ความเป็นไปได้ในการป้องกันและชะลอการเกิดภัยพิบัติ

ก่อนอื่นเราต้องทราบเหตุแห่งการเกิดภัยพิบัติ ที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้ก่อน โดยขอแยกออกเป็นสองประเด็น

ประเด็นแรก

สาเหตุการเกิดภัยพิบัติทางด้านวิทยาศาสตร์

  1. เกิดจากความขาดความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งใช้ทรัพยากรของโลกอย่างทำลายล้างให้หมดไป ตามแนวคิดของทุนนิยม ที่มุ่งที่ผลกำไรสูงสุดเพียงอย่างเดียว ไม่สนใจ ผลสืบเนื่องจากการพัฒนาอุตสาหกรรม ที่สร้างก๊าซเรือนกระจก อันเป็นต้นเหตุของก๊าซเรือนกระจก
  2. การตัดไม้ทำลายป่า การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ การสร้างบ้านเรือนกีดขวางทางน้ำ ทางลม ไม่สอดคล้องกลมกลืนกับธรรมชาติ ก่อให้เกิด ปัญหาโลกร้อน น้ำท่วม สภาพอากาศแปรเปลี่ยนไม่เป็นไปตามฤดูกาล

ประเด็นที่สอง

สาเหตุการเกิดภัยพิบัติ ทางด้านจิตนิยม จากการวิเคราะห์เรื่องกรรม และผลของกรรม

  1. เกิดจากพลังด้านลบ ด้านมืดของจิตใจ มนุษย์ ที่เสื่อมทรามลง ปราศจากศีลธรรม ความดี มีมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นแรงดึงดูดหายนะมาสู่โลกนี้
  2. แรงสะสมของความอาฆาตแค้น ของมนุษย์และสัตว์ต่างๆ ที่สะสม มาเป็นเวลานาน จากการเบียดเบียนกันบ้าง ความคับแค้นใจบ้าง ความไม่เป็นธรรมบ้าง มารวมตัวกันให้เกิดกรรมด้านปาณาติบาท
  3. อวิชชาของผู้นำประเทศที่มีอาวุธทำลายล้างสูงอยู่ในมือ มีมานะ ถือตัว ถือตน มุ่งเอาชนะกัน โดยไม่สนใจ ชาวโลก คนอื่น ที่จะต้องมารับผลกรรม รับความยากลำบาก จากการตัดสินใจของคนแค่ไม่เกินสิบคนบนโลก แต่ทำให้คนตาย เป็นพันล้านคน

แม้ทราบเหตุแล้ว วิธี ชะลอหรือแก้ไขก็มีอยู่

  1. ทุกคนบนโลกต้องกลับความคิด ทั้งหมด ลด ละ เลิก ความเห็นแก่ตัว กลับมามองว่าภารกิจแห่งชีวิตคือการร่วมมือกันรักษาโลกใบนี้
  2. ทุกคนบนโลก หันกลับมาให้คุณค่าทางจิตใจ ให้เหนือกว่าวัตถุ ทำใจตนให้เป็นคนดี ตามคำสอนของศาสนาตนเอง
  3. ทุกคนบนโลกร่วมมือกันทำสมาธิเพื่อสันติภาพของโลกใบนี้
  4. ทุกคนบนโลกต้องดำเนินชีวิต อย่างตระหนักถึงการอยู่ร่วมกัน การแบ่งปันทรัพยากรกัน และมีจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรโลกอย่างรู้คุณค่า
  5. ทุกคนบนโลกในทุกประเทศ ต้องคัดเลือกผู้นำจากผู้ที่มีศีล มีธรรม มีความดี เห็นต่อประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก
  6. ทุกคนบนโลก ต้องรู้จักประหยัด อนุรักษ์ ทุกสิ่งบนโลก ลดการใช้พลังงาน(ที่ไม่จำเป็น ) ลดขยะ ลดการบริโภคที่ฟุ่มเฟือย
  7. ทุกคนบนโลกต้องช่วยกันปลูกต้นไม้ ให้ได้วันละหนึ่งต้น ทุกวัน และทุกคน
  8. ทุกคนบนโลกต้องคิดได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ถูกบังคับให้ทำ ทั้งเจ็ดข้อนี้ และเริ่มที่ตัวเองเดียวนี้ ทันที

ถ้าทำได้ โลกเราก็ยังมีหวัง ที่จะปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งปวง

เหตุการณ์ทั้งหมด ได้ถูกเตือนผ่านเส้นการเดินทางของกาลเวลา ผ่านมาในรูปของคำทำนายต่างๆมานับร้อย นับพันปีแล้ว

และก็ได้มีการเตือนมาสามสี่ครั้งในรอบ ยี่สิบปีที่ผ่านมานี้ ที่จริง เรามีเวลาแก้ไขเหตุการณ์นี้ได้ตั้งหลายครั้ง

แต่.............

ไม่มีคนสนใจ และ ซ้ำยังหัวเราะเยาะ บ้าง

มองว่าเป็นเรื่องของคนอื่นบ้าง

ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ไม่ใช่หน้าที่ของเรา

ที่จริงแล้ว ทุกๆคน ล้วนแต่อาศัยอยู่ในโลกใบนี้ กิน อยู่ ด้วยกัน

ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ที่ทุกคนบนโลกต้องเผชิญกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้อย่างกล้าหาญ และร่วมกันแก้ไขสถานะการณ์ ด้วยความสามัคคี

อะไรที่ช่วยได้ทำได้ เราก็จงลงมือทำ ไม่ต้องเกี่ยงว่าเป็นหน้าที่ใคร อะไรที่เป็นความดี เราก็จงทำ อะไรที่ช่วยเหลือธรรมชาติได้ เราก็ลงมือทำ

เป็นหน้าที่ของทุกๆคนบนโลกใบนี้ที่ต้องลงมือทำ นับจากนี้เป็นต้นไปครับ