ใจจากการทำงานมาทั้งวัน เคยรอให้มันถอนเอง ใช้เวลานานครับ นานเกินไป ปกติผมจะรอ จนรู้สึกว่ามันจะนานเกิน ตั้งใจไว้ไม่เกิน 10 นาที ประมาณในใจ หากเกินกว่านี้จะเริ่ม ให้มีลมหายใจก่อน แล้วก็ คิดถึง ธาตุ 4 เลยครับ มันจะมาเอง ไม่ต้องนึกต่อแล้ว จะมันสิ้นสุดกระบวนการ บางครั้ง สมาธิ มันจะดิ่งลงใหม่ ลงมาที่ ฌาน 4 อีก ปัญญา กับจิตก็จะนิ่งอีก ต้องคอยกำหนดลมให้มันใหม่ บางครั้งต้องช่วยโยกตัวซ้ายขาว นิด ให้ ฌานมันไม่ตกลง ไป ฌาน 4 อีก เลี้ยงไว้ ที่ 2 -3 ปลาย ๆ ครับ

    กระบวนการที่ว่ามานี้ ในการเข้าฌาน ปัจุบันนี้ ไม่มี ปิติ หรือสุข ใดๆ ให้ติด ให้แก้ตามแล้วครับ มันผ่านมา จนชินไปหมดแล้ว แล้วก็ผ่านเลยไป นอกจากจะหยุด และไป กำหนดดูมัน มันถึงจะ ออกมาให้เห็น ให้รู้สึกครับ อยากสุข ก็ไป หยุด ฌาน 3 ดูที่สุข ครับ แต่ต้องคอยดึงจิตไว้ไม่ให้ลงฌาน 4 ดึงนานๆ ก็เหนื่อยครับ พอปล่อย แล้วมันจะดิ่งลงจนไปถึงละเอียด มากๆ จนดึงกลับมาพิจารณายาก ผมจึง ไม่ค่อยเข้า ฌาน 4 แบบละเอียดอีก อยู่แค่ กลางๆ ไม่ให้มันไหลไป แล้วก็ออก ตามที่ว่ามาแต่ต้น

    จึงกลายเป็น สมาธิ ตกมา ที่ อุปจาร ครับ นิวรณ์ 5 จึงเข้าได้ครับ จากร่างกาย และจิต มันล้ามาทั้งวันแล้ว มันจึง เคลิ้มจะหลับครับ
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ยังไงค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะครับ (^_^)
    คุณไม่ได้หลงทาง
    แต่เข้าใจสภาวะคาดเคลื่อนครับ
    อย่าพึ่งรีบฟันธงอะไร
    สิ่งที่คุณตอบและเข้าใจมันฟ้องครับ
     
  13. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    ขออนุญาตสักนิด
    ปฎิบัติ สมถ วิปัสสนา เกิดทั้ง บุญ กุศล
    เมื่อมี บุญ กุศล แล้ว ก็สามารถทำให้เกิดประโยชน์แก่ตน และ ผู้ที่มีกรรมร่วมกันได้ เช่น พ่อ แม่ ลูก เมีย
    ปล่อยไปเฉยๆ เหมือนเสียโอกาศ

    อธิฐาน ตอนไหนก็ได้ วันละกี่ครั้งก็ได้
    บุญ กุศล ที่ลูกทำไว้ดีแล้วนี้ ขอจงสำเร็จแก่ข้าพเจ้า
    บุญ กุศล ที่ลูกทำไว้ดีแล้วนี้ ขอจงสำเร็จแก่ .........

    ประโยชน์ของการปฎิบัติมีมากมาย
     
  14. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339
    ช่วยอธิบายต่อได้มั้ยครับ เรื่องสภาวะคลาดเคลื่อน เรื่องนี้ผมถาม อาจารย์ ตอนที่ท่าน ยังไม่ มรณะภาพ ท่านก็ยื่นยันให้แล้วว่าเป็น อัปนาสมาธิ แล้ว แต่ตอนนั้นยังเข้าได้ ไม่สุด ฌาน หรือผม จะหลง จากวันนั้นมา หลงในสมาธิ คลาดไปคลาดมา ต้องการครูบาอาจารย์ ให้ได้ถกปัญหาถามปัญหาแบบ ตัวต่อตัวครับ เนื่องจากผมเป็นคนดื้อ ต้องมีสามารถ หาเหตุผล ต่าง ๆมาแย้งให้ผมจนมุม ได้ ถึงจะเชื่อครับ ไม่งั้นมันจะคาใจครับ ผมจะมีเหตุผลต่างๆ ที่ทำให้คิดว่าอย่างนั้น แล้วต้องการคำตอบ ของการคิดว่าอย่างนั้น พยายามถามหลายคนที่เขาว่าปฏิบัติธรรมเขายังว่าเราบ้า

    คิดว่าจะไปวัดที่ใกล้ นี้คือ วัด สวนสันติธรรม พอคิดว่าจะมีหลวงพี่ หลวงพ่อ ซัก รูป สนทนาไขข้อข้องใจให้ได้รึเปล่าครับ ในเป็นแบบนี้มานาน ไปถามพระครั้งแรกก็เจอด่าบ้าเข้าให้เลย ไม่อยากไปแบบให้เสียอีก คือจะกลายเป็น ตัวเราปรามาสพระไปแทน กลัวจะบาป เอาอีก
     
  15. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    ท่านลองหาฟังจากเวป อาจลดข้อสงสัยได้บ้าง

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ สมาบัติ 8 ปฎิสัมภิทาญาน
     
  16. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    ปฎิบัติธรรมตอนนี้ผมไม่เห็นมีอะไรสงสัยเลย ทุกอย่างมันก็แค่เป็นสิ่งเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป. ไม่มีราคาอะไร. กลับมาละกิเลส ตรงๆเลยดีกว่า
     
  17. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ขอแสดงความเห็นนะคะ สมาธิหากปฏิบัติทุกวันเป็นการสั่งสมกำลังสมถะค่ะ ซึ่งจะใช้ในการเจริญวิปัสสนาต่อไป

    ถ้าปฏิบัติด้วยความอยากสำเร็จก็จะโดนจิตหลอกเอาได้ ควรพิจารณาว่าขณะที่นั่งนั้นเป็นไปตามลำดับขององค์สมาธิหรือไม่ ก่อนนั่งได้อธิษฐานไว้ก่อนว่าต้องการนั่งนานแค่ไหนหรือไม่ ต้องการให้จิตดำเนินไปถึงฌานไหน พอนั่งแล้วให้ดูลมหายใจไปเรื่อยๆ หายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้ อย่างนี้ จนเข้าถึงสมาธิและดำเนินไปตามลำดับฌาน

    การบรรลุธรรมขั้นโสดาบันนั้น ต้องผ่านวิปัสสนาญาน 9 และเกิดโสฬสญาน องค์ศีล สมาธิ ปัญญา รวมลงเป็นมรรคตัดกิเลสสังโยชน์ขั้นต้น 3 ข้อขาดสะบั้น

    สภาวะที่เกิดกับเจ้าของกระทู้คืออารมณ์ของสมาธิที่เกิดสืบเนื่องค่ะ ลองถอยลงมาแล้วยกข้อธรรมหรือกรรมฐานกองใดกองหนึ่งขึ้นพิจารณาดูนะคะ

    ขอให้เจริญในธรรมและอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ
     
  18. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    น้องครับ อัปนาฯ อะไรนั่นนะมันมีหลายระดับ

    ประเด็นหลักๆมันคือสมาธิที่แนบแน่น...แต่น้องเล่าว่า

    เข้าฌาน ๔ อะไรประมาณนี้ คือ ถ้าน้องทำได้จริงนะ

    จะไม่มาสงสัยหรือมาถามอะไรอย่างนี้หรอก.....


    สมาธิมันก็คือการกดหรือข่ม ข่มอะไรก็ ข่มความคิด

    บ้างก็ว่าเป็นการข่มจิต ถ้าในทางวิทยศาสตร์

    ก็คือการลดระดับคลื่นความถี่สมอง ที่มันส่งกลับไป

    กลับมาระหว่างจิตเรานั่นหละครับ....

    สมาธิยิ่งสูง คลื่นความถี่ตรงนี้มันจะยิ่งต่ำลงเรื่อยๆ

    ในระดับลืมตาปกติคลื่นสมองเราจะสูงมีค่าหลักสิบกว่า Hz

    ถ้าอุปจารสมาธิ คือ ระดับที่เห็นนามธรรมต่างๆได้

    ไม่ว่าจะเห็น ผี เทวดา กิริยา พิสดารอะไรก็ตามอย่างที่น้องเจอ

    ถ้าชัดเจนและถ้าน้องเผลอคิดแล้วกลับ

    มาอยู่สภาวะเหมือนลืมตาปกติ

    แสดงว่ากำลังสมาธิของน้องอยู่ในคลื่นระดับนี้ ประมาณ

    ๔ ถึง ๘ Hz ถ้าคลื่นหลับหรือต่ำกว่า ๓ Hz ลงมา

    เราจะเทียบได้กับปฐมฌาน และลดลงมาเรื่อยๆ

    จนถึงระดับต่ำกว่า ๑ และเข้าใกล้ 0. Hz ตรงนี้

    ถึงเรียกว่าระดับฌาน ๔


    และถ้าการเห็นนามธรรมชัดเจนแม้ไม่เห็นภาพอะไร

    แต่น้องเหมือนคิดได้

    แต่ว่ายังอยู่ในสภาวะนี้ได้ต่อไป ตรงนี้แสดงว่า

    อยู่ระดับปฐมฌานเท่านั้น ถ้าเราเห็นเป็นแสง

    แสดงว่าจิตเราทำได้เมื่อมีแสงนำ

    ถ้าเราเห็นเป็นภาพแสดงว่าจิตเราทำงานแบบ

    มีเส้นสายนำ ถ้าเราเห็นทั้งภาพและสีสัน

    แสดงว่าจิตเราทำงานได้ทั้งสองกิริยาพร้อมกัน

    ซึ่งตรงนี้ก็ยังเป็นแค่ระดับสมาธิระดับพื้นฐาน

    พูดง่ายๆ ว่าแค่ระดับสิวเสี้ยน หรือ ป.ขี้ไก่นั่นหละครับ

    (ไม่ได้ดูถูกแต่พูดให้เห็นภาพ)


    จิตมันอยู่กับกาย สมาธิยิ่งสูงขึ้นภาพก็จะยิ่งไม่มี

    มันจะมีได้อย่างไร เข้าใจไหม เพราะจิตมันกำลังถูกลด

    ระดับคลื่นความถี่เรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าใกล้ศูนย์

    ถ้าน้องไม่ได้ฝึกด้วยกรรมฐานที่ใช้ภาพนำ

    ตัวจิตน้อง มันจะเสนอหน้าออกไปข้างนอกกาย

    เพราะนิสัยเดิมของจิตมันชอบท่องเที่ยวเป็นทุน


    พูดง่ายๆว่า น้องจะเห็น ไอ้คนที่มันหัวดื้อหัวรั้น

    หน้าตาเหมือนตรูมากเลย มันนั่งหน้าสล่อนอยู่อีกตัวหนึ่ง

    นั่นหละครับ ตรงนี้คือ ระดับฌาน ๔ ถ้าเข้าได้ในครั้งแรก

    จะเป็นอย่างนี้ครับ ยกเว้นคนหลงสภาวะเท่านั้นหละครับ

    ที่จะบอกว่า เข้าฌาน ๔ แต่จิตยังอยู่ในร่างกาย ตรงนี้

    พอเข้าใจหรือยังครับ.......


    น้องต้องมาเจริญสติให้ต่อเนื่อง สร้างกำลังสมาธิสะสมอีก

    จนกระทั่งครั้ง ที่ ๓ หรือ ๕ โน้นหละ ถึงจะมีกำลังบังคับให้

    ไอ้จิตโง่ๆนี้ มันอยู่ในกายเราแบบนิ่งๆได้ ซักพักหนึ่ง

    นิ่งในที่นี้คือ มันแยกกับกายเด็ดขาดชั่วคราวแล้วนะ

    พูดง่ายๆน้องจะมองเห็น ผนังท้องตัวเองจากได้ในนั่นหละครับ

    ตรงนี้ พอเข้าใจขั้นต่อมานะครับ.....


    และพอทำตรงนี้ได้อีก ก็แล้วแต่ว่า จิตน้องมันจะไปทางด้านไหน

    ซึ่งมันจะไปได้ ๒ ทาง คือ มันจะวิ่งดูอวัวยะภายในตัวเอง

    จนเกิดการระเบิดเสียงดังเหมือนฟ้าฝ่า

    น้องจะได้อานิสงค์เรื่องการยึดติดร่างกาย


    หรือถ้า มันวิ่งซ้อนทับและระเบิดเรื่อยๆเข้าไปในจิต

    น้องจะได้อานิสงค์ ตรงถ้าเราลืมตาปกติ

    เราจะกลายเป็นคนที่มีความสามารถทางจิต

    ขึ้นมาใช้งานได้ แบบปกติๆ ชิวๆ ยิ่งกว่าแกะสิ้วเสี้ยน


    จะบอกว่า ทั้ง ๒ ทางนี้มันจะเป็นไปของมันเอง....


    ไอ้พวกกิริยา มะเขือเผา ถูกดูดซ้อนเข้าไปในอุโมงค์

    ในถ้ำ ในโน้น ในนี่ ไปโผล่โน้นนั่นนี้

    พวกนี้ มันกิริยาที่เกิดขึ้นได้ปกติ ในกำลังสมาธิไม่มาก

    แค่ระอุปจารสมาธิที่นานหน่อยมันก็เกิดแล้ว

    ให้ระวังให้ดีๆครับ.

    และถ้ามีแสงสว่างเหมือนมีคนมาเปิดสปอร์ตไลท์

    แต่แสงไม่เย็นนี่มันแค่ ระดับปฐมฌาน เพียงแต่จิตทำงานได้

    เท่านั้นเองครับ

    เด่วว่ากันใหม่

    OK
     
  19. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014


    เริ่มจาก เข้าสู่สมาธิ ผ่านทั้ง 4 ฌาน จน ลมหายใจดับไป แต่ยังรู้สึกได้ว่ามีอยู่ เสียงยังพอได้ยินแว่ว ๆ แต่ไม่รู้ว่าเสียงอะไร ความรู้สึก จมดิ่งไม่มีความรู้สึกอะไร พอได้สักพัก จึงถอนออกโดยการเริ่มกำหนดลมหายใจใหม่ บริกรรมพุทธโธ
    หลังจากนี้จึงเข้าสู่การพิจารณา ธาตุ 4 ขันธ์ 5 หลังๆ มานี้จะเริ่มแทน ร่างกายเป็น สัตว์เลี้ยง เหมือนสุนัข จิตเป็นเจ้านาย หากมันหิว ก็ให้อาหาร ตายก็จบ คือมันเป็นแค่สัตว์เลี้ยง ไม่ใช่ตัวเรา ประมาณนี้

    ตรงนี้ขอตอบว่า วิธีที่คุณฝึกอยู่
    เค้าจะเรียกว่า โสดาปัตติมรรค
    หรือ วิธีฝึกไปเป็น พระโสดาบัน
    เป็นวิธีการที่ถูกต้องแล้วครับ
    สามารถฝึกจนบรรลุธรรมได้เลย




    ช่วงหลังๆ มานี้ จะมีบางครั้งรู้สึก ว่าตนเองบรรลุโสดาบันแล้วแน่ๆ บางครั้งในตอน พิจารณา ธาตุ 4 ขันธ์ 5

    ตรงนี้ขอตอบว่า
    เค้าจะเรียก ความรู้สึกที่ตนเองผ่านแล้ว
    ว่า โสดาปัตติผล หรือ พระโสดาบันเต็มขั้น
    จะมองทุกสิ่งรอบกายอย่างเบาๆ
    ไม่ค่อยมีอะไรหนักแล้ว
    มีก็ได้ ไม่มีก็ได้
    ผู้ที่ถึงตรงนี้ จะมีความอยากสอน
    อยากให้ผู้อื่น บรรลุธรรมตามตนเอง
    ซึ่งเป็นอารมณ์ทั่วๆไป ของชั้นนี้
     
  20. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014



    ที่เค้าทำนั้น ผ่านวิปัสสนาญานเก้าแล้ว
    ซึ่งก็คือ ธาตุสี่ และ ขันธ์ห้า นั่นเอง

    ธาตุสี่ คือ พิจารณา ดิน น้ำ ลม ไฟ
    วิธีนี้จะผ่าน การแยกรูปนาม ไปในตัวแล้ว

    ส่วน ขันธ์ห้า คือ การแยก
    รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน
    วิธีนี้ก็แยกรูปแยกนาม อยู่ในตัวเหมือนกัน

    คำกล่าวที่ว่า ไม่ได้ผ่านการ แยกรูปแยกนาม นั้นไม่ถูกต้อง
     

แชร์หน้านี้

Loading...